ภาคการผลิตของอินเดียยังมีการเติบโตที่แข็งแกร่ง
เงินรูปีอินเดียอ่อนค่าลงต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา แม้ว่าจะได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐก็ตาม ด้วยการอ่อนค่าของรูปีนี้คาดว่าจะมาจากความไม่มั่นใจของนักลงทุน เนื่องจากเศรษฐกิจครองสหรัฐอเมริกามีแนวโน้มว่าจะเกิดเศรษฐกิจถดถอยมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อประเทศในตลาดเกิดใหม่ที่จำเป็นต้องพึ่งพาการนำเข้าของสหรัฐเป็นหลัก
ทั้งนี้ นักลงทุนยังคงประเมินถึงจุดยืนของธนาคารกลางอินเดียว่าจะแก้ปัญหาการอ่อนค่าของเงินรูปีอย่างไร ในขณะที่ธนาคารกลางตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 6.5% นักลงทุนยังคงไม่ตัดใจว่าธนาคารกลางอาจเข้ามาแทรกแซงตลาดสกุลเงินเพื่อลดความผันผวนที่เกิดขึ้นและช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของสินค้าอินเดีย โดยมีการคาดการณ์งบประมาณในปี 2025 รัฐบาลจะมีการขาดดุลเพียงเล็กน้อยเท่านั้นจากการสนับสนุนสภาพเศรษฐกิจในตอนนี้
ธนาคารกลางอินเดียคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 6.5% เป็นครั้งที่เก้าติดต่อกันในการประชุมครั้งล่าสุด โดยธนาคารกลางอินเดียยังคงจับตามองอัตราเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แน่ใจว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลงสู่เป้าหมายที่ 4% ในขณะเดียวกันก็จำเป็นต้องให้เศรษฐกิจภายในประเทศยังสามารถแข่งขันกับต่างประเทศและเติบโตต่อไปได้ เมื่อมาดูรายละเอียดพบว่าการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อส่วนใหญ่ยังคงได้รับแรงหนุนจากราคาอาหารที่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศที่แห้งแล้งทำให้ไม่สามารถทำการเกษตรได้ดีเท่าที่ควร ซึ่งสวนทางกันกับอุปสงค์ที่เพิ่มมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยธนาคารกลางคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจสำหรับปี 2024 และ 2025 ไว้ที่ 7.2% โดยไตรมาสที่ 1 อยู่ที่ 7.1% ลดลงเล็กน้อยจากการคาดการณ์ก่อนหน้าที่ 7.3% โดยแสดงให้เห็นถึงความกังวลต่อภาวะที่ดีถดถอยที่กำลังจะเกิดขึ้น
PMI ภาคการผลิตของอินเดียเพิ่มขึ้นเป็น 58.5 ในเดือนกรกฎาคม จาก 58.3 ในเดือนก่อนหน้า แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของภาคการผลิตที่มีการปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และถือเป็นการขยายตัวที่รวดเร็วที่สุดของกิจกรรมในโรงงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลผลิตที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แสดงให้เห็นถึงสภาพที่เอื้ออำนวยต่อการทำธุรกิจและผลกำไรที่ดีมากขึ้น การขยายตัวของภาคการผลิตนี้ยังส่งผลให้บริษัทต่างๆ มีการจ้างงานเพิ่มมากขึ้น และทำให้มุมมองต่อเศรษฐกิจในอนาคตอันใกล้ดีขึ้นด้วย
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอินเดียอายุ 10 ปีอยู่ที่ 6.87% ฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยจากระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีที่ 6.85% เนื่องจากความเสี่ยงทั่วโลกที่เพิ่มมากขึ้นทำให้นักลงทุนบางส่วนหันกลับมาซื้อสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยมากกว่า อย่างไรก็ตาม อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปียังคงลดลง 35 bps เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เนื่องจากโมเมนตัมที่แข็งแกร่งของเศรษฐกิจอินเดีย โดยวัดได้จาก GDP ของอินเดียที่ขยายตัว 8.2% นอกจากนี้พันธบัตรรัฐบาลของอินเดียยังได้รับการสนับสนุนจาก JPMorgan ที่รวมพันธบัตรรัฐบาลของอินเดียเข้าไปในกองทุนของประเทศตลาดเกิดใหม่ ส่งผลให้อุปทานของพันธบัตรรัฐบาลยิ่งขาดแคลนมากขึ้น
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)
แนวต้านสำคัญ: 83.99, 84.003, 84.029
แนวรับสำคัญ: 83.951, 83.925, 83.912
ที่มา: Investing.com
Buy/Long 1: หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 83.925 - 83.951 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 83.951 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 84.003 และ SL ที่ประมาณ 83.912 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2: หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 83.99 - 84.003 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 84.029 และ SL ที่ประมาณ 83.925 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1: หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 83.99 - 84.003 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 83.99 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 83.925 และ SL ที่ประมาณ 84.029 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2: หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 83.925 - 83.951 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 83.912 และ SL ที่ประมาณ 84.003 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
จุดกลับตัว 8 สิงหาคม 2567 21:16 น. GMT+7
ชื่อ
|
S3
|
S2
|
S1
|
จุดกลับตัว
|
R1
|
R2
|
R3
|
Classic | 83.912 | 83.925 | 83.951 | 83.964 | 83.99 | 84.003 | 84.029 |
Fibonacci | 83.925 | 83.94 | 83.949 | 83.964 | 83.979 | 83.988 | 84.003 |
Camarilla | 83.966 | 83.97 | 83.973 | 83.964 | 83.981 | 83.984 | 83.988 |
Woodie's | 83.918 | 83.928 | 83.957 | 83.967 | 83.996 | 84.006 | 84.035 |
DeMark's | - | - | 83.958 | 83.967 | 83.996 | - | - |