กองกำลังไม่ทราบฝ่าย บุกเข้าไปในหน่วยงานของรัฐ ในสหรัฐอเมริกาเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ขณะที่ฝ่ายนิติบัญญัติกำลังประชุมกันเพื่อยืนยันการลงคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีโจ ไบเดน
ความโกลาหลในเมืองหลวงของสหรัฐอเมริกาถูกตีแผ่ทางโทรทัศน์และทางโซเชียลมีเดียขณะที่ฝ่ายนิติบัญญัติพยายามหาทางออกโดยระงับการนับคะแนนชั่วคราว หุ้นเกือบจะกลายเป็นความหลัง หลังจากที่ทำสถิติสูงสุดใหม่ในช่วงต้นวัน
ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ดูเหมือนจะชะลอตัวเล็กน้อย จากก่อนหน้านี้ตลาดตอบสนองในเชิงบวกต่อความคาดหวังของการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมภายใต้การบริหารของไบเดน ซึ่งมีแนวโน้มที่จะสามารถสภาบนและล่างได้
การเลือกตั้งในจอร์เจียจะทำให้พรรคเดโมแครตมีจำนวนที่นั่งเท่ากันในวุฒิสภาโดยมีรองประธานาธิบดีที่ได้รับเลือกคือกมลา แฮร์ริส เป็นการเปิดทางให้ไบเดนและพรรคเดโมแครตผ่านวาระของพวกเขาโดยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกรีพับลิกันทั้งซ้ายและขวาขัดขวาง
นโยบายพลังงานสะอาดและการช่วยเหลือทางเศรษฐกิจจะกระตุ้นการฟื้นตัวและโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้มีการซื้อขายหุ้นของธนาคารและหุ้นกลุ่มพลังงานสูงในการซื้อขายช่วงแรก
3 สิ่งที่อาจส่งผลต่อตลาดมีดังนี้
1. ความรุนแรงนำจากม็อบบุกยึดทำเนียบ
ความรุนแรงในวอชิงตันอาจส่งผลกระทบต่อหุ้น เนื่องจากความไม่แน่นอนทำให้เกิดความผันผวน ตำรวจกำลังควบคุมผู้ก่อจลาจลออกจากอาคารรัฐสภาในบ่ายวันพุธและนายกเทศมนตรีของวอชิงตันได้เรียกร้องให้มีการประกาศเคอร์ฟิวภายในเวลา 18.00 น. ET
หากความรุนแรงเกิดขึ้นในชั่วข้ามคืนและเข้าสู่วันใหม่ หุ้นอาจหดตัวลงต่ำ และสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำอาจราคาสูงขึ้น เนื่องจากนักลงทุนเร่งหาที่หลบภัย
2. การยืนยันการเลือกตั้งถูกระงับ
ความรุนแรงดังกล่าวทำให้การยืนยันการลงคะแนนเลือกตั้งรับรองตำแหน่งของไบเดน หยุดชะงักและยังไม่มีกำหนดการเริ่มนับอีกครั้ง ผู้นำรัฐสภาต้องออกจากห้องประชุมเมื่อผู้ก่อจลาจลบุกเข้ามาในอาคาร
วันที่ 6 มกราคมเป็นวันที่สภาคองเกรสกำหนดให้ทำภารกิจนี้ เพื่อให้การเปิดตัวในวันที่ 20 มกราคมเป็นไปตามกำหนดการ
3. ตัวเลขผู้ว่างงาน
ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกซึ่งเผยแพร่เมื่อเวลา 08.30 น. ET (1230 GMT) ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนในเดือนธันวาคมลดลง 123,000 ตามรายงานของ ADP ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ของการชะลอตัวของเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ
นักวิเคราะห์จากการรายงานของ Investing.com คาดว่าจะมีผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานจำนวน 800,000 คนซึ่งจะเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน การยื่นคำร้องสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง คาดว่าจะมีจำนวน 5.2 ล้านคน