จีนยังจำเป็นต้องสนับสนุนเศรษฐกิจที่เปราะบาง
ค่าเงินหยวนอ่อนค่าลงต่อเนื่อง ท่ามกลางข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของจีน ด้านภาคการผลิตยังคงหดตัวต่อเนื่อง ในขณะที่ภาคการบริการขยายตัวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินหยวนยังสะท้อนถึงการตัดสินใจของธนาคารกลางจีนในการกำหนดอัตรากลาง ซึ่งบ่งชี้ว่าธนาคารกลางตั้งใจให้ค่าเงินหยวนอ่อนค่าลงมากขึ้น และดึงดูดความสนใจของนักลงทุนไปที่ตัวชี้วัดเศรษฐกิจที่กำลังจะมาถึง โดยเฉพาะตัวเลขเงินเฟ้อในสัปดาห์หน้า
ยอดค้าปลีกของจีนเติบโต 3.7% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนพฤษภาคม ถือเป็นการเติบโตต่อเนื่องเดือนที่ 16 ติดต่อกัน โดยยอดขายส่วนใหญ่ยังคงเพิ่มขึ้นในกลุ่มสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม นอกจากนี้ยอดขายเสื้อผ้ากลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้งหลังจากชะลอตัวลงในเดือนก่อนหน้า ในขณะที่ยอดขายรถยนต์หดตัวในอัตราที่ช้าลง แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่กลับมาเพิ่มขึ้นในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม
การผลิตของภาคอุตสาหกรรมในจีนขยายตัว 5.6% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนพฤษภาคม ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ของตลาดที่ 6% และชะลอตัวลงจากการเติบโต 6.7% ในเดือนก่อนหน้า เมื่อดูเป็นรายอุตสาหกรรม พบว่ามี 33 จาก 41 ภาคส่วนที่ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับเคมี ซึ่งเปรียบเสมือนพื้นฐานของหลายอุตสาหกรรม เติบโตเพิ่มขึ้น 12.7% นอกจากนี้ยังมีอุตสาหกรรมยานยนต์, สิ่งทอและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยังสามารถเติบโตต่อไปได้
การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในจีนลดลง 28.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี เหลือ 412,500 ล้านหยวนในช่วงเดือนมกราคมถึงพฤษภาคม ซึ่งถือเป็นการลดลงมากที่สุดในช่วง 5 เดือนแรกของปี โดยลดลงจากต้นปีประมาณ 12.2% หรือ 50,410 ล้านหยวน ทั้งนี้การลงทุนส่วนใหญ่ยังคงเข้าสู่ภาคการผลิตที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง แหล่งที่มาของการลงทุนส่วนใหญ่มาจากเยอรมนีและสิงคโปร์เพิ่มขึ้น 24.2% และ 16.2% ตามลำดับ เมื่อพิจารณาเฉพาะเดือนพฤษภาคม มีเงิน 52,300 ล้านหยวนที่ลงทุนภายในประเทศ
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลจีนอายุ 10 ปีลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 2.18% ถือเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากนักลงทุนยังคงไม่มั่นใจต่อเศรษฐกิจภายในประเทศ เนื่องจากสัญญาณทางเศรษฐกิจที่ขัดแย้งกันจากตัวเลขดัชนี PMI ล่าสุด โดยการสำรวจภาคเอกชนเผยให้เห็นว่าการเติบโตของภาคโรงงานในจีนเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี อย่างไรก็ตาม ข้อมูลอื่นๆ ที่เผยแพร่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่ได้ส่งสัญญาณเชิงบวกมากนัก โดยแสดงให้เห็นว่ากิจกรรมในภาคการผลิตยังคงหดตัวเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน ในขณะที่ ภาคบริการก็มีการเติบโตเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)
แนวต้านสำคัญ: 7.271, 7.2715, 7.2722
แนวรับสำคัญ: 7.2699, 7.2693, 7.2688
ที่มา: Investing.com
Buy/Long 1: หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 7.2693 - 7.2699 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 7.2699 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 7.2715 และ SL ที่ประมาณ 7.2688 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2: หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 7.271 - 7.2715 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 7.2722 และ SL ที่ประมาณ 7.2693 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1: หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 7.271 - 7.2715 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 7.271 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 7.2693 และ SL ที่ประมาณ 7.2722 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2: หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 7.2693 - 7.2699 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 7.2688 และ SL ที่ประมาณ 7.2715 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
จุดกลับตัว 4 กรกฎาคม 2567 18:16 น. GMT+7
ชื่อ
|
S3
|
S2
|
S1
|
จุดกลับตัว
|
R1
|
R2
|
R3
|
Classic | 7.2688 | 7.2693 | 7.2699 | 7.2704 | 7.271 | 7.2715 | 7.2722 |
Fibonacci | 7.2693 | 7.2697 | 7.27 | 7.2704 | 7.2708 | 7.2711 | 7.2715 |
Camarilla | 7.2701 | 7.2702 | 7.2703 | 7.2704 | 7.2706 | 7.2707 | 7.2708 |
Woodie's | 7.2688 | 7.2693 | 7.2699 | 7.2704 | 7.271 | 7.2715 | 7.2722 |
DeMark's | - | - | 7.2701 | 7.2705 | 7.2712 | - | - |