ราคาถั่วเหลืองร่วงลงท่ามกลางการคาดการณ์ผลผลิตของสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งและการครองตลาดส่งออกของบราซิล
ราคาถั่วเหลืองร่วงลงเนื่องจากการขายเก็งกำไรและทางเทคนิค การประเมินอันดับสภาพพืชผลของ USDA ในระดับประเทศสูงกว่าปีที่แล้ว บ่งชี้ว่าการเก็บเกี่ยวในปี 2024 อาจสูงขึ้น ท่ามกลางความต้องการถั่วเหลืองภายในประเทศที่ยังคงแข็งแกร่ง แต่การส่งออกยังคงชะลอตัวเนื่องจากบราซิลที่ยังคงครองตลาด ขณะที่ ABIOVE หรือสมาคมอุตสาหกรรมน้ำมันพืชแห่งบราซิลของบราซิลคาดการณ์ผลผลิตในปี 2024 ที่ 153.2 ล้านตัน พร้อมกันกับ CONAB ที่คาดว่าจะรอัปเดตการรายงานในวันที่ 13 สิงหาคมนี้ โดยจีนนำเข้าถั่วเหลืองในเดือนกรกฎาคมอยู่ที่ 9.853 ล้านตัน ในขณะที่บราซิลส่งออก 11.25 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 16% ท่ามกลางราคากากถั่วเหลืองที่ลดลง ราคาน้ำมันถั่วที่เพิ่มขึ้นจากการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันดิบ และการหยุดประท้วงของแรงงานในโรงงานน้ำมันของอาร์เจนตินาที่อาจส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวในระยะสั้น
ทั้งนี้ ในช่วงกลางเดือนกันยายน บราซิลจะเริ่มปลูกพืชถั่วเหลืองสำหรับปี 2024/25 ซึ่งคาดว่าจะแตะระดับสูงสุดที่ 165 ล้านตันและส่งออก 102 ล้านตัน ตามข้อมูลของ StoneX โดยในฐานะผู้ผลิตและส่งออกถั่วเหลืองรายใหญ่ ผลผลิตและการส่งออกของบราซิลมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นหากสภาพอากาศดีขึ้นหลังจากฤดูกาลเพาะปลูกที่ยากลำบากในปี 2023/24
อย่างไรก็ดี ผลผลิตถูกคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 3.55 ตันต่อเฮกตาร์ ท่ามกลางการเติบโตของพื้นที่เพาะปลูกที่ค่อนข้างน้อยเนื่องจากราคาถั่วเหลืองที่ลดลง โดยบราซิลวางแผนที่จะปลูกถั่วเหลืองบนพื้นที่ 46.53 ล้านเฮกตาร์ เพิ่มขึ้นจาก 46.16 ล้านเฮกตาร์ในรอบการเพาะปลูกที่แล้ว
สำหรับอุปทานและอุปสงค์ถั่วเหลืองทั่วโลกคาดว่ายังคงความสมดุล โดยได้รับอิทธิพลจากการเก็บเกี่ยวที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ ที่กดดันราคา ขณะที่การบริโภคภายในประเทศของบราซิลคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 60 ล้านตัน โดยได้รับแรงหนุนจากการผลิตเนื้อสัตว์และไบโอดีเซล ซึ่งถึงแม้ความต้องการจะสูง แต่ผลผลิตที่มากเป็นประวัติการณ์อาจนำไปสู่สต็อกคงคลังที่สูงขึ้น ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ 6.96 ล้านตัน เมื่อเทียบกับ 3 ล้านตันในปี 2023/24
ทางด้านสัญญาซื้อขายถั่วเหลืองล่วงหน้าของ Chicago Board of Trade ร่วงลงในวันพุธ เนื่องจากการคาดการณ์ว่าผลผลิตของสหรัฐฯ ที่มีจำนวนมาก สภาพอากาศในแถบมิดเวสต์ที่เอื้อต่อการเพาะปลูกในระดับปานกลาง และความต้องการเมล็ดพืชน้ำมันที่อ่อนแอ ขณะที่ความกังวลด้านเศรษฐกิจโลกและการนำเข้าถั่วเหลืองของจีนได้เพิ่มแรงกดดันในตลาดมากขึ้น โดยสัญญาซื้อขายถั่วเหลืองล่วงหน้าในตลาดซื้อขายหลายแห่งแตะระดับต่ำสุดใหม่ระหว่างช่วงการซื้อขาย
โดยในวันพุธ สัญญาซื้อขายถั่วเหลืองล่วงหน้าส่วนใหญ่ลดลง 5 ถึง 7 เซ็นต์ โดยสัญญาซื้อขายกากถั่วเหลืองล่วงหน้าเดือนกันยายนลดลง 5.90 ดอลลาร์ต่อตัน และเพิ่มแรงกดดัน ในทางกลับกัน สัญญาซื้อขายน้ำมันถั่วเหลืองล่วงหน้าเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 103 จุด และเพิ่มแรงหนุนได้บางส่วน ขณะที่รายงานการผลิตพืชผลทางการเกษตรของ NASS อาจแสดงให้เห็นว่าผลผลิตถั่วเหลืองเพิ่มขึ้นเป็น 52.5 บุชเชลต่อเอเคอร์ เพิ่มขึ้น 0.5 บุชเชลต่อเอเคอร์ จากการรายงานของ WASDE ในเดือนก่อน โดยผลผลิตอาจเพิ่มขึ้น 35 ล้านบุชเชลมาอยู่ที่ 4.470 พันล้านบุชเชล แม้จะมีการคาดการณ์ว่าพื้นที่เก็บเกี่ยวจะลดลงเกือบ 150,000 เอเคอร์ก็ตาม
ทางด้านสัญญาซื้อขายถั่วเหลืองล่วงหน้าเดือนพฤศจิกายน หลังจากเริ่มต้นสัปดาห์ได้อย่างแข็งแกร่ง ได้เผชิญกับแรงกดดันอย่างมากเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับปริมาณพืชผลที่เพิ่มขึ้น โดยมีแนวรับแรกอยู่ที่ 1,013-1,015 ขณที่การฟื้นตัวของดอลลาร์สหรัฐฯ ยังได้เพิ่มแรงกดดันต่อสัญญาซื้อขายล่วงหน้ามากขึ้น โดยผู้ซื้อขายจะให้ความสนใจกับรายงานอุปทานและอุปสงค์ทั่วโลกของ USDA ในวันจันทร์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อตลาดหากมีการปรับพื้นที่เพาะปลูก
ทั้งนี้ ราคาถั่วเหลืองปรับตัวลดลงต่ำกว่าแนวต้านของกรอบขาลง โดยวันพุธเริ่มต้นการซื้อขายด้วยเนวโน้มขาลง ที่เป้าหมายที่ 1,000.00 ดอลลาร์ ขณะที่แรงกดดันเชิงลบของเส้น EMA50 หนุนแนวโน้มดังกล่าว โดยราคาต้องทะลุระดับ 1,035.00 ดอลลาร์จึงจะพลิกกลับแนวโน้มขาลงได้ ช่วงราคาซื้อขายที่คาดไว้สำหรับช่วงนี้จึงอยู่ระหว่างแนวรับ 995.00 ดอลลาร์และแนวต้าน 1,035.00 ดอลลาร์
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1W) CFD US Soybeans Futures - Sep 24 (ZSU4)
แนวต้านสำคัญ : 1033.28, 1041.13, 1053.83
แนวรับสำคัญ : 1007.88, 1000.03, 987.33
1W Outlook
ที่มา: TradingView
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 967.88 - 1007.88 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1007.88 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1035.91 และ SL ที่ประมาณ 948.00 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1033.28 - 1073.28 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1095.00 และ SL ที่ประมาณ 988.00 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1033.28 - 1073.28 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 1033.28 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1002.66 และ SL ที่ประมาณ 1093.00 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 967.88 - 1007.88 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 946.00 และ SL ที่ประมาณ 1053.00 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Aug 8, 2024 09:42AM GMT+7
Name
|
S3
|
S2
|
S1
|
Pivot Points
|
R1
|
R2
|
R3
|
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 969.41 | 987.33 | 1002.66 | 1020.58 | 1035.91 | 1053.83 | 1069.16 |
Fibonacci | 987.33 | 1000.03 | 1007.88 | 1020.58 | 1033.28 | 1041.13 | 1053.83 |
Camarilla | 1008.86 | 1011.9 | 1014.95 | 1020.58 | 1021.05 | 1024.1 | 1027.14 |
Woodie's | 968.13 | 986.69 | 1001.38 | 1019.94 | 1034.63 | 1053.19 | 1067.88 |
DeMark's | - | - | 995 | 1016.75 | 1028.25 | - | - |
ที่มา: MercoPress., Economies.com
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิ