บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันที่ 9 กรกฎาคม 2567

Create at 1 month ago (Jul 09, 2024 10:13)

วอลล์สตรีททำสถิติสูงสุดจากความหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ท่ามกลางกระแส AI และการคาดการณ์รายได้ที่แข็งแกร่ง

ในช่วงเย็นวันจันทร์ ฟิวเจอร์สดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นจากความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน ส่งผลให้วอลล์สตรีททำสถิติสูงสุด โดยดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ขยายตัวเพิ่มขึ้น จากแรงสนับสนุนของภาคเทคโนโลยีที่แข็งแกร่งและหุ้นธุรกิจการผลิตชิป ท่ามกลางกระแส AI ที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ร่วง โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าผลกำไรรวมต่อหุ้นของบริษัทในดัชนี S&P 500 จะเพิ่มขึ้น 10.1% สำหรับไตรมาสที่ 2 เพิ่มขึ้นจาก +8.2% ในไตรมาสที่ 1

ทางด้านหุ้นบริษัท Paramount Global ลดลง 5.3% หลังจากควบรวมกิจการกับ Skydance Media ขณะที่ Boeing เพิ่มขึ้น 0.55% หลังจากการสืบสวนการฉ้อโกงที่เกี่ยวข้องกับเหตุเครื่องบิน 737 MAX ตกคลี่คลาย และ Corning Inc. เพิ่มการคาดการณ์ยอดขายหลักในไตรมาสที่ 2 ส่งผลให้ราคาหุ้นบริษัทเพิ่มขึ้น 12% สู่ระดับสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ของ Morgan Stanley แนะนำให้นักลงทุนเตรียมพร้อมสำหรับการปรับฐานของตลาดหุ้นที่อาจเกิดขึ้น จากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผลประกอบการของบริษัทต่างๆ และนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยคาดการณ์ว่าอาจมีการปรับฐาน 10% ก่อนการเลือกตั้ง และคาดว่าไตรมาส 3 จะเผชิญกับความผันผวนมากขึ้น อย่างไรก็ดี ท่ามกลางดัชนี S&P 500 ที่เพิ่มขึ้น 17% ในปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยและความต้องการด้าน AI ที่ร้อนแรง แต่นักวิเคราะห์ยังคงมองถึงแนวโน้มเชิงบวกที่ยังคงถูกจำกัดจนถึงสิ้นปี และแนะนำให้เน้นการลงทุนในหุ้นเติบโตคุณภาพสูง

ทางด้านนักวิเคราะห์ของ UBS คาดการณ์การเติบโต 7.4% ในกำไรต่อหุ้นของดัชนี S&P 500 สำหรับไตรมาสที่ 2 โดยคาดการณ์ถึงโอกาสเติบโตสูงถึง 11% ขณะที่บริษัทในกลุ่ม Non-TECH+ คาดว่าจะมีการเติบโตที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับบริษัทในกลุ่ม TECH+

ในขณะเดียวกัน ฤดูผลประกอบการรายไตรมาสที่สองจะเริ่มต้นด้วยรายงานจากธนาคารรายใหญ่เช่น JPMorgan, Wells Fargo และ Citigroup ในวันศุกร์ พร้อมกันกับการรายงานผลประกอบการจากบริษัทอื่นๆ เช่น PepsiCo และ Delta Air Lines

ทั้งนี้ เหตุการณ์สำคัญในสัปดาห์นี้ ประกอบด้วยคำให้การของประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ต่อหน้าวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร การประชุมสุดยอด NATO ในวอชิงตัน และการเปิดเผยข้อมูล CPI ของจีนและสหรัฐฯ ในเดือนมิถุนายน

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD US30 DJIA

แนวต้านสำคัญ : 39388.2, 39392.8, 39400.2

แนวรับสำคัญ : 39373.4, 39368.8, 39361.4         

1H Outlook

วิเคราะห์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่มา: TradingView

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 39353.4 - 39373.4 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 39373.4 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 39388.2 และ SL ที่ประมาณ 39343.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 39388.2 - 39408.2 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 39437.0 และ SL ที่ประมาณ 39363.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 39388.2 - 39408.2 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 39388.2 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 39368.6 และ SL ที่ประมาณ 39418.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 39353.4 - 39373.4 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 39331.0 และ SL ที่ประมาณ 39398.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Jul 9, 2024 09:36AM GMT+7

Name
S3
S2
S1
Pivot Points
R1
R2
R3
Classic 39349.2 39361.4 39368.6 39380.8 39388 39400.2 39407.4
Fibonacci 39361.4 39368.8 39373.4 39380.8 39388.2 39392.8 39400.2
Camarilla 39370.6 39372.3 39374.1 39380.8 39377.7 39379.5 39381.2
Woodie's 39346.8 39360.2 39366.2 39379.6 39385.6 39399 39405
DeMark's - - 39374.8 39383.9 39394.1 - -

ที่มา: Investing 1Investing 2

______________________________
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิกที่นี่
รู้เท่าทันสถานการณ์โลกและบทวิเคราะห์เทคนิคขั้นสูงคลิกที่นี่
Tags:

TECHNICAL ANALYSIS

ARTICLES