เศรษฐกิจของอินเดียยังสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง
เงินรูปีอ่อนค่าลงเล็กน้อย แม้ว่าดัชนี DXY จะปรับตัวลดลงตามอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลงก็ตาม ทั้งนี้ การอ่อนค่าลงของเงินรูปี อาจส่งผลให้ธนาคารกลางอินเดียตัดสินใจเข้ามาแทรกแซงอัตราแลกเปลี่ยนอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เงินรูปีที่อ่อนค่าก็ส่งผลดีต่อสินค้าส่งออกของอินเดียด้วยเช่นกัน
การขาดดุลการค้าสินค้าของอินเดียขยายตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 21 พันล้านดอลลาร์ในเดือนมิถุนายน เนื่องจากการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าโหลดเพิ่มขึ้นมาถึง 5% คิดเป็นมูลค่า 56.18 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งทำจุดสูงสุดใหม่นับตั้งแต่ปี 2022 นอกจากนี้ยังได้รับแรงหนุนจากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มั่นคงนำเข้าสินค้า โภคภัณฑ์เพิ่มมากขึ้นซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมการกลั่นน้ำมัน ด้านการส่งออกเพิ่มขึ้นเพียง 2.6% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าคิดเป็น 35.2 พันล้านดอลลาร์
อัตราเงินเฟ้อในอินเดียเพิ่มสูงขึ้นเป็น 5.08% ในเดือนมิถุนายน จาก 4.75% ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของตลาดที่ 4.80% สะท้อนให้เห็นถึงอัตราการเติบโตของราคาสินค้าและบริการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากการเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศ นอกจากนี้ต้นทุนวัตถุดิบยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ในกรอบเป้าหมายของ RBI แต่อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นนี้อาจหมายถึงความร้อนแรงของเศรษฐกิจที่มากเกินไป โดยราคาอาหารยังคงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากราคาพลังงานที่สูงขึ้นและสภาพอากาศที่ไม่แน่นอนทำให้ต้นทุนในการดูแลเพิ่มสูงขึ้นด้วย
ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศที่ธนาคารกลางอินเดียถือครองเพิ่มขึ้นแตะระดับ 657.2 พันล้านดอลลาร์เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ถือเป็นการทำสถิติสูงสุดอีกครั้ง การเพิ่มขึ้นนี้เกิดจากการไหลเข้าของเงินตราต่างประเทศจำนวนมากที่เข้าสู่อินเดีย เนื่องจากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและการรวมสินทรัพย์ของอินเดียเข้าสู่ดัชนีตราสารหนี้ของตลาดเกิดใหม่ของ JPMorgan ทำให้เกิดแรงสนับสนุนการลงทุนจากต่างประเทศอย่างมีนัยสำคัญ
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอินเดียอายุ 10 ปีลดลงต่ำกว่าระดับ 7% โดยการซื้อพันธบัตรรัฐบาลของอินเดียยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เนื่องจากแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศที่แข็งแกร่งและความต้องการซื้อพันธบัตรรัฐบาลที่เพิ่มขึ้นจากกองทุนต่างประเทศ ทำให้ความต้องการโดยรวมของตราสารหนี้ของอินเดียเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ถึงอย่างนั้นการใช้จ่ายของภาครัฐที่จำกัดและการเติบโตด้านรายได้ ส่งผลให้ความเชื่อมั่นทางการคลังของอินเดียมีความแข็งแกร่งมากขึ้นและทำให้ความเสี่ยงด้านเครดิตที่เกี่ยวข้องกับพันธบัตรรัฐบาลอินเดียลดลงตามไปด้วย
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)
แนวต้านสำคัญ: 83.678, 83.691, 83.699
แนวรับสำคัญ: 83.656, 83.649, 83.635
ที่มา: Investing.com
Buy/Long 1: หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 83.649 - 83.656 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 83.656 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 83.691 และ SL ที่ประมาณ 83.635 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2: หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 83.678 - 83.691 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 83.699 และ SL ที่ประมาณ 83.649 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1: หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 83.678 - 83.691 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 83.678 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 83.649 และ SL ที่ประมาณ 83.699 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2: หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 83.649 - 83.656 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 83.635 และ SL ที่ประมาณ 83.691 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
จุดกลับตัว 19 กรกฎาคม 2567 19:38 น. GMT+7
ชื่อ
|
S3
|
S2
|
S1
|
จุดกลับตัว
|
R1
|
R2
|
R3
|
Classic | 83.635 | 83.649 | 83.656 | 83.67 | 83.678 | 83.691 | 83.699 |
Fibonacci | 83.649 | 83.657 | 83.662 | 83.67 | 83.678 | 83.683 | 83.691 |
Camarilla | 83.659 | 83.661 | 83.663 | 83.67 | 83.667 | 83.669 | 83.671 |
Woodie's | 83.633 | 83.648 | 83.654 | 83.669 | 83.676 | 83.69 | 83.697 |
DeMark's | - | - | 83.653 | 83.668 | 83.674 | - | - |