BOJ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี แนวทางของเฟดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลกระตุ้นความหวังการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ธนาคารกลางแห่งประเทศญี่ปุ่น (BOJ) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี โดยปรับเพิ่มขึ้น 15 จุดพื้นฐาน มาอยู่ที่ระหว่าง 0.1% ถึง 0.25% ทำให้เงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ การเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า BOJ กำลังค่อยๆ ลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งดำเนินมายาวนานเป็นเวลา 10 ปี นอกจากนี้ ธนาคารกลางยังประกาศแผนที่จะลดการซื้อพันธบัตรรายเดือนลงเหลือ 3 ล้านล้านเยนภายในต้นปี 2026 โดยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้ได้ยุติมาตรการอัตราดอกเบี้ยแบบติดลบ และอาจตามมาด้วยการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่มากขึ้น
การแข็งค่าของเงินเยนส่งผลให้การเกิดการถอนตัวของการซื้อขายแบบแครี่เทรด ซึ่งนักลงทุนกู้ยืมเงินเป็นเงินเยนเพื่อลงทุนในสกุลเงินที่มีผลตอบแทนสูงกว่า ท่ามกลางการตัดสินใจของ BOJ ที่เกิดขึ้นในขณะที่อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะยังทรงตัวที่เป้าหมาย 2% ซึ่งได้รับแรงสนับสนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นและการเติบโตของค่าจ้าง
ทั้งนี้ ทางการญี่ปุ่นได้ใช้เงินจำนวน 5.53 ล้านล้านเยนเพื่อรักษาเสถียรภาพของเงินเยนในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ หลังจากที่เงินเยนอ่อนค่าลงอย่างมาก ขณะที่การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ BOJ มีเป้าหมายเพื่อแก้ไขความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อและส่งสัญญาณการเปลี่ยนแปลงไปสู่การใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดยิ่งขึ้น โดยมีแนวโน้มที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง โดยการดำเนินการของธนาคารกลางสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการรักษาเงินเฟ้ออย่างยั่งยืน ขณะเดียวกันกับการลดการอ่อนค่าของเงินเยนและผลกระทบต่อต้นทุนการนำเข้า
ทางด้านข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดของ BOJ แสดงทิศทางที่หลากหลาย โดยพบยอดขายปลีกเพิ่มขึ้น ท่ามกลางภาคอุตสาหกรรมที่หดตัว โดยแม้จะพบความท้าทายดังกล่าว ญี่ปุ่นก็ยังคงเดินหน้าไปสู่การเกินดุลงบประมาณเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2002 โดยได้รับแรงหนุนจากกำไรของบริษัทที่มั่นคงและรายได้จากภาษีที่เพิ่มขึ้น ท่ามกลางจุดยืนของผู้ว่าการคาซูโอะ อุเอดะ ที่เปลี่ยนจากท่าทีผ่อนปรนเป็นท่าทีแบบเข้มงวด ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในการเติบโตของค่าจ้างและราคาท่ามกลางตลาดแรงงานที่ตึงตัว
อีกด้าน ธนาคารกลางสหรัฐฯ ตัดสินใจที่จะคงอัตราดอกเบี้ย แต่สังเกตเห็นความคืบหน้าในเรื่องเงินเฟ้อและตลาดแรงงานที่ชะลอตัวลง ซึ่งกระตุ้นให้นักลงทุนมีความหวังต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้น
ข้อมูลล่าสุดบ่งชี้ว่านโยบายที่เข้มงวดของเฟดสามารถแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อได้อย่างมีประสิทธิผล ดังจะเห็นได้จากดัชนีการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลที่ทรงตัวที่ 2.6% ในรอบปีที่ผ่านมา โดยเฟดยอมรับว่าเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง แต่ก็ได้เข้าใกล้เป้าหมาย 2% นอกจากนี้ เฟดยังให้ความสำคัญกับความเสี่ยงในตลาดแรงงานมากขึ้น ควบคู่ไปกับความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ ซึ่งบ่งชี้จากการมุ่งเน้นแต่เรื่องเงินเฟ้อเพียงอย่างเดียวก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ หลายคนคาดว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่จะเผยแพร่ในเร็วๆ นี้อาจทำให้เฟดพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยคาดการณ์ว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายนนี้ ขณะที่ประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ กล่าวว่าหากข้อมูลเศรษฐกิจยังคงดีขึ้น การปรับลดอัตราดอกเบี้ยอาจเกิดขึ้นได้ในเร็วที่สุดในเดือนกันยายน และย้ำว่าการตัดสินใจจะขึ้นอยู่กับสภาวะเศรษฐกิจมากกว่าประเด็นทางการเมือง
ในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังจากการประกาศจากเฟดและความคิดเห็นของโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันที่สนับสนุนให้สกุลเงินอ่อนค่าลง ขณะเดียวกัน การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางญี่ปุ่นเมื่อเร็วๆ นี้และแถลงการณ์ที่แสดงความเข้มงวด ได้กดดันดอลลาร์เมื่อเทียบกับเงินเยนมากขึ้น
อย่างไรก็ดี เนื่องจากเฟดยังคงพึ่งพาข้อมูลในการดำเนินนโยบาย จุดสนใจจึงอยู่ที่รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และรายงานการจ้างงานที่มีกำหนดเผยแพร่เร็วๆ นี้ ท่ามกลางข้อมูลแรงงานล่าสุดที่แสดงให้เห็นว่าต้นทุนและการเติบโตของการจ้างงานเพิ่มขึ้นในระดับปานกลาง บ่งชี้ถึงอัตราเงินเฟ้อที่กำลังลดลง และสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้นในเดือนกันยายน จึงอาจส่งผลให้เงินเยนมีแนวโน้มแข็งค่ามากขึ้นในช่วงนี้ โดยอาจพบการซื้อขายขึ้นลงในกรอบปัจจุบันไปจนถึงกรอบล่างได้มากกว่านี้เล็กน้อย
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD USD/JPY
แนวต้านสำคัญ : 149.91, 150.04, 150.26
แนวรับสำคัญ : 149.49, 149.36, 149.14
1H Outlook
ที่มา: TradingView
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 148.99 – 149.49 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 149.49 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 149.97 และ SL ที่ประมาณ 148.74 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 149.91 – 150.41 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 151.20 และ SL ที่ประมาณ 149.24 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 149.91 – 150.41 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 149.91 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 149.41 และ SL ที่ประมาณ 150.66 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 148.99 – 149.49 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 148.54 และ SL ที่ประมาณ 150.16 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Aug 1, 2024 04:11PM GMT+7
Name
|
S3
|
S2
|
S1
|
Pivot Points
|
R1
|
R2
|
R3
|
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 148.85 | 149.14 | 149.41 | 149.7 | 149.97 | 150.26 | 150.52 |
Fibonacci | 149.14 | 149.36 | 149.49 | 149.7 | 149.91 | 150.04 | 150.26 |
Camarilla | 149.53 | 149.58 | 149.63 | 149.7 | 149.74 | 149.79 | 149.84 |
Woodie's | 148.85 | 149.14 | 149.41 | 149.7 | 149.97 | 150.26 | 150.52 |
DeMark's | - | - | 149.28 | 149.63 | 149.84 | - | - |
ที่มา: Investing 1, Investing 2
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิ