เจ้าหน้าที่ระดับสูง "ทำเนียบขาว" ตบเท้ายื่นใบลาออก เหตุ "โดนัลด์ ทรัมป์" สนับสนุนการก่อเหตุจลาจลที่รัฐสภาสหรัฐฯ หวังล้มเลิกกระบวนการรับรอง "โจ ไบเดน" เป็นผู้นำคนต่อไป เหตุจลาจลในกรุงวอชิงตันของสหรัฐอเมริกาโดยผู้ประท้วงกลุ่มสนับสนุน "โดนัลด์ ทรัมป์" สร้างความวุ่นวายให้กับกระบวนการหารือเพื่อลงมติรับรองผลการเลือกตั้งของทุกมลรัฐตามมติคณะผู้เลือกตั้งเพื่อรับรองให้โจ ไบเดน เป็นประธานาธิบดีคนที่ 46 ของสหรัฐฯ ของทั้งวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ เป็นเหตุให้ต้องยกเลิกไปก่อนชั่วคราว และแม้ในที่สุดรัฐสภาจะสามารถกลับมาดำเนินการรับรองผลเลือกตั้งต่อได้อีก แต่การใช้ความรุนแรงของกลุ่มผู้ประท้วงที่ได้รับการประกาศสนับสนุนโดยประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย สร้างความไม่พอใจอย่างมากให้กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาล

เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในทำเนียบขาวต่างทยอยยื่นใบลาออกอย่างต่อเนื่อง NBC News รายงานว่าหนึ่งในนั้นคือ สเตฟานี กริชเเฮม หัวหน้าคณะทำงานของ เมลาเนีย ทรัมป์ สตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯ ได้ยื่นใบลาออกทันทีในช่วงบ่ายของวันที่ 6 ม.ค.หลังเกิดเหตุความรุนแรง นอกจากนั้นก็ยังมี ซาราห์ แมทธิว โฆษกทำเนียบขาว และริกกี ไนซ์ทา ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรมทำเนียบขาว  

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลทรัมป์ก็กำลังพิจารณายื่นใบลาออกเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น โรเบิร์ต โอไบรอัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ แมตต์ พอตทิงเกอร์ ผู้ช่วยที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ และอีเลน เชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

อย่างไรก็ตามด้านกระทรวงการคมนาคม ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้ ขณะที่โฆษกของสภาที่ปรึกษาด้านความมั่นคงสหรัฐฯ ก็ยังไม่ออกมายืนยันเช่นกัน 

"ไม่มีใครเคยคาดคิดว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้น ความผิดทั้งหมดตกอยู่ที่ประธานาธิบดีคนเดียว การสนับสนุนที่ทรัมป์เคยได้รับจากสมาชิกทำเนียบขาวได้หมดไปแล้ว และมีความเป็นไปได้สูงมากที่เขาจะถูกถอดถอนในช่วงเวลาสุดท้ายของการดำรงตำแหน่ง" หนึ่งในผู้ทำงานอย่างยาวนานในทำเนียบขาวกล่าว