ECB ยังคงไม่มั่นใจต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในยูโรโซน

ยูโรอ่อนค่าลงเล็กน้อย ในขณะที่นักลงทุนรอการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (ECB) โดยนักลงทุนคาดว่า ECB จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมในวันนี้ หลังจากที่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน นอกจากนี้ยังรอข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆ ซึ่งจะช่วยให้สามารถคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ ECB ในอนาคตได้

หาก ECB จะตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับเดิมในการประชุมเดือนกรกฎาคม คาดว่าอัตราดอกเบี้ยสำหรับการรีไฟแนนซ์จะคงอยู่ที่ 4.25% อัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ 3.75% และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำที่ 4.5% นอกจานี้ ผู้กำหนดนโยบายไม่น่าจะกล่าวถึง กำหนดการการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่จัดเจน โดยลังเลที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมจนกว่าพวกเขาจะมั่นใจมากขึ้นว่าอัตราเงินเฟ้อจะถึงเป้าหมาย 2% ภายในปี 2025 ด้านนักวิเคราะห์มองว่า ECB จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อยอีก 2 ครั้งภายในปีนี้  ด้านสหรัฐฯ คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน และจะปรับลดอีก 2 ครั้งภายในสิ้นปีนี้ เนื่องจากเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด มั่นใจว่าอัตราเงินเฟ้อจะกลับมาสู่เป้าหมายได้

ทั้งนี้ ผู้กำหนดนโยบายของ ECB ชี้แจงว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างต่อเนื่อง และผู้กำหนดนโยบายยังคงรอข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆที่จะช่วยสนับสนุนและให้ความมั่นใจว่าเศรษฐกิจของยูโรโซนจะสามารถฟื้นตัวได้ดี เนื่องจากผู้กำหนดนโยบายแสดงถึงความไม่มั่นใจในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในยูโรโซน โดยมีข้อบ่งชี้จากการฟื้นตัวในการบริโภคของภาคเอกชนที่ยังไม่มีข้อมูลมากพอ

เขตยูโรมีดุลการค้าเกินดุล 13,900 ล้านยูโรในเดือนพฤษภาคม 2024 ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 18,000 ล้านยูโร โดยการนำเข้าลดลงอย่างรวดเร็วที่ 6.4% เหลือ 227,600 ล้านยูโร ซึ่งได้รับผลมาจากอุปสงค์ที่ชะลอตัวลงอย่างชัดเจนทั้งในภาคเอกชนและภาคครัวเรือน เนื่องจากต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มมากขึ้นและการตัดรายจ่ายให้ได้มากที่สุด ในขณะที่การส่งออกลดลงเพียง 0.5% เหลือ 241,500 ล้านยูโร แสดงให้เห็นถึงอุปสงค์จากต่างประเทศที่ชะลอตัวลงเล็กน้อยเท่านั้น โดยยอดขายเครื่องจักรและยานพาหนะลดลง สวนทางกับยอดขายสารเคมีที่เพิ่มขึ้น ทำให้การส่งออกลดลงเพียงเล็กน้อย

ยอดขายปลีกในเขตยูโรเพิ่มขึ้น 0.1% เมื่อเทียบเป็นรายเดือนในเดือนพฤษภาคม ฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยหลังจากการลดลง 0.2% แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการใช้จ่ายของภาคครัวเรือนที่ยังคงชะลอตัวลง ส่งผลให้ยอดขายในหลายภาคส่วนลดลงเล็กน้อย ในขณะที่ความต้องการด้านพลังงานที่กลับมาเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)

แนวต้านสำคัญ: 0.9154, 0.9158, 0.9164

แนวรับสำคัญ: 0.9144, 0.9138, 0.9134

ที่มา: Investing.com

Buy/Long 1: หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 0.9138 - 0.9144 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 0.9144 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 0.9158 และ SL ที่ประมาณ 0.9134 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

จุดกลับตัว 18 กรกฎาคม 2567 19:32 น. GMT+7