ธนาคารกลางญี่ปุ่นปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบหลายปี 

ค่าเงินเยนของญี่ปุ่นอ่อนค่าลงน้อย หลังจากที่แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วในเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่นจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ ในขณะที่รองผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น นายชินอิจิ อุชิดะ กล่าวว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหากเศรษฐกิจยังไม่มีความชัดเจน อย่างไรก็ตาม ตลาดคาดว่าธนาคารกลางจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง เนื่องจากค่าจ้างแรงงานในท้องถิ่นที่เพิ่มขึ้นอาจส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นด้วย

การเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินที่เข้มงวดธนาคารกลางญี่ปุ่น ทำให้มีการยุติการซื้อขายเงินเยนแบบ Carry Trade ซึ่งได้รับแรงหนุนจากความกลัวต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐฯ ที่เพิ่มมากขึ้น และผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 ของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่น่าผิดหวัง กระตุ้นให้เกิดการเทขายสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก

ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมล่าสุดเป็น 0.25% นอกจากนี้ธนาคารกลางยังกล่าวเพิ่มเติมว่าจะลดการซื้อพันธบัตรรายเดือนลงเหลือ 3 ล้านล้านเยนถึงมีนาคม 2026 เพื่อให้ธนาคารกลางสามารถดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคม

BoJ คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานสำหรับปี 2024 จะลดลงเหลือประมาณ 2.5% ซึ่งน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนเมษายน นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อจะลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 2% สำหรับปี 2025ในด้าน GDP ผู้กำหนดนโยบายได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตในปี 2024 ลงเหลือ 0.6% จาก 0.8%

อัตราการว่างงานของญี่ปุ่นในเดือนมิถุนายนอยู่ที่ 2.5% มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 2.6% โดยจำนวนผู้ว่างงานลดลง 60,000 คน เหลือ 1.76 ล้านคน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน ในขณะที่การจ้างงานเพิ่มขึ้น 250,000 คน ซึ่งถือเป็นระดับการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ที่ 67.86 ล้านคน ทั้งนี้ จำนวนผู้สมัครงานต่อการประกาศงานลดลงเล็กน้อยสู่ระดับ 1.23 ในเดือนมิถุนายน แสดงให้เห็นถึงแรงกดดันด้านต้นทุนแรงงานที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลให้บริษัทต่างๆ ปรับลดการรับสมัครพนักงานลง

การใช้จ่ายของภาคครัวเรือนในญี่ปุ่นหดตัวลง 1.4% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าในเดือนมิถุนายน ถือเป็นการหดตัวลงต่อเนื่องหลังจากลดลง 1.8% ในเดือนก่อนหน้า และนับเป็นการลดลงครั้งที่ 5 ในปีนี้ โดยอัตราของการใช้จ่ายภาคครัวเรือนชะลอตัวลงในหลายภาคส่วน ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากการใช้จ่ายด้านที่อยู่อาศัยที่ลดลงมากกว่า 23.6% ในขณะเดียวกัน การใช้จ่ายด้านอาหารเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน ที่ 1.5% และการใช้จ่ายด้านเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ภายในบ้านที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วที่ 23.7%

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)

แนวต้านสำคัญ: 147.85, 148.52, 149.4

แนวรับสำคัญ: 146.3, 145.42, 144.75

ที่มา: Investing.com

Buy/Long 1: หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 145.42 - 146.3 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 146.3 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 148.52 และ SL ที่ประมาณ 144.75 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

จุดกลับตัว 7 สิงหาคม 2567 20:28 น. GMT+7