ราคาข้าวสาลีหลากหลายท่ามกลางอิทธิพลของตลาดและแนวโน้มผลผลิตทั่วโลก
ตลาดข้าวสาลีเผชิญแนวโน้มที่หลากหลาย โดยพบราคาที่เพิ่มขึ้นในชิคาโกและแคนซัสซิตี้ และราคาที่ลดลงในมินนิแอโพลิส ขณะที่ข้าวสาลีได้รับอิทธิพลจากการเก็บเกี่ยวข้าวสาลีช่วงปลายฤดูหนาวและแรงกดดันที่อาจเกิดขึ้นกับข้าวสาลีฤดูใบไม้ผลิในที่ราบสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ท่ามกลางการสำรวจการเพาะปลูกข้าวสาลีฤดูใบไม้ผลิของสหรัฐฯ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงผลผลิตในช่วงต้นที่สูงกว่าปีที่แล้ว ขณะเดียวกัน ตลาดยังจับตาดูสถานการณ์ในภูมิภาคทะเลดำและยุโรป ซึ่งฝนตกอาจทำให้การเก็บเกี่ยวบางส่วนของฝรั่งเศสและเยอรมนีล่าช้า และส่งผลกระทบต่อคุณภาพ ขณะที่การส่งออกข้าวสาลีในเดือนมิถุนายนของอาร์เจนตินาต่ำสุดในปีนี้ที่ 292,000 ตัน แต่ยังสูงกว่าปีที่แล้ว และคณะกรรมาธิการยุโรปรายงานการส่งออกข้าวสาลีอ่อนอยู่ที่ 1.44 ล้านตันตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม เทียบกับ 2.21 ล้านตันในปีที่แล้ว
สำหรับแนวโน้มข้าวสาลีของสหรัฐฯ ในปี 2024/25 คาดว่าจะมีปริมาณอุปทาน การใช้ในประเทศ การส่งออก และสต็อกคงคลังที่เพิ่มขึ้น โดยคาดว่าผลผลิตข้าวสาลีจะเพิ่มขึ้น 134 ล้านบุชเชล เนื่องจากพื้นที่เก็บเกี่ยวและผลผลิตที่สูงขึ้น ขณะที่ผลผลิตข้าวสาลีฤดูใบไม้ผลิและดูรัมคาดว่าจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 578 ล้านและ 89 ล้านบุชเชล ตามลำดับ ท่ามกลางผลผลิตข้าวสาลีฤดูหนาวที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 1,341 ล้านบุชเชล โดยพบสต็อกเริ่มต้นเพิ่มขึ้น และการนำเข้าลดลง 15 ล้านบุชเชล ขณะที่การนำไปใช้เป็นอาหารสัตว์และการใช้รำข้าวสาลีเพิ่มขึ้น 10 ล้านบุชเชล และการส่งออกคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 25 ล้านบุชเชลเป็น 825 ล้านบุชเชล ขณะที่สต็อกคงเหลือคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 98 ล้านบุชเชลมาอยู่ที่ 856 ล้านบุชเชล ซึ่งสูงที่สุดในรอบ 5 ปี และราคาฟาร์มถูกคาดการณ์ไว้ที่ 5.70 ดอลลาร์ต่อบุชเชล
ทั้งนี้ แนวโน้มข้าวสาลีทั่วโลกในปี 2024/25 คาดว่าจะมีปริมาณอุปทาน การบริโภค การค้า และสต็อกเพิ่มมากขึ้น โดยอุปทานคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 6.9 ล้านตันเป็น 1,057.2 ล้านตัน สาเหตุหลักมาจากผลผลิตที่สูงขึ้นในสหรัฐอเมริกา ปากีสถาน และแคนาดา โดยผลผลิตของปากีสถานคาดว่าจะสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 31.4 ล้านตัน และผลผลิตของแคนาดาคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 35.0 ล้านตัน เนื่องจากสภาพความชื้นที่ดีขึ้น ขณะที่การบริโภคทั่วโลกคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.9 ล้านตันเป็น 799.9 ล้านตัน โดยการค้าโลกยังคงไม่เปลี่ยนแปลงที่ 212.9 ล้านตัน ท่ามกลางการส่งออกที่สูงขึ้นจากสหรัฐอเมริกา แคนาดา และปากีสถาน ที่ถูกชดเชยเล็กน้อยด้วยการส่งออกที่ลดลงจากสหภาพยุโรป ตุรกี และอุซเบกิสถาน โดยสต็อกคงเหลือทั่วโลกคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 5.0 ล้านตันเป็น 257.2 ล้านตัน ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากสต็อกคงเหลือที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐอเมริกา จีน อาร์เจนตินา ปากีสถาน และแคนาดา ซึ่งชดเชยสต็อกคงเหลือที่ลดลงในรัสเซีย สหภาพยุโรป และอิหร่าน
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และการลงทุนของออสเตรเลีย (ASIC) กล่าวหาว่า COFCO ซึ่งเป็นธุรกิจการเกษตรยักษ์ใหญ่ในปักกิ่ง บิดเบือนสัญญาสินค้าโภคภัณฑ์ของออสเตรเลียมากกว่า 30 ครั้ง ก่อนที่รัสเซียจะบุกยูเครนในปี 2022 โดย ASIC ได้ดำเนินการทางกฎหมายกับบริษัทในเครือของ COFCO สองแห่ง ที่ถูกกล่าวหาว่าบิดเบือนสัญญาซื้อขายข้าวสาลีล่วงหน้าเดือนมกราคม 2023 ในออสเตรเลียโดยส่งคำสั่งซื้อก่อนที่ตลาดซื้อขายอนุพันธ์ ASX24 จะปิด ซึ่งส่งผลต่อราคาชำระราคา ซึ่งหน่วยงานกำกับดูแลอ้างว่าการกระทำของ COFCO บิดเบือนอุปสงค์และอุปทานของตลาดที่แท้จริง และทำให้เกิดราคาเทียม โดย COFCO ซึ่งมีรัฐบาลจีนเป็นเจ้าของ เป็นผู้แปรรูป ผู้ผลิต และผู้ค้าอาหารรายใหญ่ที่สุดของจีน โดยมีการลงทุนจำนวนมากในออสเตรเลีย รวมถึง Tully Sugar และความสนใจในการลงทุนในบริษัทวิตามิน Swisse
ทางด้านกระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกา (USDA) รายงานว่าบราซิลตั้งเป้าที่จะพึ่งพาข้าวสาลีภายในประเทศภายในทศวรรษหน้า โดยเอกสารแนบของ USDA ในบราซิเลียให้รายละเอียดถึงเป้าหมายดังกล่าวที่รวมถึงการเพาะปลูก "ข้าวสาลีเขตร้อน" ในภูมิภาคเซอร์ราโด ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องความต้านทานต่อความแห้งแล้ง โดยปัจจุบัน ข้าวสาลี 87% ของบราซิลผลิตได้ในรัฐทางตอนใต้ของรีโอกรันเดโดซูลและปารานา โดยเซอร์ราโด ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 22% ของบราซิล คาดว่าจะพบการเพาะปลูกข้าวสาลีที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจขยายจาก 620,000 เอเคอร์เป็น 870,000 เอเคอร์ และผลิตข้าวสาลีเพิ่มขึ้น 300,000 ตัน ซึ่งแผนการดำเนินงานดังกล่าวครอบคลุมถึงการเปลี่ยนทุ่งหญ้าเสื่อมโทรมให้เป็นทุ่งข้าวสาลี ขณะที่ผลผลิตข้าวสาลีของบราซิลคาดว่าจะอยู่ที่ 9.5 ล้านตันในปี 2024-25 แม้ว่า Conab จะคาดการณ์ไว้ที่ 9 ล้านตัน โดยบราซิลนำเข้าข้าวสาลี 12 ล้านตันต่อปี ซึ่ง 80% มาจากอาร์เจนตินา
ทางด้านอียิปต์ การศึกษาในวารสารเกษตรและอาหารระบุว่าแม้ว่าผลผลิตข้าวสาลีจะเพิ่มขึ้นจากพันธุ์ข้าวที่ให้ผลผลิตสูงและการสนับสนุนจากรัฐบาล แต่ความผันผวนของสภาพภูมิอากาศได้ส่งผลเสียต่อความต้องการน้ำและการเติบโตของพืชผลในช่วงสามทศวรรษที่ผ่านมา ท่ามกลางอียิปต์ที่ตั้งเป้าที่จะเพิ่มความสามารถในการพึ่งพาข้าวสาลีภายในประเทศจาก 47% ในปี 2021 เป็น 70% ภายในปี 2030 อย่างไรก็ตาม อุณหภูมิที่สูงขึ้นและปริมาณน้ำฝนที่ไม่แน่นอนส่งผลให้มีการคายระเหยและความต้องการน้ำที่สูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตแห้งแล้ง
อีกด้าน ผู้ซื้อธัญพืชของจอร์แดนได้ออกประกวดราคาใหม่สำหรับข้าวสาลีแบบขัดสีจำนวน 120,000 ตัน หลังจากล้มเหลวในการประกวดราคาซื้อครั้งก่อน โดยการประมูลครั้งใหม่จะปิดในวันที่ 30 กรกฎาคม ซึ่งคาดว่าจะมีระยะเวลาจัดส่งในเดือนกันยายนและตุลาคม
อย่างไรก็ดี ราคาข้าวสาลีแสดงการซื้อขายที่หลากหลายในวันพุธบนตลาดหลักทรัพย์ต่างๆ โดยพบสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของ Chicago SRW เพิ่มขึ้น 2 ถึง 5 เซนต์ สัญญาของ Kansas City HRW เพิ่มขึ้นเล็กน้อย และสัญญาข้าวสาลีฤดูใบไม้ผลิ MPLS ลดลง 4 ถึง 5 เซนต์ เนื่องจากการประมาณการผลผลิตที่ดีเยี่ยมจากทัวร์การสำรวจข้าวสาลีฤดูใบไม้ผลิ
