เศรษฐกิจของญี่ปุ่นมีแนวโน้มดีขึ้นเล็กน้อย
เงินเยนของญี่ปุ่นอ่อนค่าลงเล็กน้อย เนื่องจากดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากความ โกลาหลที่เกิดขึ้นในการหาเสียงของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ในขณะที่ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ เจอโรม พาวเวลล์กล่าวว่าข้อมูลล่าสุดช่วยเพิ่มความมั่นใจว่าอัตราเงินเฟ้อกำลังกลับสู่เป้าหมาย 2% ซึ่งช่วยสนับสนุนแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed ให้เพิ่มขึ้น
ดัชนีความเชื่อมั่นในกลุ่มผู้ผลิตขนาดใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ +13 ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2024 ท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นในหลายอุตสาหกรรม เช่น เคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ที่ได้รับแรงหนุนจากความต้องการด้านการแพทย์และการใช้งานเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทผู้ผลิตขนาดใหญ่ยังคงมองว่าสภาวะทางธุรกิจจะดีขึ้นต่อไปในอีกหลายไตรมาสข้างหน้า
ยอดขายปลีกในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนพฤษภาคม มากกว่าที่คาดการณ์ของตลาดที่ 2% เนื่องจากค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมายังสามารถกระตุ้นการบริโภคในภาคครัวเรือนให้เพิ่มขึ้นต่อไปได้ โดยยอดขายส่วนใหญ่ยังคงมาจากหมวดหมู่ยา, เครื่องสำอาง,เครื่องจักรและอุปกรณ์ ที่เพิ่มมากขึ้นกว่า 5% ในขณะที่ ยอดขายรถยนต์และสินคัาส่วนบุคคลอื่นๆลดลงเล็กน้อย
การขาดดุลการค้าของญี่ปุ่นลดลงเหลือ 1,221 พันล้านเยนในเดือนพฤษภาคม ลดลงจากการขาดดุล 1,382 พันล้านเยนในเดือนเดียวกันของปีก่อน ถือเป็นการขาดดุลการค้า 2 เดือนติดต่อกัน แม้ว่าการส่งออกจะเพิ่มขึ้นเร็วกว่าการนำเข้าก็ตาม ทั้งนี้ ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่การนำเข้าสูงอยู่แล้ว เลยทำให้ดุลการค้ายังคงขาดดุลอยู่
การนำเข้าสินค้าไปยังญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 9.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี คิดเป็นมูลค่า 9.5 ล้านล้านเยนในเดือนพฤษภาคม ทั้งนี้ ตัวเลขการนำเข้ายังต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 10.4% โดยการนำเข้าส่วนใหญ่ยังคงมาจากการซื้อเชื้อเพลิงธรรมชาติ เช่น ปิโตรเลียมและ LNG นอกจากนี้มการนำเข้าเครื่องจักรอื่นๆ ยังคงเพิ่มขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ด้านเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย โดยการนำเข้าส่วนใหญ่ยังคงมาจากอเมริกา, จีน, ฮ่องกงและเกาหลีใต้
การส่งออกสินค้าจากญี่ปุ่นพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วที่ 13.5% เมื่อเทียบเป็นรายปีเป็น 8.28 ล้านล้านเยนในเดือนพฤษภาคม เร่งตัวขึเนหลังจากเพิ่มขึ้น 8.3% ในเดือนเมษายน โดยข้อมูลการส่งออกบางส่วนได้รับแรงหนุนมาจากค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงและอุปสงค์จากต่างประเทศที่แข็งแกร่ง ทำให้ยอดขายอุปกรณ์ขนส่งเพิ่มขึ้นมากกว่า 16.9% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการส่งออกรถยนต์ รองลงมาคือการส่งออกเครื่องจักร เนื่องจาก ความต้องการในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่เพิ่มสุงขึ้นจากกระแสการเกิด AI และรถยนต์ EV
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)
แนวต้านสำคัญ: 158.98, 159.22, 159.59
แนวรับสำคัญ: 158.38, 158.02, 157.78
ที่มา: Investing.com
Buy/Long 1: หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 158.02 - 158.38 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 158.38 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 159.22 และ SL ที่ประมาณ 157.78 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2: หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 158.98 - 159.22 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 159.59 และ SL ที่ประมาณ 158.02 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1: หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 158.98 - 159.22 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 158.98 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 158.02 และ SL ที่ประมาณ 159.59 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2: หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 158.02 - 158.38 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 157.78 และ SL ที่ประมาณ 159.22 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
จุดกลับตัว 16 กรกฎาคม 2567 20:18 น. GMT+7
ชื่อ
|
S3
|
S2
|
S1
|
จุดกลับตัว
|
R1
|
R2
|
R3
|
Classic | 157.78 | 158.02 | 158.38 | 158.62 | 158.98 | 159.22 | 159.59 |
Fibonacci | 158.02 | 158.25 | 158.39 | 158.62 | 158.85 | 158.99 | 159.22 |
Camarilla | 158.58 | 158.63 | 158.69 | 158.62 | 158.8 | 158.86 | 158.91 |
Woodie's | 157.84 | 158.05 | 158.44 | 158.65 | 159.04 | 159.25 | 159.65 |
DeMark's | - | - | 158.5 | 158.68 | 159.1 | - | - |