ตลาดหุ้นฟิวเจอร์สของสหรัฐฯ พุ่งขึ้นท่ามกลางรายงานผลประกอบการและการประชุมของธนาคารกลาง

หุ้นทั่วโลกและตลาดหุ้นฟิวเจอร์สของสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นท่ามกลางผลตอบแทนระยะยาวของสหรัฐฯ ที่ลดลงในวันจันทร์ โดยสัปดาห์นี้เริ่มต้นด้วยการรายงานผลประกอบการและการประชุมของธนาคารกลางซึ่งอาจบ่งชี้ถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐฯ และอังกฤษ ขณะที่ข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ ในเดือนกรกฎาคม การสำรวจภาคการผลิต และข้อมูลเศรษฐกิจของยูโรโซนคาดว่าจะเผยแพร่ในช่วงปลายสัปดาห์

ทั้งนี้ ภาคธุรกิจเทคโนโลยีซึ่งฟื้นตัวเมื่อเร็วๆ นี้ พบนักลงทุนที่ลังเลที่จะทำการซื้อขายก่อนการรายงานผลประกอบการจากบริษัทใหญ่ๆ ในสัปดาห์นี้ อย่าง Microsoft พร้อมกันกับบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อื่นๆ เช่น Meta, Apple และ Amazon ที่มีกำหนดจะรายงานผลประกอบการเช่นกัน โดยผลประกอบการที่ผิดคาดอาจทำให้เกิดความกังวลในตลาดเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับผลการดำเนินงานที่ต่ำกว่าคาดของ Alphabet เมื่อเร็วๆ นี้

ทางด้านการการอัปเดตฟีเจอร์ AI ของ Apple ล่าช้าออกไปเป็นจนถึงเดือนตุลาคม ขณะที่บริษัทเผชิญกับยอดขายอุปกรณ์ที่ลดลงท่ามกลางการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น พร้อมกันกับหุ้นของ Tesla ที่พุ่งสูงขึ้นหลังจากที่ Morgan Stanley เลือกให้เป็นหนึ่งในหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์ของสหรัฐฯ ที่น่าลงทุน ในขณะที่กลุ่มพลังงานร่วงลงเนื่องจากราคาน้ำมันที่ลดลง

สำหรับหุ้นของ McDonald's พุ่งสูงขึ้นแม้ว่ายอดขายรายไตรมาสจะลดลง โดยได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังเกี่ยวกับข้อเสนอเมนูอาหารใหม่ของบริษัท ขณะที่หุ้นของ Stellantis ร่วงลงหลังจากที่ Deutsche Bank ปรับลดอันดับ และ Abbott Laboratories ร่วงลงเล็กน้อยหลังจากที่คณะลูกขุนตัดสินให้บริษัทรับผิดชอบรับค่าเสียหาย ท่ามกลางหุ้นคริปโตที่ผันผวน โดย Coinbase, Riot Platforms และ Marathon Digital ร่วงลงอย่างมาก หลังจากปรับตัวขึ้นในช่วงแรก

ทั้งนี้ นักลงทุนคาดหวังว่าเฟดจะส่งสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน ขณะที่รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนกรกฎาคมในวันศุกร์จะถูกจับตาอย่างใกล้ชิดเพื่อหาข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับตลาดแรงงาน ท่ามกลางบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่ยังคงเป็นแรงหนุนให้ตลาดปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนพิจารณาลงทุนหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กในสภาพแวดล้อมที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำเพิ่มเติม ขณะที่แผนการขายพันธบัตรที่จะมีขึ้นในเร็วๆ นี้ของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นจากการประชุมโปลิตบูโรของจีน อาจส่งผลให้ตลาดมีแนวโน้มระมัดระวังมากขึ้นในอนาคต จึงคาดว่าอาจส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยรวมมีแนวโน้มซื้อขายขึ้นลงในกรอบบนได้มากขึ้นอีกเล็กน้อย โดยยังคงความเสี่ยงและความผันผวนในการกลับตัวลงได้

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD US 500 [S&P 500]

แนวต้านสำคัญ : 5455.0, 5457.9, 5462.6

แนวรับสำคัญ : 5445.6, 5442.7, 5438.0                                   

1H Outlook      

ที่มา: TradingView                      

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 5435.6 - 5445.6 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 5445.6 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 5455.1 และ SL ที่ประมาณ 5430.6 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 5455.0 - 5465.0 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 5479.0 และ SL ที่ประมาณ 5440.6 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 5455.0 - 5465.0 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 5455.0 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 5442.8 และ SL ที่ประมาณ 5470.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 5435.6 - 5445.6 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 5424.0 และ SL ที่ประมาณ 5460.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Jul 30, 2024 09:18AM GMT+7