ดอลลาร์ร่วงจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ยูโรเผชิญกับความไม่แน่นอนทางการเมือง
คู่สกุล EUR/USD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง อย่างไรก็ตาม เงินยูโรอาจต้องพยายามอย่างมากในการรักษาแนวโน้มนี้ไว้เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมืองในภูมิภาค หลังจากที่เงินยูโรอ่อนค่าลงกว่า 1% นับตั้งแต่ประธานาธิบดีมาครงของฝรั่งเศสเรียกร้องให้มีการเลือกตั้ง ซึ่งเพิ่มความไม่แน่นอนก่อนการเลือกตั้งรอบคัดเลือกที่กำลังจะมาถึง
ทางด้าน บอสยัน วาซเล่ ผู้ว่าการธนาคารกลางสโลวีเนีย แนะนำให้ใช้ความระมัดระวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยอ้างถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากภาวะเงินเฟ้อที่ลดลงในยูโรโซน ขณะที่ ECB เน้นย้ำถึงการใช้ความอดทนในงานฟอรัมล่าสุด และส่งสัญญาณว่ายังไม่พบแรงกดดันในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม แม้ว่าการลดลงของเงินเฟ้อและความผันผวนของตลาดตราสารหนี้จะเริ่มชะลอตัวลง
ทั้งนี้ ECB ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในวันที่ 6 มิถุนายน แต่ไม่มีการยืนยันว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต โดยการประชุมในวันที่ 18 กรกฎาคมคาดว่าจะไม่พบการเปลี่ยนแปลง แม้ว่าการเติบโตของค่าจ้างจะปรับตัวดีขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ แต่ความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่หนืดกว่าที่คาดยังคงมีอยู่ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความเชื่อมั่นว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลงสู่เป้าหมาย 2% ภายในสิ้นปี 2025 ขณะที่การติดตามค่าจ้างของ ECB และผลตอบรับจากองค์กรบ่งชี้ว่าแรงกดดันด้านค่าจ้างลดลง ซึ่งสนับสนุนความคาดหวังถึงอัตราเงินเฟ้อที่อาจลดลง ท่ามกลางนักลงทุนที่คาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 43 จุดในปีนี้ และ 110 จุดภายในปี 2025
โดยอัตราเงินเฟ้อยูโรโซนลดลงเหลือ 2.5% ในเดือนมิถุนายน แต่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังคงทรงตัวที่ 2.9% โดยได้แรงหนุนจากราคาบริการที่สูง ขณะที่การขาดแคลนแรงงานและการเติบโตของค่าจ้างอย่างรวดเร็วในภารการบริการอาจรักษาแรงกดดันด้านราคาที่สูง และทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงกว่าเป้าหมาย ท่ามกลางการว่างงานในยูโรโซนยังคงอยู่ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 6.4% ในเดือนพฤษภาคม เน้นย้ำถึงความตึงตัวของตลาดแรงงาน
ทางด้านกิจกรรมการผลิตแย่ลงท่ามกลางความต้องการที่ลดลง แม้ว่าจะมีการปรับลดราคาจากโรงงานผู้ผลิต ขณะที่การออมของครัวเรือนในยูโรโซนเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบสามปีที่ 15.3% ในไตรมาสแรกของปี 2024 ท่ามกลางการลงทุนที่ลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นปี 2021 โดยการออมที่เพิ่มขึ้นนี้ คาดว่าอาจเกิดจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ซึ่งตรงกันข้ามกับการลงทุนในครัวเรือนที่ลดลง ขณะที่การเติบโตของธุรกิจโดยรวมชะลอตัวในยูโรโซน โดยการขยายของภาคบริการยังไม่สามารถชดเชยการลดลงของภาคการผลิตได้
สำหรับอัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนมิถุนายน โดยกลับมามีแนวโน้มลดลงอีกครั้งหลังจากเพิ่มขึ้นเป็นเวลาสองเดือน ท่ามกลางการสำรวจโดยสถาบัน Ifo ที่ระบุว่ามีบริษัทเยอรมันเพียงไม่กี่แห่งที่วางแผนปรับขึ้นราคาสินค้าและบริการเมื่อเทียบกับเดือนก่อน
ทางด้านคำสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีลดลง 1.6% ในเดือนพฤษภาคม นับเป็นการลดลงเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน ซึ่งบ่งบอกถึงการต่อสู้อย่างต่อเนื่องสำหรับภาคการผลิต โดยจากการเปรียบเทียบในช่วงสามเดือนพบว่าคำสั่งซื้อลดลง 6.2% ตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม ขณะที่ข้อมูล PMI ในเดือนมิถุนายนยืนยันการชะลอตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการผลิต และดัชนีบ่งชี้ภาวะทางธุรกิจของ Ifo เผยให้เห็นถึงแนวโน้มในแง่ลบในหมู่ผู้ผลิต
ทั้งนี้ กระทรวงเศรษฐกิจเยอรมนีตั้งข้อสังเกตว่าคำสั่งซื้อที่ลดลงอย่างต่อเนื่องและความคาดหวังทางธุรกิจที่ตกต่ำบ่งชี้ถึงเศรษฐกิจอุตสาหกรรมที่ซบเซา โดยให้ความเห็นว่าคำสั่งซื้ออาจมีเสถียรภาพเมื่อมีการฟื้นตัวของการค้าโลกและความต้องการผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ดี ในขณะที่ภาคบริการของเยอรมนีมีกิจกรรมทางธุรกิจเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในเดือนมิถุนายน และปิดไตรมาสที่สองที่เป็นบวก แต่อัตราการขยายตัวกลับชะลอตัวลง รวมถึงการเติบโตของธุรกิจใหม่และการจ้างงานที่เริ่มชะลอตัว โดยความคาดหวังของบริษัทในปีหน้าลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน ขณะที่ต้นทุนทางธุรกิจเพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้าที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2021 แต่แรงกดดันด้านค่าจ้างยังคงกดดันต้นทุนให้สูงกว่ามาตรฐานในอดีต
ทั้งนี้ การว่างงานในเยอรมนีเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในเดือนมิถุนายน ท่ามกลางความเชื่อมั่นของผู้บริโภคชาวเยอรมันที่คาดว่าจะลดลงเล็กน้อยในเดือนกรกฎาคม เนื่องจากครัวเรือนที่เผชิญกับราคาที่สูงขึ้นและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ช้า ได้เลือกที่จะรัดเข็มขัดการใช้จ่ายมากขึ้น หลังจากที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงในเดือนมิถุนายน ตรงกันข้ามกับการคาดการณ์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นของนักวิเคราะห์ โดยการลดลงนี้รวมกับตัวชี้วัดอื่นๆ เช่น ดัชนีภาวะทางธุรกิจของ Ifo และ PMI คอมโพสิต จาก HCOB ได้ชี้ให้เห็นถึงความท้าทายข้างหน้าสำหรับเศรษฐกิจของเยอรมนี
ทางด้านค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงตามตัวเลขการจ้างงานของ ADP ที่อ่อนตัวกว่าคาด และค่า PMI ที่อ่อนแอสำหรับกิจกรรมนอกเหนือภาคการผลิต บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังเย็นตัวลง และอาจกระตุ้นให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยรายงานการประชุมล่าสุดของเฟดแสดงให้เห็นว่าผู้กำหนดนโยบายได้สังเกตถึงแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ลดลง แต่ยังคงต้องการหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับการชะลอตัวอย่างยั่งยืนก่อนที่จะลดอัตราดอกเบี้ย โดยเครื่องมือ CME Fedwatch ระบุว่ามีโอกาสเกือบ 66% ที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน เพิ่มขึ้นจาก 59% ในวันก่อนหน้า
สำหรับกิจกรรมภาคบริการของสหรัฐฯ แตะระดับต่ำสุดในรอบสี่ปีในเดือนมิถุนายน เนื่องจากคำสั่งซื้อที่ลดลงอย่างมาก บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจอาจชะลอตัวในช่วงปลายไตรมาส โดยแม้ว่ากิจกรรมการผลิตจะอ่อนแอลง แต่ข้อมูลอื่นๆ เช่น การใช้จ่ายของผู้บริโภค ยังคงมีการเติบโตในระดับปานกลาง หลังจากเศรษฐกิจเริ่มปรับตัวตามอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
ทั้งนี้ ในเดือนมิถุนายน การจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์เล็กน้อย และบ่งชี้ถึงโมเมนตัมของตลาดแรงงานที่ชะลอตัว โดยรายงานจาก ADP เผยแพร่ก่อนหน้าการรายงานการจ้างงานที่ครอบคลุมมากขึ้นของกระทรวงแรงงาน ซึ่งคาดว่าจะบ่งบอกถึงตำแหน่งงานภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้น 160,000 งานในเดือนมิถุนายน ลดลงจาก 229,000 ตำแหน่งในเดือนพฤษภาคม ท่ามกลางอัตราการว่างงานที่อยู่ที่ 4.0%
อย่างไรก็ดี แม้ว่าการจ้างงานจะเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดไว้ แต่การจ้างงานในอุตสาหกรรมสันทนาการและการบริการยังคงแข็งแกร่ง และได้ช่วยชดเชยการจ้างงานที่ลดลงในภาคธุรกิจการบริการข้อมูล การศึกษา และบริการด้านสุขภาพ โดยนักลงทุนกำลังติดตามข้อมูลตลาดงานอย่างใกล้ชิด รวมถึงรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร เพื่อหาสัญญาณของอุปสงค์แรงงานที่ชะลอตัว ซึ่งอาจช่วยลดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อและสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดได้ในปลายปีนี้
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5Min) CFD EUR/USD
แนวต้านสำคัญ : 1.0824, 1.0825, 1.0827
แนวรับสำคัญ : 1.0820, 1.0819, 1.0817
5Min Outlook
ที่มา: TradingView
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.0819 - 1.0820 แต่ไม่สามารถทะลุแนวรับที่ 1.0820 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.0825 และ SL ที่ประมาณ 1.0818 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถทะลุแนวต้านที่ช่วงราคา 1.0824 - 1.0825 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.0830 และ SL ที่ประมาณ 1.0819 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.0824 - 1.0825 แต่ไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 1.0824 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.0820 และ SL ที่ประมาณ 1.0826 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถทะลุแนวรับที่ช่วงราคา 1.0819 - 1.0820 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.0815 และ SL ที่ประมาณ 1.0825 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Jul 5, 2024 10:29AM GMT+7
Name
|
S3
|
S2
|
S1
|
Pivot Points
|
R1
|
R2
|
R3
|
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 1.0815 | 1.0817 | 1.082 | 1.0822 | 1.0825 | 1.0827 | 1.083 |
Fibonacci | 1.0817 | 1.0819 | 1.082 | 1.0822 | 1.0824 | 1.0825 | 1.0827 |
Camarilla | 1.0822 | 1.0822 | 1.0823 | 1.0822 | 1.0823 | 1.0824 | 1.0824 |
Woodie's | 1.0815 | 1.0817 | 1.082 | 1.0822 | 1.0825 | 1.0827 | 1.083 |
DeMark's | - | - | 1.0821 | 1.0822 | 1.0826 | - | - |
ที่มา: Investing 1, Investing 2
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิ