สเตอร์ลิงทำสถิติสูงสุดในรอบปีท่ามกลางข้อสังเกตของ BoE และข้อมูล GDP ที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้ความคาดหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยล่าช้าออกไป
เงินสเตอร์ลิงแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบหนึ่งปีหลังจากการแสดงความคิดเห็นของผู้กำหนดนโยบายของธนาคารแห่งอังกฤษ (BoE) และข้อมูล GDP ที่ดีกว่าที่คาดไว้ ทำให้นักลงทุนปรับลดโอกาสที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนสิงหาคมในอังกฤษ
ฮิว พิล หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ BoE เน้นย้ำถึงแรงกดดันด้านราคาอย่างต่อเนื่อง และข้อมูลที่เผยให้เห็นว่าผลผลิตทางเศรษฐกิจของอังกฤษในเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้น 0.4% เกินความคาดหมาย โดยการเพิ่มขึ้นของ GDP เกิดขึ้นหลังจากที่ไม่พบการเติบโตในเดือนเมษายน ซึ่งความแข็งแกร่งของการฟื้นตัวดังกล่าวอาจชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ BoE ที่คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจะเริ่มในวันที่ 1 สิงหาคม โดยพิลเน้นย้ำว่าการตัดสินใจของ BoE จะต้องพิจารณาสถานการณ์ต่างๆ รวมถึงข้อมูลที่คลาดเคลื่อนที่อาจเกิดขึ้นในตลาดแรงงานที่ส่งผลต่อการเติบโตของค่าจ้าง
ในขณะเดียวกัน การเติบโตของ GDP ของอังกฤษในเดือนพฤษภาคมเป็นแรงผลักดันให้กับรัฐบาลชุดใหม่ของนายกรัฐมนตรี เคียร์ สตาร์เมอร์ โดยผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของเศรษฐกิจในภาคส่วนต่างๆ โดยเฉพาะการก่อสร้าง บ่งชี้ถึงการฟื้นตัว แต่แนวโน้มระยะยาวยังคงไม่แน่นอน โดยพบว่าเศรษฐกิจมีขนาดใหญ่กว่าระดับก่อนเกิดโรคระบาดเพียง 2.7% ขณะที่ Goldman Sachs ปรับเพิ่มการคาดการณ์การเติบโตของสหราชอาณาจักรในปี 2024 เล็กน้อยมาอยู่ที่ 1.2% โดยแม้ว่าการเติบโตในระยะสั้นจะเพิ่มขึ้น แต่การเติบโตในระยะยาวของสหราชอาณาจักรยังคงอ่อนแอเมื่อเทียบกับประเทศเศรษฐกิจพัฒนาแล้วอื่นๆ
ทั้งนี้ รัฐบาลชุดใหม่ของอังกฤษได้ริเริ่มมาตรการเพื่อส่งเสริมการลงทุนและปรับปรุงเศรษฐกิจโดยการจัดตั้งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติเพื่อส่งเสริมหน่วยงานของรัฐและจัดสรรเงินทุนอย่างทันท่วงที โดยนายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ราเชล รีฟส์ ตั้งเป้าที่จะดึงดูดเงินทุนภาคเอกชนจำนวนมากเพื่อเร่งการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งรีฟส์ได้ประกาศการเปิดกว้างรับการลงทุนของสหราชอาณาจักร หลังจากประกาศแผนการเพิ่มโครงการสร้างบ้านและขจัดอุปสรรคด้านโครงสร้างพื้นฐาน
อย่างไรก็ดี การจัดการและการปรับใช้กองทุนใหม่จะได้รับการพิจารณาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าตามคำแนะนำของที่ปรึกษา ขณะที่ S&P Global ตั้งข้อสังเกตว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งนั้น จะมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษาเสถียรภาพหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้นของสหราชอาณาจักร โดยคาดหวังว่ารัฐบาลจะปรับปรุงระบบการเงินสาธารณะ เพื่อลดอัตราส่วนหนี้สินต่อ GDP ที่คาดว่าจะสูงถึง 100% ในปีหน้า
ทางด้านการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นผลจากข้อมูลที่แสดงให้เห็นการลดลงอย่างมีนัยสำคัญของราคาผู้บริโภคทั่วไปในเดือนมิถุนายน และหลังจากที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ เจอโรม พาวเวลล์ ยืนยันถึงแนวโน้มเชิงบวกของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อาจลงจอดได้อย่างนุ่มนวล โดยในระหว่างการให้การในรัฐสภา พาวเวลล์กล่าวว่าเฟดไม่จำเป็นต้องเริ่มลดอัตราดอกเบี้ย หากยังไม่พบว่าอัตราเงินเฟ้อลดลงต่ำกว่าเป้าหมาย 2% แต่ขอแค่มีความเชื่อมั่นมากพอว่าอัตราเงินเฟ้อได้ผ่อนคลายลง ขณะที่ตามเครื่องมือ CME Fedwatch นักลงทุนพบโอกาส 72.5% ที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยพื้นฐาน 25 จุดในเดือนกันยายน
สำหรับราคาผู้บริโภคในสหรัฐฯ ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบสี่ปีในเดือนมิถุนายน โดยได้แรงหนุนจากน้ำมันเบนซินที่ถูกและค่าเช่าที่ลดลง ถือเป็นก้าวสำคัญสู่ภาวะเงินเฟ้อชะลอตัว และเป็นเดือนที่สองติดต่อกันของการอ่านราคาผู้บริโภคที่อ่อนตัวลง ซึ่งอาจช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นของเจ้าหน้าที่เฟดเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่กำลังลดลงได้ ขณะที่มาตรวัดอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานแสดงให้เห็นการเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดเป็นรายเดือนนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2021 ตอกย้ำความคาดหวังของตลาดต่ออัตราดอกเบี้ยของเฟดในเดือนกันยายน
นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ได้รายงานการขาดดุลงบประมาณ 66,000 ล้านดอลลาร์ในเดือนมิถุนายน ซึ่งลดลงอย่างมากจากการปรับเปลี่ยนการจ่ายผลประโยชน์ไปยังเดือนพฤษภาคม ซึ่งส่งผลขาดดุลในเดือนดังกล่าวสูงเกินจริงเป็น 347,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่การยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานใหม่ลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม ขณะที่สินค้าคงคลังค้าส่งในสหรัฐฯ มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในเดือนพฤษภาคม ซึ่งน่าจะสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่สองได้
ทางด้านกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ย้ำเมื่อวันศุกร์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในปลายปีนี้ แต่ยังคงเน้นย้ำถึงการใช้ความระมัดระวัง แม้ว่าราคาผู้บริโภคสหรัฐจะลดลงในเดือนมิถุนายน ขณะที่จูลี โคแซค โฆษก IMF เน้นย้ำว่าอัตราเงินเฟ้อกำลังค่อยๆ ชะลอตัวในสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบสี่ปี โดยโคแซคแสดงการสนับสนุนแนวทางนโยบายการเงินที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและระมัดระวังของเฟด เธอยังตั้งข้อสังเกตถึงการเติบโตที่แข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยได้รับความช่วยเหลือจากการใช้จ่ายของรัฐบาลกลางจำนวนมากในการบรรเทาทุกข์จากโรคระบาดโควิด-19 โครงสร้างพื้นฐาน พลังงานสะอาด และเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งอาจส่งผลเชิงบวกที่ยั่งยืน
อย่างไรก็ตามโคแซคยังย้ำเตือนถึงคำแนะนำของ IMF สำหรับสหรัฐฯ ในการจัดการกับหนี้ที่เพิ่มขึ้น โดยแนะนำให้ดำเนินการเพื่อลดการขาดดุลทางการคลังในขณะที่เศรษฐกิจยังคงความแข็งแกร่ง โดย IMF ประมาณการว่าการจ่ายดอกเบี้ยสุทธิของสหรัฐฯ สำหรับหนี้รัฐบาลกลางจะเพิ่มขึ้นเป็น 3.2% ของ GDP ในปีงบประมาณ 2024 จาก 2.4% ในปีงบประมาณ 2023 เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และอัตราส่วนดังกล่าวคาดว่าจะยังคงสูงขึ้นในระยะกลางเนื่องจากการขาดดุลและระดับหนี้ที่สูงขึ้น จึงอาจส่งผลให้คู่สกุล GBP/USD คาดว่าจะมีแนวโน้มซื้อขายในกรอบบนได้อย่างต่อเนื่องอีกเล็กน้อยในระยะสั้น ขณะที่การแข็งค่าในระยะกลางคาดว่าจะยังถูกจำกัด
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1D) CFD GBP/USD
แนวต้านสำคัญ : 1.2941, 1.2966, 1.3005
แนวรับสำคัญ : 1.2863, 1.2838, 1.2799
1D Outlook
ที่มา: TradingView
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.2813 - 1.2863 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.2863 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2958 และ SL ที่ประมาณ 1.2788 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.2941 - 1.2991 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3066 และ SL ที่ประมาณ 1.2838 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.2941 - 1.2991 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้าน 1.2941 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2854 และ SL ที่ประมาณ 1.3016 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.2813 - 1.2863 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2755 และ SL ที่ประมาณ 1.2966 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Jul 12, 2024 11:14AM GMT+7
Name
|
S3
|
S2
|
S1
|
Pivot Points
|
R1
|
R2
|
R3
|
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 1.2751 | 1.2799 | 1.2854 | 1.2902 | 1.2958 | 1.3005 | 1.3061 |
Fibonacci | 1.2799 | 1.2838 | 1.2863 | 1.2902 | 1.2941 | 1.2966 | 1.3005 |
Camarilla | 1.2881 | 1.289 | 1.29 | 1.2902 | 1.2918 | 1.2928 | 1.2937 |
Woodie's | 1.2753 | 1.28 | 1.2856 | 1.2903 | 1.296 | 1.3006 | 1.3063 |
DeMark's | - | - | 1.2877 | 1.2913 | 1.2981 | - | - |
ที่มา: Investing 1, Investing 2
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิ