IMF เผยการเติบโตเล็กน้อยในแคนาดาท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อสูงและความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก
IMF รายงานว่าเศรษฐกิจของแคนาดาประสบความสำเร็จใน "การลงจอดอย่างนุ่มนวล" ซึ่งหมายความว่าอัตราดอกเบี้ยที่สูงสามารถลดอัตราเงินเฟ้อได้สำเร็จโดยไม่ก่อให้เกิดภาวะถดถอย โดยแม้ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจจะเป็นบวกในระดับปานกลาง แต่อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในช่วงเป้าหมาย 1-3% ของธนาคารกลาง แม้ว่าจะยังคงอยู่ใกล้ระดับบน
การคาดการณ์เศรษฐกิจโลกบ่งชี้การเติบโตเล็กน้อยเนื่องจากการชะลอตัวของกิจกรรมในสหรัฐอเมริกา การฟื้นตัวในยุโรป และการบริโภคและการส่งออกที่แข็งแกร่งในจีน รายงาน Article IV ของ IMF ซึ่งอิงจากการหารือประจำปีกับประเทศสมาชิก ระบุว่าการโยกย้ายถิ่นฐานได้ช่วยสนับสนุนการเติบโตของ GDP แม้ว่ารายได้ต่อหัวจะลดลง โดยรายงานฉบับแก้ไขได้คาดการณ์การเติบโต GDP ของแคนาดาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในปี 2024 และ 2025 เป็น 1.3% และ 2.4% ตามลำดับ โดยคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ประมาณ 2.5% ในปีนี้และ 2% ในปีหน้า หลังจากเมื่อเดือนที่แล้ว BoC ได้ลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบสี่ปี โดยลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 จุดเหลือ 4.75% ซึ่งการปรับลดเพิ่มเติมคาดว่าจะต้องใช้ความระมัดระวังและขึ้นอยู่กับข้อมูล
ทางด้านราคาผู้บริโภคที่ลดลงเมื่อเร็วๆ นี้ ได้เพิ่มความคาดหวังสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ BoC อีกครั้ง ซึ่งอาจช่วยบรรเทาความลำบากให้กับเจ้าของที่อยู่อาศัยและธุรกิจที่มีภาระหนี้ได้ โดยอัตราเงินเฟ้อของเดือนมิถุนายนลดลงเหลือ 2.7% ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งสนับสนุนการคาดการณ์การปรับลดอีก 25 จุดในวันที่ 24 กรกฎาคม
สำหรับตลาดอสังหาริมทรัพย์ของแคนาดา โดยเฉพาะในโตรอนโต ยังคงอยู่ภายใต้ความเครียด ท่ามกลางจำนวนอสังหาฯ คงเหลือที่เพิ่มขึ้นและการขายที่ล้าช้าส่งสัญญาณถึงการผิดนัดชำระหนี้หรือการปรับราคา โดยเจ้าของที่อยู่อาศัยจำนวนมากเผชิญกับการชำระเงินจำนองที่สูงขึ้นหลังจากหมดระยะเวลาการจำนองอัตราต่ำที่เริ่มเมื่อห้าปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม บริษัทอสังหาริมทรัพย์หลายรายยังคงลังเลที่จะลดราคาเสนอขายลง ซึ่งได้ทำให้ตลาดมีความตึงเครียดมากขึ้น โดยในเดือนมิถุนายน ยอดขายบ้านของแคนาดาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนพฤษภาคม แต่ลดลง 9.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี
เมื่อวันพุธ เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบหลายเดือน โดยตลาดเชื่อมั่นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวที่ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง
ขณะเดียวกัน Beige Book ของธนาคารกลางสหรัฐฯ เน้นย้ำการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ช้าลงในหลายเขต และคาดการณ์การเติบโตที่ช้าลงในช่วง 6 เดือนข้างหน้า เนื่องจากปัจจัยต่างๆ เช่น การเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และอัตราเงินเฟ้อ ขณะที่ตลาดแรงงานมีสัญญาณของการเย็นตัวลง โดยพบการหมุนเวียนแรงงานลดลง และบริษัทต่างๆ ที่เริ่มคัดสรรการจ้างงานมากขึ้น
ทั้งนี้ กิจกรรมทางเศรษฐกิจในสหรัฐฯ เติบโตเล็กน้อยถึงปานกลางตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคมถึงต้นเดือนกรกฎาคม โดยบริษัทต่างๆ คาดว่าจะเติบโตช้าลงมากขึ้น ท่ามกลางแรงกดดันเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย และต้นทุนวัตถุดิบที่เริ่มทรงตัว ขณะที่การผลิตของโรงงานเกินความคาดหมายในเดือนมิถุนายน แต่ต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้นยังคงจำกัดอุตสาหกรรมการผลิต และการสร้างบ้านเดี่ยวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน รวมถึงใบอนุญาตก่อสร้างในอนาคตที่แตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี บ่งชี้ถึงความท้าทายอย่างต่อเนื่องในตลาดที่อยู่อาศัยจากอัตราการจำนองที่สูง
ทางด้านราคานำเข้าของสหรัฐฯ ไม่เปลี่ยนแปลงในเดือนมิถุนายน โดยราคาพลังงานที่ลดลงช่วยชดเชยต้นทุนอาหารที่เพิ่มขึ้น และสนับสนุนมุมมองเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่กำลังลดลง ขณะที่ยอดค้าปลีกในสหรัฐฯ แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นของผู้บริโภค ส่งผลให้แนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นบวกในไตรมาสที่สอง ท่ามกลางสินค้าคงคลังของธุรกิจที่เพิ่มขึ้นเกินคาดเล็กน้อยในเดือนพฤษภาคม ซึ่งอาจช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ของ BCA Research เตือนถึงความไม่แน่นอนทางการเมืองที่เพิ่มขึ้นและความผันผวนของตลาดในขณะที่การเลือกตั้งใกล้เข้ามา โดยสังเกตเห็นโอกาสที่เพิ่มขึ้นสำหรับชัยชนะของทรัมป์และการกุมอำนาจฝ่ายเดียวที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่ความไม่ต่อเนื่องและความไม่แน่นอนของนโยบาย และเพิ่มความผันผวนของตลาด จึงคาดว่าจะส่งผลให้เงินดอลลาร์แคนาดาอาจยังคงมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นลงในกรอบกว้างๆ ได้อย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ และอาจอ่อนค่าลงได้อีกเล็กน้อยจากสภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ยังคงความแข็งแกร่งกว่าในระยะกลาง รวมถึงความต่างของผลตอบแทนระหว่างสองประเทศ
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1D) CFD USD/CAD
แนวต้านสำคัญ : 1.3698, 1.3709, 1.3728
แนวรับสำคัญ : 1.3662, 1.3651, 1.3632
1D Outlook
ที่มา: TradingView
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.3622 - 1.3662 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.3662 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3704 และ SL ที่ประมาณ 1.3602 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3698 - 1.3738 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3790 และ SL ที่ประมาณ 1.3642 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3698 - 1.3738 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 1.3698 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3657 และ SL ที่ประมาณ 1.3758 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.3622 - 1.3662 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3590 และ SL ที่ประมาณ 1.3718 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Jul 18, 2024 10:22AM GMT+7
Name
|
S3
|
S2
|
S1
|
Pivot Points
|
R1
|
R2
|
R3
|
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 1.3609 | 1.3632 | 1.3657 | 1.368 | 1.3704 | 1.3728 | 1.3752 |
Fibonacci | 1.3632 | 1.3651 | 1.3662 | 1.368 | 1.3698 | 1.3709 | 1.3728 |
Camarilla | 1.3669 | 1.3673 | 1.3678 | 1.368 | 1.3686 | 1.3691 | 1.3695 |
Woodie's | 1.3611 | 1.3633 | 1.3659 | 1.3681 | 1.3706 | 1.3729 | 1.3754 |
DeMark's | - | - | 1.3669 | 1.3686 | 1.3716 | - | - |
ที่มา: Investing 1, Investing 2
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิ