การเติบโตทางเศรษฐกิจยูโรลดลงท่ามกลางมุมมองที่หลากหลายและผลการสำรวจในแง่ลบ
เศรษฐกิจเขตยูโรเติบโตมากกว่าที่คาดเล็กน้อยในไตรมาสที่ 2 ท่ามกลางภาพรวมที่หลากหลายและผลการสำรวจในแง่ลบหลายฉบับที่ยังคงบดบังแนวโน้มในช่วงที่เหลือของปี
จากข้อมูลเศรษฐกิจแสดงให้เห็นว่ากลุ่มประเทศในเขตเศรษฐกิจกำลังเผชิญกับความท้าทายเกี่ยวกับการค้า แต่ยังคงได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวในประเทศซึ่งขับเคลื่อนโดยรายได้ที่แท้จริงและการใช้จ่ายของภาครัฐที่สูงขึ้น โดย Eurostat รายงานว่าผลผลิตเติบโต 0.3% ใน 20 ประเทศกลุ่มเศรษฐกิจ ซึ่งยังคงรักษาระดับไว้ได้จากไตรมาสก่อนหน้าและเกินการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ในบรรดาประเทศเศรษฐกิจหลัก ฝรั่งเศสและสเปนทำผลงานได้ดีกว่าที่คาดไว้ ท่ามกลางอิตาลีที่ยังคงทรงตัว ในขณะที่ผลผลิตของเยอรมนีหดตัวอย่างไม่คาดคิด ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตที่ยืดเยื้อในประเทศซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของยุโรปมาเป็นเวลากว่าหนึ่งทศวรรษ
ในเดือนกรกฎาคม การเติบโตของกิจกรรมทางธุรกิจของเขตยูโรหยุดนิ่ง เนื่องจากการขยายตัวเพียงเล็กน้อยของภาคบริการไม่สามารถชดเชยกับภาวะถดถอยของภาคการผลิตที่สำคัญได้ โดยกิจกรรมการผลิตของเขตยูโรยังคงหดตัวในเดือนกรกฎาคม ท่ามกลางผลผลิตที่ลดลงในอัตราที่เร็วที่สุดในปีนี้ เน้นย้ำถึงการต่อสู้ที่ยังคงดำเนินต่อไปในเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศ
ทางด้านความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนกรกฎาคมยังคงเป็นลบ โดยจากการสำรวจของธนาคารกลางยุโรป (ECB) แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคในเขตยูโรหยุดการปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในเดือนมิถุนายน หลังจากที่ลดลงต่อเนื่องมาเป็นเวลาสี่เดือน โดยการสำรวจระบุว่าผู้บริโภคโดยเฉลี่ยคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ 2.8% ในปีหน้า ทรงตัวจากเดือนพฤษภาคม หลังจากลดลงอย่างต่อเนื่องจาก 3.3% ในเดือนมกราคม ขณะที่อัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ในอีกสามปีข้างหน้าอยู่ที่ 2.3% ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก่อนหน้า
ขณะเดียวกัน เงินเฟ้อในเขตยูโรเพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิดในเดือนกรกฎาคม โดยตัวชี้วัดการเติบโตของราคาในภาคบริการหลักลดลง แต่ดูเหมือนจะไม่ส่งผลกระทบต่อการคาดการณ์ของตลาดสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ ECB ในเดือนกันยายน โดยตามรายงานการประมาณการของ Eurostat การเติบโตของราคาในกลุ่ม 20 ประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 2.6% ในเดือนกรกฎาคม จาก 2.5% ในเดือนมิถุนายน ขณะที่ตัวชี้วัดเงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมพลังงาน อาหาร เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และยาสูบ ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงที่ 2.9% ขัดกับการคาดการณ์ที่คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลง
ทางด้านเศรษฐกิจเยอรมนีหดตัว 0.1% ในไตรมาสที่ 2 หลังจากรอดพ้นภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างหวุดหวิดในช่วงต้นปี เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นในเดือนกรกฎาคม และหลังจาก GDP ของเยอรมนีหดตัว 0.3% เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นประเทศเศรษฐกิจหลักที่มีผลงานแย่ที่สุด
ทั้งนี้ ภาคการผลิตของเยอรมนียังคงอ่อนแอมากขึ้นในเดือนกรกฎาคม จากผลผลิตที่ชะลอตัวเนื่องจากอุปสงค์ที่ลดลง ส่งผลให้ผู้ผลิตยังคงมุมมองในแง่ลบ อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเยอรมนีแสดงสัญญาณการฟื้นตัวก่อนถึงเดือนสิงหาคม ท่ามกลางการคาดการณ์รายได้สูงสุดในรอบกว่า 2 ปี เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัวและค่าจ้างที่เพิ่มขึ้น
ทางด้านเศรษฐกิจของฝรั่งเศสเติบโต 0.3% ในไตรมาสที่ 2 ซึ่งสูงกว่าที่คาดไว้เล็กน้อย โดยได้รับแรงหนุนจากการส่งออกที่เพิ่มขึ้นจากการส่งมอบเรือสำราญ ท่ามกลางการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่หยุดชะงัก ขณะที่บรูโน เลอ แมร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่าการเติบโตอาจเกินที่คาดการณ์ 1% เนื่องจากกิจกรรมส่งเสริมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่กำลังเกิดขึ้น ขณที่ภาคบริการของฝรั่งเศสขยายตัวในเดือนกรกฎาคม โดยได้รับประโยชน์จากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโอลิมปิก ท่ามกลางภาคการผลิตที่ปรับตัวลดลง
อย่างไรก็ดี จากผลสำรวจชี้ว่าธุรกิจในฝรั่งเศสและเยอรมเผชิญกับมุมมองในแง่ลบมากขึ้น ส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวที่เชื่องช้าของเขตยูโร ท่ามกลางการดิ้นรนหลังการระบาดเนื่องจากการลงทุนของรัฐบาลที่ลดลง การขาดดุลทางเทคโนโลยี และการพึ่งพาวัตถุดิบจากต่างประเทศ ส่งผลให้สภาพแวดล้อมทางธุรกิจแย่ลงในเดือนกรกฎาคม โดยเหตุการณ์เหล่านี้อาจส่งผลให้ธนาคารกลางยุโรปปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวเล็กน้อยของเขตยูโร ซึ่งอาศัยรายได้ที่แท้จริงที่เพิ่มขึ้นและการส่งออกที่แข็งแกร่งมากขึ้น
