อัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นถูกจับตาท่ามกลางเงินเยนที่อ่อนค่า ราคาน้ำมันที่สูงขึ้น และท่าทีระมัดระวังจาก BOJ

อัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นถูกจับตาอย่างเข้มข้นในวันศุกร์ หลังจากเงินเยนแตะใกล้ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ท่ามกลางราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น และทิศทางของธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นในการดำเนินนโยบายการเงินแบบปกติ โดยเงินเยนที่อ่อนค่าได้กระพือความรุนแรงยิ่งขึ้น เนื่องจากญี่ปุ่นได้นำเข้าพลังงานมากกว่า 90%

ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของญี่ปุ่น ไม่รวมอาหารและพลังงาน คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 2.6% ในเดือนพฤษภาคมจาก 2.2% ในเดือนเมษายน ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอาจเพิ่มขึ้นจาก 2.5% เป็น 2.9% โดยรายงาน PMI ฉบับแรกของเดือนมิถุนายนจากญี่ปุ่นจะมีกำหนดรายงานในวันศุกร์ แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะเพิ่มขึ้นในเดือนพฤษภาคมเนื่องจากการเก็บภาษีพลังงาน แต่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่แคบลงได้ชะลอตัวลงเป็นเวลาเก้าเดือน ส่งผลให้การตัดสินใจของธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นในเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมีความซับซ้อนยิ่งขึ้น

ทางด้านคาซูโอะ อูเอดะ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น ระบุว่าอัตราดอกเบี้ยอาจเพิ่มขึ้นในเดือนหน้า ขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจ ท่ามกลางต้นทุนการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากการอ่อนค่าของเงินเยนที่อาจส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายภาคครัวเรือน ขณะที่ค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นอาจช่วยรักษาการบริโภคและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้ โดยอูเอดะเน้นย้ำว่าการลดการซื้อพันธบัตรและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นประเด็นที่แยกจากกัน ซึ่งคาดว่าจะเปิดเผยแผนรายละเอียดสำหรับการลดการซื้อพันธบัตรในเดือนกรกฎาคม

อย่างไรก็ดี การผ่อนคลายทางการเงินที่ยืดเยื้อของธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นได้ลดความสามารถในการทำกำไรของสถาบันการเงินลงอย่างมากในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา และส่งผลให้สถาบันหลายแห่งตกอยู่ในความเสี่ยงในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่บริษัทหลายแห่งที่ใช้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำเป็นพิเศษ ต้องเผชิญกับผลกำไรที่ซบเซา ท่ามกลางการกู้ยืมของธนาคารให้กับบริษัทที่มีกำไรต่ำเหล่านี้ที่อาจกลายเป็นปัญหาเมื่ออัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น โดยอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอาจนำไปสู่การขาดทุนจากการถือครองหลักทรัพย์ และลดความต้องการในการกู้ยืม

ทางด้านกิจกรรมโรงงานของญี่ปุ่นขยายตัวเป็นเดือนที่สองในเดือนมิถุนายน แม้ว่าจะในอัตราที่ชะลอตัวลงเนื่องจากคำสั่งซื้อที่ลดลงและแรงกดดันด้านต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ขณะที่คำสั่งซื้อเครื่องจักรใหญ่ลดลงในเดือนเมษายน ท่ามกลางรัฐบาลที่คาดการณ์ถึงแนวโน้มการฟื้นตัวของการใช้จ่ายด้านทุน โดยมุมมองเชิงบวกของผู้ผลิตในญี่ปุ่นในปีหน้าคาดว่าจะเพิ่มขึ้นแม้จะมีความท้าทายในปัจจุบัน ในขณะที่ภาคบริการมีกิจกรรมที่ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบสองปี

โดยจากข้อมูลของธนาคารกลาง ราคาบริการที่มีต้นทุนแรงงานสูง เช่น การพัฒนาซอฟต์แวร์ มีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับค่าจ้างมากกว่าบริการที่มีต้นทุนแรงงานต่ำที่ได้รับอิทธิพลจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกเป็นหลัก โดยผู้ว่าการ BOJ กล่าวว่าธนาคารกลางจะติดตามการขึ้นค่าจ้างแบบยั่งยืนอย่างใกล้ชิด และสนับสนุนให้บริษัทต่างๆ ส่งผ่านต้นทุนที่สูงขึ้นเหล่านี้ในราคาบริการก่อนตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ทั้งนี้ ในการประชุมนโยบายของธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นในเดือนเมษายน ผู้กำหนดนโยบายได้หารือถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลง โดยตั้งข้อสังเกตว่าเงินเยนที่อ่อนค่าอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญและยาวนานต่ออัตราเงินเฟ้อ เนื่องจากบริษัทต่างๆ มีแนวโน้มที่จะขึ้นราคาและค่าจ้างในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ในเดือนพฤษภาคม ญี่ปุ่นได้เปิดรับนักท่องเที่ยวมากกว่า 3 ล้านคนเป็นเดือนที่สามติดต่อกัน โดยได้รับแรงหนุนจากค่าเงินเยนที่อ่อนค่า ซึ่งส่งผลให้การใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์

ในขณะเดียวกัน ตามการสำรวจของรอยเตอร์ บริษัทญี่ปุ่นส่วนใหญ่ไม่เห็นความจำเป็นในการปฏิบัติตามสหรัฐฯ ในการเพิ่มภาษีนำเข้าจากจีน เนื่องจากกำลังการผลิตทางอุตสาหกรรมที่มากเกินไปของจีนไม่ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของตนอย่างมีนัยสำคัญ

ทางด้านรัฐมนตรีกระทรวงการคลังของเกาหลีใต้และญี่ปุ่นจะมีกำหนดประชุมที่กรุงโซลในวันที่ 25 มิถุนายน เพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการรักษาเสถียรภาพค่าเงิน

โดยกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่ายังไม่พบคู่ค้ารายใหญ่ที่เข้าแทรกแซงหรือควบคุมสกุลเงินของตนในปีที่แล้ว แต่ได้เพิ่มญี่ปุ่นเข้าไปใน "รายการตรวจสอบ" การแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ซึ่งได้รวมไปถึงจีน เวียดนาม ไต้หวัน มาเลเซีย สิงคโปร์ และเยอรมนี ซึ่งการเพิ่มรายชื่อดังกล่าวอิงจากการที่ญี่ปุ่นมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์สองในสามของกระทรวงการคลัง ได้แก่ การเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ อย่างน้อย 15 พันล้านดอลลาร์ การเกินดุลบัญชีทั่วโลกมากกว่า 3% ของ GDP และการเข้าซื้ออัตราแลกเปลี่ยนอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 2% ของ GDP มากกว่า 12 เดือน โดยญี่ปุ่น ไต้หวัน เวียดนาม และเยอรมนี ล้วนผ่านเกณฑ์การเกินดุลการค้าและการเกินดุลบัญชีเดินสะพัด

ทั้งนี้ เมื่อวันพฤหัสบดี ค่าเงินดอลลาร์แตะระดับสูงสุดในรอบเจ็ดสัปดาห์เมื่อเทียบกับเงินเยน ท่ามกลางสัญญาณของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวและการคาดการณ์เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปลายปีนี้ ขณะที่ยอดค้าปลีกในเดือนพฤษภาคมอ่อนแอ และแม้ว่าการขอรับสวัสดิการว่างงานจะลดลง แต่ยังคงสูงกว่าที่คาดไว้ บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานที่แม้จะยังคงแข็งแกร่ง ได้เริ่มเย็นตัวลง โดยดอลลาร์ซื้อขายที่ 158.89 เยน สูงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 29 เมษายน ท่ามกลางนักลงทุนที่ตื่นตัวสำหรับการแทรกแซงของธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนค่าเงินเยน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ธนาคารยังคงมีท่าทีผ่อนคลายและการเปิดเผยแผนการลดการซื้อพันธบัตร

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD USD/JPY

แนวต้านสำคัญ : 158.98, 159.02, 159.07

แนวรับสำคัญ : 158.86, 158.82, 158.77           

1H Outlook

ที่มา: TradingView                            

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 158.76 – 158.86 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 158.86 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 159.01 และ SL ที่ประมาณ 158.71 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 158.98 – 159.08 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 159.20 และ SL ที่ประมาณ 158.81 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 158.98 – 159.08 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 158.98 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 158.85 และ SL ที่ประมาณ 159.13 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 158.76 – 158.86 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 158.65 และ SL ที่ประมาณ 159.03 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Jun 21, 2024 10:46AM GMT+7