ขณะเดียวกัน ราคาสัญญาข้าวสาลีล่วงหน้าของ Euronext ยังคงค่อนข้างทรงตัว แม้ว่าจะเผชิญกับการแข่งขันในการส่งออกจากทะเลดำที่จำกัดราคา ขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับความเสียหายจากการเก็บเกี่ยวเนื่องจากสภาพอากาศที่เปียกชื้นในยุโรปตะวันตกยังคงมีอิทธิพลต่อตลาด โดยข้อมูลของ Euronext ระบุว่านักลงทุนเพิ่มสถานะ Short ในข้าวสาลีมากขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ในปารีส ราคาข้าวสาลีเดือนกันยายนบน Euronext ลดลง 0.7% มาอยู่ที่ 223.50 ยูโรต่อเมตริกตัน ขณะที่ผู้ค้าสังเกตเห็นราคาที่ต่ำจากผู้ส่งออกในทะเลดำและความต้องการประกวดราคาซื้อที่อ่อนแอ ที่บดบังความกังวลเกี่ยวกับความเสียหายจากฝนในฝรั่งเศสและเยอรมนี ท่ามกลางราคาข้าวสาลีของรัสเซียที่เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย และกิจกรรมการส่งออกของฝรั่งเศสที่ชะลอตัวลงเนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเก็บเกี่ยว รวมถึงเยอรมนีที่ยังคงเผชิญกับความล่าช้าในการเก็บเกี่ยวและความกังวลด้านคุณภาพเนื่องจากฝนตกอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ค้าคาดการณ์ว่าโรงงานในยุโรปอาจหันมานำเข้าข้าวสาลีจากสหรัฐฯ มากขึ้น หลังจากที่ข้าวสาลีอ่อนฤดูหนาวสีแดงของสหรัฐฯ มีราคาที่สามารถแข่งขันได้
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1D) CFD US Wheat Futures - Sep 24 (ZWU4)
แนวต้านสำคัญ : 553.55, 557.86, 564.83
แนวรับสำคัญ : 539.61, 535.30, 528.33
1D Outlook
ที่มา: TradingView
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 529.61 - 539.61 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 539.61 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 555.91 และ SL ที่ประมาณ 524.61 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 553.55 - 563.55 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 574.38 และ SL ที่ประมาณ 534.61 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 553.55 - 563.55 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 553.55 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 537.66 และ SL ที่ประมาณ 568.55 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 529.61 - 539.61 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 519.41 และ SL ที่ประมาณ 558.55 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Jul 25, 2024 10:29AM GMT+7
Name
|
S3
|
S2
|
S1
|
Pivot Points
|
R1
|
R2
|
R3
|
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 519.41 | 528.33 | 537.66 | 546.58 | 555.91 | 564.83 | 574.16 |
Fibonacci | 528.33 | 535.3 | 539.61 | 546.58 | 553.55 | 557.86 | 564.83 |
Camarilla | 541.98 | 543.65 | 545.33 | 546.58 | 548.67 | 550.35 | 552.02 |
Woodie's | 519.63 | 528.44 | 537.88 | 546.69 | 556.13 | 564.94 | 574.38 |
DeMark's | - | - | 542.12 | 548.81 | 560.38 | - | - |
ที่มา: The Australian Financial Review, Maritime Activity Reports
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิ