วอลล์สตรีทดีดตัวขณะที่นักลงทุนจับตารายได้จากภาคเทคโนโลยีท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการเมือง
ในวันจันทร์ ดัชนีวอลล์สตรีทหลักทั้งสามปิดสูงขึ้น หลังจากนักลงทุนหันกลับมาให้ความสำคัญกับหุ้นเติบโตเมก้าแคป ซึ่งช่วยหนุนให้ S&P 500 และ Nasdaq Composite ฟื้นตัวจากผลการดำเนินงานรายสัปดาห์ที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน พร้อมกันกับดัชนีดาวโจนส์ที่พลิกกลับมาเป็นบวก ยุติการร่วงลงสองเซสชันหลังจากแตะระดับสูงสุดตลอดกาลเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ขณะที่ฤดูกาลผลประกอบการของไตรมาสที่สองคาดว่าจะมีอิทธิพลอย่างมากต่อทิศทางของภาคธุรกิจเทคโนโลยีในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ทางด้านมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในเดือนกันยายนได้ผลักดันให้นักลงทุนมุ่งเน้นไปยังภาคส่วนที่น่าจะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนทางการเมืองได้เพิ่มขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดนประกาศไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งใหม่และเสนอชื่อรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริสเป็นผู้ท้าชิงจากพรรคเดโมแครต ท่ามกลางผลสำรวจล่าสุดแสดงให้เห็นว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงขึ้นเป็นผู้นำ แม้ว่าการเสนอชื่อแฮร์ริสอาจส่งผลกระทบต่อแนวโน้มดังกล่าว โดยหุ้นที่เชื่อมโยงกับทรัมป์มีผลลัพธ์ที่หลากหลาย ซึ่ง Trump Media & Technology Group ลดลง 0.8% และ Phunware เพิ่มขึ้น 4%
สำหรับหุ้นเมก้าแคป เช่น Alphabet, Meta Platforms และ Tesla เพิ่มขึ้นระหว่าง 2.2% ถึง 5.1% หลังจากฉุดตลาดหุ้นร่วงลงแรงในสัปดาห์ก่อน ท่ามกลางดัชนีเทคโนโลยีสารสนเทศที่เพิ่มขึ้น 2% ยุติการติดลบติดต่อกันสี่วัน
หุ้น Nvidia เพิ่มขึ้น 4.8% หลังจากรายงานว่ากำลังพัฒนาชิป AI เวอร์ชันสำหรับตลาดจีนที่จะปฏิบัติตามการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ โดยการเพิ่มขึ้นของ Nvidia ครั้งนี้ได้ช่วยหนุนภาคธุรกิจเทคโนโลยีในวงกว้าง
ทางด้าน Verizon Communications ลดลง 6% หลังจากรายรับในไตรมาสสองพลาดประมาณการ แม้ว่าจะมีจำนวนการสมัครสมาชิกระบบไร้สายเพิ่มขึ้นเกินคาด ขณะที่ CrowdStrike Holdings ลดลง 14% เนื่องจากบริษัทหลายแห่งปรับลดอันดับบริษัทด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์หลังการอัปเดตซอฟต์แวร์ที่ทำให้เกิดการหยุดชะงักทั่วโลก
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์จาก BlackRock ยังคงมุมมองในแง่ดีเกี่ยวกับหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี แม้ว่าจะพบความผันผวนในช่วงที่ผ่านมา โดยเน้นย้ำถึงแนวโน้มระยะยาวเช่น AI มากกว่าข้อมูลเศรษฐกิจระยะสั้น และเชื่อว่าเทคโนโลยีจะยังคงผลักดันผลตอบแทนของตลาดต่อไป โดยมองว่าการปรับฐานของตลาดจะเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ
อย่างไรก็ดี นักลงทุนกำลังจับตาดูรายงานผลประกอบการที่จะเกิดขึ้นจาก Alphabet และ Tesla อย่างใกล้ชิด ซึ่งรายงานของ Alphabet จะเน้นถึงประโยชน์และการใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับ AI ในขณะที่ Tesla จะมุ่งเน้นไปที่การตอบสนองต่อความต้องการที่ลดลงและความก้าวหน้าในเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วย AI ขณะที่อีลอน มัสก์ ซีอีโอของ Tesla ประกาศว่าหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์จะถูกนำไปใช้งานภายในปีหน้า ท่ามกลางบริษัทใหญ่อื่นๆ ที่มีกำหนดรายงาน อย่าง Visa, Coca-Cola, Texas Instruments, Lockheed Martin, General Electric, UPS และ Freeport-McMoran
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD US30 DJIA
แนวต้านสำคัญ : 40408.4, 40414.3, 40423.9
แนวรับสำคัญ : 40389.2, 40383.3, 40373.7
1H Outlook
ที่มา: TradingView
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 40339.2 - 40389.2 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 40389.2 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 40411.0 และ SL ที่ประมาณ 40314.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 40408.4 - 40458.4 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 40475.0 และ SL ที่ประมาณ 40364.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 40408.4 - 40458.4 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 40408.4 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 40385.9 และ SL ที่ประมาณ 40483.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 40339.2 - 40389.2 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 40307.0 และ SL ที่ประมาณ 40433.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Jul 23, 2024 08:27AM GMT+7
Name
|
S3
|
S2
|
S1
|
Pivot Points
|
R1
|
R2
|
R3
|
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 40360.8 | 40373.7 | 40385.9 | 40398.8 | 40411 | 40423.9 | 40436.1 |
Fibonacci | 40373.7 | 40383.3 | 40389.2 | 40398.8 | 40408.4 | 40414.3 | 40423.9 |
Camarilla | 40391.2 | 40393.5 | 40395.8 | 40398.8 | 40400.4 | 40402.7 | 40405 |
Woodie's | 40360.4 | 40373.5 | 40385.5 | 40398.6 | 40410.6 | 40423.7 | 40435.7 |
DeMark's | - | - | 40379.8 | 40395.8 | 40404.9 | - | - |
ที่มา: Investing 1, Investing 2
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิ