ข้อมูลที่หลากหลายและข้อกังวลทางเศรษฐกิจ ส่งผลต่อการแข็งค่าของ AUD

ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.35% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 12 ปี ในระหว่างการประชุมนโยบายเมื่อเดือนมิถุนายน ส่งสัญญาณว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมเพื่อจัดการกับภาวะเงินเฟ้ออาจเกิดขึ้นได้หากจำเป็น โดยการตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางเศรษฐกิจที่เกือบหยุดชะงักในไตรมาสแรกและการเติบโตของค่าจ้างที่ช้ากว่าที่คาด

แม้จะมีข้อมูลล่าสุดที่หลากหลาย แต่ RBA เน้นย้ำถึงการเฝ้าระวังความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ โดยอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ที่ 3.6% ซึ่งสูงกว่ากรอบเป้าหมายที่ 2-3% ขณะที่ตลาดคาดการณ์ว่าอาจไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในทันที โดยคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในปี 2025

ทางด้านความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยในเดือนมิถุนายนเนื่องจากมาตรการลดภาษีที่อาจเกิดขึ้น ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนการกู้ยืมที่อาจสูงขึ้น และแม้ว่าฐานะทางการเงินของครัวเรือนจะดีขึ้นเล็กน้อย แต่แนวโน้มเศรษฐกิจยังคงซบเซา โดยดัชนีการใช้จ่ายของใช้ในครัวเรือนหลักอยู่ที่ 79.7 ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 124 ค่อนข้างมาก

ขณะเดียวกัน Morgan Stanley รายงานว่า แม้ว่าราคาอสังหาริมทรัพย์จะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แต่กิจกรรมของภาคที่อยู่อาศัยของออสเตรเลียกำลังเผชิญกับภาวะถดถอย ท่ามกลางตัวชี้วัดต่างๆ เช่น การล้มละลายที่เพิ่มขึ้นในภาคการก่อสร้างที่อยู่อาศัยที่ชี้ให้เห็นถึงปัญหาสำคัญ

ทางด้านเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงแข็งค่าในวันพุธ เนื่องจากนักลงทุนรอข้อมูลดัชนีราคาสหรัฐฯ ที่มีกำหนดรายงานในช่วงปลายสัปดาห์ ซึ่งการแข็งค่าของเงินดอลลาร์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาได้รับแรงหนุนจากความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ยังคงท่าทีความเข้มงวดและข้อมูลตลาดที่อยู่อาศัยที่ทรงตัว ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดอาจชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยออกไป

ทั้งนี้ ราคาบ้านเดี่ยวในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนเมษายน แสดงให้เห็นการเติบโตที่มั่นคง แม้ว่าต้นทุนการกู้ยืมจะสูงขึ้น ขณะที่จำนวนที่อยู่อาศัยคงเหลือเพิ่มขึ้นเนื่องจากอัตราการจำนองยังคงอยู่ในระดับสูง และยอดขายบ้านมือสองลดลงเป็นเดือนที่สามติดต่อกันในเดือนพฤษภาคม

โดยอัตราเฉลี่ยสำหรับการจำนองแบบคงที่ 30 ปีแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนที่ 7.22% ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ตามข้อมูลของ Freddie Mac แม้ว่าจะลดลงเหลือ 6.87% ในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ก็ยังสูงกว่าค่าเฉลี่ย 6.67% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ทางด้านความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ลดลงเล็กน้อยในเดือนมิถุนายน ขณะที่มุมมองเชิงบวกของตลาดแรงงานและการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในระดับปานกลางช่วยรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจไว้ได้ โดยการสำรวจยังระบุถึงแนวโน้มที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ลดลงในช่วง 12 เดือนข้างหน้า เมื่อเทียบกับเดือนเมษายนและพฤษภาคม และแม้ว่าผู้บริโภคจำนวนน้อยลงวางแผนที่จะซื้อยานพาหนะและเครื่องใช้ในครัวเรือนในอีก 6 เดือนข้างหน้า แต่ตั้งใจที่จะจับจ่ายใช้สอยในการพักผ่อนและท่องเที่ยวขึ้น ท่ามกลางสภาวะตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งที่ยังคงสนับสนุนการใช้จ่ายของผู้บริโภคและเศรษฐกิจโดยรวม

ขณะเดียวกัน ผู้บริโภคยังคงเฝ้าจับตาและพิจารณาประเด็นเกี่ยวกับการเมือง แต่พบผู้บริโภคจำนวนน้อยลงที่เชื่อว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2016 แต่คาดว่าอาจจะส่งผลมากกว่าการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายน 2020 เล็กน้อย ขณะที่ปัจจุบัน นักลงทุนกำลังคาดการณ์การเปิดเผยค่าใช้จ่ายการบริโภคส่วนบุคคลของสหรัฐฯ (PCE) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญสำหรับเฟดในวันศุกร์นี้ จึงอาจส่งผลให้การแข็งค่าในระยะยาวของ AUD คาดว่าจะยังถูกจำกัดอย่างต่อเนื่องในระยะกลาง

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD AUD/USD

แนวต้านสำคัญ : 0.6676, 0.6683, 0.6695

แนวรับสำคัญ : 0.6652, 0.6645, 0.6633             

1H Outlook     

ที่มา: TradingView

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 0.6642 - 0.6652 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 0.6652 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 0.6685 และ SL ที่ประมาณ 0.6637 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 0.6676 - 0.6686 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 0.6715 และ SL ที่ประมาณ 0.6647 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 0.6676 - 0.6686 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 0.6676 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 0.6652 และ SL ที่ประมาณ 0.6691 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 0.6642 - 0.6652 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 0.6620 และ SL ที่ประมาณ 0.6681 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Jun 26, 2024 09:57AM GMT+7