แม้ว่าราคาของ Bitcoin จะพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงแรกก่อนการประกาศให้มีการจัดตั้ง Bitcoin ETF ที่จะช่วยให้เหล่านักลงทุนสามารถเข้าถึง Bitcoin ได้มากขึ้น แต่หลังจากผ่านพ้นช่วง Bitcoin ETF และ Bitcoin Halving ราคา Bitcoin นั้นกลับยังทรงตัวอยู่ระหว่าง 60,000 - 71,000 BTC/USD ตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้ ปริมาณการซื้อขายที่ค่อยๆ ชะลอตัวลง อาจเป็นสัญญาณที่บอกได้ว่าการ FOMO ของ Bitcoin อาจใกล้จะจบลงแล้ว และนักลงทุนสายเก็งกำไรอาจขายเพื่อทำกำไรกันแล้ว
มีข้อมูลใหม่เผยว่า Coinbase ถือ Bitcoin อยู่ 55,000 ล้านดอลลาร์ คิดเป็น 4% ของอุปทานทั้งหมด โดยข้อมูลนี้มาจากแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลบล็อกเชน Glassnode โดยระบุว่า Coinbase ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำของกระดานซื้อขายคริปโตจากสหรัฐอเมริกา กำลังถือครอง Bitcoin อยู่ประมาณ 4% ของอุปทานทั้งหมด โดย Glassnode ประมาณการณ์ว่า Coinbase มี Bitcoin อยู่ในครอบครองราวๆ 839,000 BTC
นอกจากนี้ รายงานยังระบุอีกว่า Bitcoin ที่ Coinbase ถือครองอยู่นั้น มาจากปริมาณ Bitcoin ที่ต้องสำรองบนกระดานเทรดราว 270,000 BTC เพื่อเป็นการเพิ่มสภาพคล่องในระบบของตัวเองและการบริการ Coinbase Custody ที่รับดูแล Bitcoin จากเหล่ากองทุน Bitcoin ETF ในสหรัฐฯ อีกประมาณ 569,000 BTC
ทั้งนี้ Bitcoin อาจร่วงไปถึง 60,000 ดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนยังคงเทขาย Bitcoin และคริปโตอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง โดยมีข้อมูลจาก CryptoQuant ระบุว่าหากราคา Bitcoin ร่วงทะลุแนวรับ อาจจะทำให้เกิดการปรับฐานที่ประมาณ 8%-12% และทำให้ราคา Bitcoin ร่วงไปถึง 60,000 ดอลลาร์
โดยมีตัวชี้วัดคือปริมาณแรงซื้อที่เกิดขึ้น แม้ว่า Bitcoin จะมีกรอบการซื้อขายที่สูง แต่ความต้องการ Bitcoin ดูเหมือนจะลดลง โดยนักนักลงทุนไม่ได้ช้อนซื้อ Bitcoin เพิ่มขึ้นและผู้ถือ Bitcoin รายใหญ่ยังคงไม่มีสัญญาณที่จะซื้อเพิ่มเช่นเดียวกัน โดยวาฬได้ถือ Bitcoin เพิ่มขึ้นประมาณ 4.8% ต่อเดือนเท่านั้น ซึ่งต่างจากช่วงไตรมาสที่ 1 ที่มีการถือ Bitcoin เพิ่มขึ้น 6%-10% ต่อเดือน นี่เป็นอัตราการเติบโตที่ช้าที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2023 ส่งสัญญาณว่าราคา Bitcoin อาจจะยังไม่พุ่งขึ้นเร็วๆ นี้
นอกจากนี้แล้ว สภาพคล่องของเหรียญ Stablecoin ก็ชะลอตัวอย่างมาก โดย Market Cap ของ USDT ได้ร่วงลงจาก 1.26 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงปลายเดือนเมษายนเหลือเพียง 3.7 พันล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน
แนวต้านสำคัญ: 64575, 64734, 64855
แนวรับสำคัญ: 64295, 64174, 64015
Buy/Long 1: หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 64174 - 64295 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 64295 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 64734 และ SL ที่ประมาณ 64015 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2: หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 64575 - 64734 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 64855 และ SL ที่ประมาณ 64174 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1: หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 64575 - 64734 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 64575 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 64174 และ SL ที่ประมาณ 64855 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2: หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 64174 - 64295 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 64015 และ SL ที่ประมาณ 64734 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
จุดกลับตัว 22 มิถุนายน 2567 19:21 น. GMT+7
|
Name
|
S3
|
S2
|
S1
|
จุดกลับตัว
|
R1
|
R2
|
R3
|
| Classic | 64015 | 64174 | 64295 | 64454 | 64575 | 64734 | 64855 |
| Fibonacci | 64174 | 64281 | 64347 | 64454 | 64561 | 64627 | 64734 |
| Camarilla | 64339 | 64364.7 | 64390.3 | 64454 | 64441.7 | 64467.3 | 64493 |
| Woodie's | 63996 | 64164.5 | 64276 | 64444.5 | 64556 | 64724.5 | 64836 |
| DeMark's | - | - | 64234.5 | 64423.8 | 64514.5 | - | - |
List of content
FXtoday.news เป็นเพียงเว็บไซต์ที่นำเสนอข่าวสาร และให้ความรู้เกี่ยวกับตลาดทางการเงิน โดยไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อชักนำหรือเชิญชวน ในการลงทุนแต่อย่างใด โดยจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใด ๆ ที่เกิดจากการพึ่งพาข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้ รวมถึงข่าวการตลาด การวิเคราะห์ สัญญาณการซื้อขาย และบทวิจารณ์