ทางด้านดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากรายงานการจ้างงานเดือนกรกฎาคมที่อ่อนค่ากว่าที่คาดไว้ ส่งผลให้มีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 50 จุดในเดือนกันยายน เนื่องจากเศรษฐกิจเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัว
ขณะเดียวกัน กิจกรรมการผลิตของสหรัฐฯ ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือนในเดือนกรกฎาคม เนื่องจากคำสั่งซื้อใหม่ที่ลดลง แม้ว่าการผลิตในโรงงานจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในไตรมาสที่ 2
ทางด้านจำนวนผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานใหม่แตะระดับสูงสุดในรอบ 11 เดือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานกำลังอ่อนตัวลง โดยจำนวนผู้ว่างงานในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2021 โดยอัตราการว่างงานของสหรัฐฯ พุ่งขึ้นแตะระดับ 4.3% ในเดือนกรกฎาคม ท่ามกลางการจ้างงานที่ชะลอตัว สร้างความหวาดกลัวต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยเพิ่มมากขึ้น และนับเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่สี่ โดยขยับจากระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปีที่ 3.4% ในเดือนเมษายน 2023 ไปสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2021 ท่ามกลางการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นในสาขาการดูแลสุขภาพ การก่อสร้าง การขนส่ง และการจัดเก็บสินค้า แต่ลดลงในธุรกิจด้านข้อมูล
ตามเครื่องมือ FedWatch ของ CME Group ล่าสุด นักลงทุนมองว่ามีโอกาส 71% ที่อัตราดอกเบี้ยจะปรับลด 50 จุดในเดือนกันยายน เพิ่มขึ้นจาก 31% ก่อนการเผยแพร่ข้อมูลทางเศรษฐกิข และ 22% ในวันพฤหัสบดี โดยคาดว่าจะมีการผ่อนคลายอัตราดอกเบี้ยรวม 116 จุดภายในสิ้นปีนี้ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลลดลง โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปีลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2023 และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม
ทั้งนี้ แม้เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในการประชุมล่าสุด แต่ประธานเจอโรม พาวเวลล์ระบุว่าอัตราดอกเบี้ยอาจถูกปรับลดในเดือนกันยายนหากเศรษฐกิจเดินตามแนวทางที่คาดไว้ ท่ามกลางความกังวลด้านเศรษฐกิจจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงเป็นเวลานานที่อาจส่งผลกระทบต่อการเติบโต
โดยหลังจากรายงานการจ้างงานเดือนกรกฎาคมที่อ่อนแอที่ทำให้เกิดความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย ปฏิทินเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้จะค่อนข้างเบาบาง โดยคาดว่าดัชนีภาคบริการของสถาบันการจัดการอุปทานจะเติบโตเล็กน้อย และรายงานรายสัปดาห์เกี่ยวกับการยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจะให้ข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับตลาดแรงงาน นอกจากนี้ จะมีการติดตามความคิดเห็นของนางแมรี เดลีย์ ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก และนายโทมัส บาร์กิน ประธานเฟดสาขาริชมอนด์ เพื่อประเมินข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต จึงคาดว่าจะส่งผลให้เงินยูโรอาจยังคงแนวโน้มปรับตัวขึ้นลงในกรอบกว้างๆ และยังคงอ่อนค่ากว่าเงินดอลลาร์ได้ในระยะกลางจากความแตกต่างของผลตอบแทนระหว่างทั้งสองเศรษฐกิจ
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5Min) CFD EUR/USD
แนวต้านสำคัญ : 1.0924, 1.0925, 1.0927
แนวรับสำคัญ : 1.0920, 1.0919, 1.0917
5Min Outlook
ที่มา: TradingView
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.0916 - 1.0920 แต่ไม่สามารถทะลุแนวรับที่ 1.0920 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.0924 และ SL ที่ประมาณ 1.0914 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถทะลุแนวต้านที่ช่วงราคา 1.0924 - 1.0928 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.0929 และ SL ที่ประมาณ 1.0918 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.0924 - 1.0928 แต่ไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 1.0924 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.0919 และ SL ที่ประมาณ 1.0930 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถทะลุแนวรับที่ช่วงราคา 1.0916 - 1.0920 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.0913 และ SL ที่ประมาณ 1.0926 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Aug 5, 2024 09:56AM GMT+7
Name
|
S3
|
S2
|
S1
|
Pivot Points
|
R1
|
R2
|
R3
|
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 1.0915 | 1.0917 | 1.0919 | 1.0922 | 1.0924 | 1.0927 | 1.0929 |
Fibonacci | 1.0917 | 1.0919 | 1.092 | 1.0922 | 1.0924 | 1.0925 | 1.0927 |
Camarilla | 1.0921 | 1.0922 | 1.0922 | 1.0922 | 1.0923 | 1.0923 | 1.0924 |
Woodie's | 1.0915 | 1.0917 | 1.0919 | 1.0922 | 1.0924 | 1.0927 | 1.0929 |
DeMark's | - | - | 1.0921 | 1.0923 | 1.0926 | - | - |
ที่มา: Investing 1, Investing 2
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิ