ตลาดข้าวสาลีเผชิญกับการลดลงท่ามกลางแนวโน้มการเก็บเกี่ยวทั่วโลกที่หลากหลายและการคาดการณ์การผลิตของรัสเซียที่เพิ่มขึ้น

ตลาดข้าวสาลีเผชิญกับราคาที่ลดลงเนื่องจากการขายทำกำไรและการขายทางเทคนิค ท่ามกลางความล่าช้าในการเก็บเกี่ยวข้าวสาลีฤดูหนาวของสหรัฐฯ ขณะที่ข้าวสาลีฤดูใบไม้ผลิในที่ราบทางตอนเหนือของสหรัฐฯ และแคนาดา คาดว่าจะเผชิญกับสภาพอากาศที่ชื้นและเย็น ซึ่งคาดว่าจะจำกัดการเติบโตในช่วงต้นของการเพาะปลูก โดยตลาดยังคงติดตามการเก็บเกี่ยวของรัสเซียและความแห้งแล้งที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคทะเลดำ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อข้าวสาลีฤดูใบไม้ผลิทั้งในรัสเซียและยูเครน ขณะเดียวกัน SovEcon เพิ่มแนวโน้มผลผลิตข้าวสาลีทั้งหมดของรัสเซียเป็น 84.1 ล้านตัน ท่ามกลางรัสเซียที่ยังคงรักษาราคาข้าวสาลีที่ต่ำที่สุดทั่วโลก สร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในการส่งออก

ทั้งนี้ ตลาดข้าวสาลีถูกกดดันหลังจากที่ SovEcon ได้เพิ่มการคาดการณ์สำหรับผลผลิตข้าวสาลีของรัสเซีย โดยรายงานการเก็บเกี่ยวในทะเลดำเบื้องต้นพบว่าดีกว่าที่คาด แม้ว่าภูมิภาคตอนกลางและโวลก้าของรัสเซียจะประสบกับความร้อนที่อาจส่งผลต่อการผลิตข้าวสาลีฤดูใบไม้ผลิ ขณะที่พื้นที่ปลูกข้าวสาลีในอาร์เจนตินาเผชิญกับอุณหภูมิที่สูงขึ้นและปริมาณน้ำฝนที่ลดลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อการประมาณการ และสภาพอากาศของบราซิลเผชิญกับความหลากหลาย แตกต่างกันไปตามภูมิภาค

ทางด้านกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงของญี่ปุ่น (MAFF) ซื้อข้าวสาลีคุณภาพอาหารจำนวน 129,660 เมตริกตันจากสหรัฐอเมริกา แคนาดา และออสเตรเลียผ่านการประกวดราคาทั่วไปที่สิ้นสุดในวันที่ 3 กรกฎาคม โดยญี่ปุ่นซึ่งเป็นผู้นำเข้าข้าวสาลีรายใหญ่อันดับหกของโลก ได้ควบคุมการนำเข้าข้าวสาลีอย่างเข้มงวดผ่านการประมูลเดือนละสามครั้ง

ขณะเดียวกัน ผลผลิตข้าวสาลีของอินเดียทำสถิติสูงสุดในฤดูกาล Rabi ปี 2023-24 ซึ่งเพิ่มขึ้น 2.9% จากปีก่อนหน้า แม้ว่าพื้นที่เพาะปลูกจะลดลง โดยผลผลิตเพิ่มขึ้นเนื่องมาจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย เมล็ดพันธุ์ที่ยืดหยุ่นต่อสภาพอากาศ และการรับประกันราคาจากรัฐบาล ขณะที่บรรษัทข้าวแห่งอินเดีย (FCI) จัดซื้อข้าวสาลีจำนวน 26.6 ล้านตัน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร 2.2 ล้านคนด้วยการชำระเงินในราคาสนับสนุนขั้นต่ำ (MSP)

ขณะเดียวกัน คาซัคสถานวางแผนที่จะเพิ่มการส่งออกข้าวสาลีไปยังจีนเป็น 2 ล้านตัน โดยมุ่งเน้นไปที่ความร่วมมือทางการเกษตร รวมถึงทรัพย์สินทางปัญญาและการจัดการทรัพยากรน้ำ โดยในปี 2023 การส่งออกทางการเกษตรของคาซัคสถานไปยังจีนเพิ่มขึ้นสองเท่า โดยมีมูลค่าถึง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ทางด้านโมร็อกโกนำเข้าข้าวสาลีมากกว่า 200,000 ตันจากรัสเซียในช่วงครึ่งแรกของปี ท่ามกลางคณะผู้แทนจากสำนักงานความปลอดภัยด้านอาหารแห่งชาติของโมร็อกโกที่เยือนรัสเซียเพื่อสังเกตมาตรการควบคุมคุณภาพธัญพืช โดยการนำเข้าข้าวสาลีของโมร็อกโกคาดว่าจะสูงถึง 7.5 ล้านตันในปี 2024-25

ในทางกลับกัน หน่วยงานธัญพืชของรัฐตูนิเซียได้ออกประกวดราคาระหว่างประเทศเพื่อซื้อข้าวสาลีดูรัมจำนวน 50,000 ตัน ซึ่งข้อเสนอครบกำหนดในวันที่ 4 กรกฎาคม ขณะที่อุปทานที่ขาดแคลนจากแคนาดาเนื่องจากภัยแล้งได้รับการชดเชยด้วยยอดขายที่เพิ่มขึ้นจากตุรกี

ทางด้านเซอร์เบียคาดว่าจะเก็บเกี่ยวข้าวสาลีได้ 2.9 ล้านตันในปี 2024 ลดลง 16% จากปีก่อนหน้า เนื่องจากพื้นที่เก็บเกี่ยวที่ลดลง อย่างไรก็ตาม ผลผลิตคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 5.3 ตันต่อเฮกตาร์

ในตลาด CBOT ราคาข้าวสาลีเดือนกันยายนร่วงลง 1.3% เหลือ 5.73 ดอลลาร์ต่อบุชเชลในวันพุธ เนื่องจากความเสียหายที่คาดการณ์ไว้ต่อการเก็บเกี่ยวของรัสเซียจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยที่รุนแรงน้อยลง

ทางด้านราคาข้าวสาลีในยุโรปลดลงในวันอังคาร โดยปรับฐานหลังจากเพิ่มขึ้น 2.5% ในช่วงก่อนหน้า หลังจากที่ความกังวลเกี่ยวกับพืชผลในยุโรปและทะเลดำทำให้ราคาสูงขึ้นก่อนหน้านี้ ขณะที่ราคาส่งออกข้าวสาลีของรัสเซียลดลงเป็นเวลาสี่สัปดาห์ติดต่อกัน แม้ว่าขนาดการเก็บเกี่ยวขั้นสุดท้ายจะยังคงไม่แน่นอน

ทั้งนี้ ความสนใจของตลาดยุโรปอยู่ที่การเก็บเกี่ยวในฝรั่งเศส ซึ่งได้รับผลกระทบจากการคาดการณ์พายุล่าสุดและปริมาณน้ำฝน โดยบริษัทที่ปรึกษา Agritel ตั้งข้อสังเกตถึงความกังวลของตลาดเกี่ยวกับผลผลิตข้าวสาลีในลุ่มน้ำทะเลดำและยุโรปตะวันตก จึงอาจส่งผลให้ราคาข้าวสาลีอาจปรับตัวขึ้นลงในกรอบปัจจุบันไปจนถึงปรับราคาขึ้นได้ในช่วงนี้ ตามสภาพภูมิอากาศที่มีความไม่แน่นอนทั่วโลก

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD US Wheat Futures - Sep 24 (ZWU4)

แนวต้านสำคัญ : 576.31, 577.37, 579.09

แนวรับสำคัญ : 572.87, 571.81, 570.09                   

1H Outlook   

ที่มา: TradingView                            

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 572.37 - 572.87 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 572.87 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 576.31 และ SL ที่ประมาณ 572.12 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 576.31 - 576.81 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 583.00 และ SL ที่ประมาณ 572.62 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 576.31 - 576.81 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 576.31 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 571.80 และ SL ที่ประมาณ 601.81 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 572.37 - 572.87 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 566.00 และ SL ที่ประมาณ 576.56 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Jul 4, 2024 10:05AM GMT+7