บทวิเคราะห์ USD/CAD วันที่ 25 มิถุนายน 2567

Create at 4 months ago (Jun 25, 2024 09:50)

ยอดค้าปลีกเดือนเมษายนของแคนาดาฟื้นตัว จับตาการขึ้นภาษีรถยนต์ไฟฟ้าของจีน

ในเดือนเมษายน ยอดค้าปลีกของแคนาดาเพิ่มขึ้น โดยได้แรงหนุนจากยอดขายปั๊มน้ำมัน ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกของปี ในหมวดนี้ และได้พลิกกลับการลดลงในสามเดือนก่อน โดยพบยอดขายรวมอยู่ที่ 66.80 พันล้านดอลลาร์แคนาดา (48.78 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)

ทั้งนี้ ประมาณการเบื้องต้นเดือนพฤษภาคมบ่งชี้ว่ายอดค้าปลีกอาจลดลง 0.6% โดยนอกเหนือจากน้ำมันเบนซินแล้ว ยอดขายอาหารและเครื่องดื่มยังมีส่วนสำคัญและเพิ่มขึ้น 1.9% อย่างไรก็ตาม ยอดขายยานยนต์และชิ้นส่วนลดลง 2.2% ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าการฟื้นตัวของเดือนเมษายนได้เกิดขึ้จเนื่องจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น แม้ว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคจะยังคงตึงตัวจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงก็ตาม

ในขณะเดียวกัน แคนาดากำลังพิจารณาอัตราภาษีสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ผลิตในจีน เพื่อตอบโต้นโยบายที่ถูกมองว่าเป็นการแข่งขันที่ไม่ยุติธรรมจากอุตสาหกรรมที่ได้รับเงินอุดหนุนจากจีน สอดคล้องกับการดำเนินการที่คล้ายกันของสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป โดยรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง คริสเทีย ฟรีแลนด์ ได้ประกาศช่วงการปรึกษาหารือสาธารณะซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม เพื่อหารือเกี่ยวกับการตอบโต้ที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่จีนปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องการอุดหนุนที่ไม่เป็นธรรม โดยอ้างว่าการเติบโตของอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าของตนนั้นมาจากความได้เปรียบทางเทคโนโลยีและตลาด ขณะที่การตัดสินใจครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ของแคนาดาในการเสริมความแข็งแกร่งให้กับตำแหน่งในห่วงโซ่อุปทาน EV ทั่วโลก ท่ามกลางแรงกดดันภายในประเทศเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมยานยนต์

ทางด้านทิฟฟ์ แม็กเลม ผู้ว่าการธนาคารกลางแคนาดา ตั้งข้อสังเกตว่าในขณะที่ผู้หางานบางราย โดยเฉพาะแรงงานอายุน้อยและแรงงานใหม่ อาจเผชิญกับความท้าทาย แต่ตลาดแรงงานยังคงมีช่องว่างเพียงพอที่จะสนับสนุนการเติบโตของงานและการขยายตัวทางเศรษฐกิจเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่ลดลง โดยแม็กเลมแนะนำว่าภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันสามารถช่วยรัฐบาลจัดการจำนวนคนเข้าเมืองได้ โดยไม่ทำให้ตลาดแรงงานตึงตัวมากเกินไป ขณะที่ธนาคารกลางเห็นสัญญาณของการชะลอการเติบโตของค่าจ้าง และจะติดตามข้อมูลเงินเฟ้อที่จะเกิดขึ้นเพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจนโยบายการเงินในอนาคต

ทั้งนี้ ในเดือนเมษายน อัตราเงินเฟ้อรายปีของแคนาดาลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบสามปีมาอยู่ที่ 2.7% ซึ่งต่ำกว่า 3% สี่เดือนติดต่อกัน ท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง โดย Statistics Canada จะเปิดเผยข้อมูลอัตราเงินเฟ้อเดือนพฤษภาคมในวันที่ 25 มิถุนายนนี้ ขณะที่การตัดสินใจนโยบายการเงินครั้งต่อไปของธนาคารแห่งแคนาดาและการอัปเดตการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจมีกำหนดเผยแพร่ในวันที่ 24 กรกฎาคม ซึ่งก่อนหน้านี้ ตลาดเงินคาดการณ์ถึงความเป็นไปได้ 73% ที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคม และคาดว่าจะมีการปรับลด 25 จุดรวมทั้งหมดสามครั้งภายในสิ้นปี

ทางด้านเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นก่อนการประกาศดัชนีราคาค่าใช้จ่ายการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญสำหรับเฟด ท่ามกลางนักลงทุนที่มุ่งเน้นไปที่การดีเบตชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่กำลังจะมีขึ้นระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน และอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รวมถึงการเลือกตั้งฝรั่งเศสที่จะเริ่มในสุดสัปดาห์นี้

จากการสำรวจโดย Strategas ระบุถึงการคาดการณ์ที่เปลี่ยนแปลงของนักลงทุนเกี่ยวกับนโยบายจากเฟด โดยปัจจุบันนักลงทุนคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสองครั้งในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม 2024 แทนที่จะเป็นเดือนกันยายน สอดคล้องกับการคาดการณ์ของ Strategas ที่คาดว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยสองครั้งในปีนี้ โดยอาจเริ่มในช่วงต้นเดือนกันยายน นอกจากนี้ การคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยระยะยาวยังมีแนวโน้มลดลง โดยคาดว่าจะลดลง 25 จุดในช่วง 36 เดือนข้างหน้า ซึ่งบ่งชี้ว่าอัตราผลตอบแทนระยะยาวอาจลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ในตอนแรก อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่บ่งบอกถึงการภาวะเงินเฟ้อที่ลดลงเพิ่มเติม จะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการปรับเปลี่ยนที่ชัดเจนยิ่งขึ้นในการคาดการณ์ระยะยาว จึงอาจส่งผลให้เงินดอลลาร์แคนาดามีแนวโน้มทรงตัวในกรอบปัจจุบันได้ในช่วงนี้ และอาจอ่อนค่าลงได้เล็กน้อยจากสภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ยังคงความแข็งแกร่งกว่าในระยะกลาง

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (30Min) CFD USD/CAD

แนวต้านสำคัญ : 1.3653, 1.3655, 1.3657

แนวรับสำคัญ : 1.3649, 1.3647, 1.3645                                     

30Min Outlook

วิเคราะห์ USD/CAD ที่มา: TradingView  

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.3644 - 1.3649 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.3649 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3653 และ SL ที่ประมาณ 1.3642 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3653 - 1.3658 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3664 และ SL ที่ประมาณ 1.3647 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3653 - 1.3658 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 1.3653 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3647 และ SL ที่ประมาณ 1.3660 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.3644 - 1.3649 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3640 และ SL ที่ประมาณ 1.3655 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Jun 25, 2024 09:39AM GMT+7

Name
S3
S2
S1
Pivot Points
R1
R2
R3
Classic 1.3641 1.3645 1.3647 1.3651 1.3653 1.3657 1.3659
Fibonacci 1.3645 1.3647 1.3649 1.3651 1.3653 1.3655 1.3657
Camarilla 1.3649 1.3649 1.365 1.3651 1.3651 1.3652 1.3652
Woodie's 1.3641 1.3645 1.3647 1.3651 1.3653 1.3657 1.3659
DeMark's - - 1.3647 1.3651 1.3653 - -

ที่มา: Investing 1Investing 2

______________________________
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิกที่นี่
รู้เท่าทันสถานการณ์โลกและบทวิเคราะห์เทคนิคขั้นสูงคลิกที่นี่
Tags:

TECHNICAL ANALYSIS

ARTICLES