ราคาข้าวโพดลดลงท่ามกลางความไม่แน่นอน ท่ามกลางอุปสงค์ที่แข็งแกร่งช่วยจำกัดการลดลง
ราคาข้าวโพดลดลงเล็กน้อยจากการขายกองทุนและทางเทคนิค ท่ามกลางพืชผลของสหรัฐอเมริกาที่เติบโตเร็วกว่าค่าเฉลี่ย ขณะที่การเก็บเกี่ยวในวงกว้างยังคงต้องรออีกหลายสัปดาห์ และยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับจำนวนเอเคอร์ที่จะเก็บเกี่ยวได้เนื่องจากความเสียหายจากพายุและน้ำท่วมในช่วงต้นฤดูกาล โดยการทัวร์สำรวจพืชผลครั้งใหญ่ในสัปดาห์นี้อาจบ่งชี้ว่า USDA มีแนวโน้มที่จะปรับลดการคาดการณ์ผลผลิตในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งการเปลี่ยนแปลงการคาดการณ์มักเกิดขึ้นบ่อยครั้งเนื่องจากวิธีการและพื้นที่ตัวอย่างในการสำรวจที่แตกต่างกัน ขณะที่ภูมิภาคทางใต้บางแห่งอาจได้รับผลกระทบในช่วงปลายฤดูการเพาะปลูก จากรูปแบบสภาพอากาศที่คาดว่าจะอุ่นและแห้งขึ้นในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ การลดลงของราคาข้าวโพดยังคงถูกจำกัดด้วยความต้องการที่แข็งแกร่งสำหรับอาหารสัตว์ เชื้อเพลิง และการส่งออก โดยข้าวโพดของสหรัฐอเมริกายังคงมีความสามารถในการแข่งขันสูงสุดในตลาดโลก ท่ามกลางระดับราคาพื้นฐานในบราซิลและยูเครนที่เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ Safras e Mercado รายงานว่ามีการเก็บเกี่ยวพืชผลรอบที่สองในภาคกลางและภาคใต้ของบราซิลไปแล้ว 95% ซึ่งเร็วกว่าปีที่แล้วและค่าเฉลี่ยห้าปีอย่างมาก
ทางด้านการคาดการณ์ข้าวโพดของสหรัฐฯ ในปี 2024/25 คาดว่าจะมีปริมาณซัพพลายที่มากขึ้น การใช้ภายในประเทศที่น้อยลง การส่งออกที่มากขึ้น และสต็อกคงคลังลดลง โดยสต็อกเริ่มต้นคาดว่าจะลดลง 10 ล้านบุชเชลเนื่องจากการใช้เพิ่มขึ้นเล็กน้อยในปี 2023/24 และคาดการณ์ว่าผลผลิตข้าวโพดในปี 2024/25 จะอยู่ที่ 15.1 พันล้านบุชเชล เพิ่มขึ้น 47 ล้านบุชเชลจากเดือนที่แล้ว แม้ว่าพื้นที่เก็บเกี่ยวจะลดลง อันเนื่องมาจากการคาดการณ์ผลผลิตสูงสุดที่ 183.1 บุชเชลต่อเอเคอร์ โดยคาดว่าผลผลิตจะเพิ่มมากขึ้นในรัฐสำคัญๆ เช่น อิลลินอยส์ อินเดียนา และไอโอวา ในขณะที่ผลผลิตของรัฐโอไฮโอคาดว่าจะต่ำลง
โดยการใช้ข้าวโพดของสหรัฐฯ ในปี 2024/25 คาดการณ์ว่าจะสูงขึ้น 60 ล้านบุชเชล โดยมีการส่งออกเพิ่มขึ้น แต่มีการใช้เป็นกลูโคส เดกซ์โทรส และแป้งน้อยลง ท่ามกลางการเติบโตของอุปทานที่ล่าช้ากว่าการนำไปใช้งาน จึงคาดว่าสต็อกข้าวโพดคงคลังจะลดลง 24 ล้านบุชเชลเหลือ 2.1 พันล้านบุชเชล โดยราคาข้าวโพดเฉลี่ยคาดว่าจะลดลง 10 เซ็นต์เหลือ 4.20 ดอลลาร์ต่อบุชเชล
ทางด้านผลผลิตเมล็ดพืชหยาบทั่วโลกในปี 2024/25 คาดว่าจะลดลง 8.1 ล้านตันเหลือ 1.504 พันล้านตัน โดยพบผลผลิต การค้า และสต็อกคงคลังที่ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนที่แล้ว ขณะที่ผลผลิตข้าวโพดจากต่างประเทศลดลงเนื่องจากการเก็บเกี่ยวที่ลดลงในสหภาพยุโรป รัสเซีย เซอร์เบีย ยูเครน และมอลโดวา ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากความร้อนและความแห้งแล้งในภูมิภาคสำคัญ โดยการนำเข้าข้าวโพดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นในอินเดียและซิมบับเว แต่ลดลงในประเทศอิหร่าน ชิลี และเวียดนาม ท่ามกลางสต็อกข้าวโพดทั่วโลกที่คาดว่าจะลดลง 1.5 ล้านตันเหลือ 310.2 ล้านตัน
อย่างไรก็ดีเมื่อวันพุธ สัญญาซื้อขายข้าวโพดล่วงหน้าของ Chicago Board of Trade ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยสัญญาเดือนธันวาคมที่มีการเคลื่อนไหวมากที่สุดและปรับตัวเพิ่มขึ้น 1/4 เซ็นต์มาอยู่ที่ 3.98-1/4 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ซึ่งเกิดจากสถานะขายหรือชอร์ตของกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่ทยอยปิด และนักลงทุนที่เฝ้าติดตามทัวร์พืชผล Pro Farmer อย่างใกล้ชิด หลังจากรายงานผลผลิตที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในเนแบรสกาและอินเดียนาก่อนหน้านี้ โดยผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เพิ่มการคาดการณ์สำหรับการเก็บเกี่ยวที่จะเกิดขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งนี้ ความไม่แน่นอนของตลาดเพิ่มขึ้นเนื่องจากความล่าช้าในการขนส่งที่อาจเกิดขึ้นจากการหยุดเดินรถไฟในแคนาดา เนื่องจากแคนาดาเป็นผู้นำเข้าข้าวโพดจากสหรัฐฯ รายใหญ่ ขณะที่ Buenos Aires Grain Exchange คาดการณ์ว่าพื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดของอาร์เจนตินาจะลดลง 17% สำหรับฤดูกาล 2024/25
ล่าสุด สัญญาข้าวโพดเดือนธันวาคมส่วนใหญ่ยังคงทรงตัวในช่วงการซื้อขายล่าสุด โดยยังคงรักษาราคาไว้เหนือแนวต้านและเส้นแนวโน้มแบบลาดเอียง ส่งผลให้ระดับแนวรับและแนวต้านยังคงไม่เปลี่ยนแปลงจากช่วงการซื้อขายที่แคบ โดยแนวโน้มขาขึ้นมีเป้าหมายปิดเหนือระดับ 403 3/4 - 404 3/4 เพื่อสร้างโมเมนตัมขาขึ้นเพิ่มเติม ขณะที่ราคาได้ไปถึงเป้าหมายเริ่มต้นที่ 397.50 ดอลลาร์ และตัวบ่งชี้โมเมนตัมเชิงบวกบ่งชี้ว่าราคาอาจยังคงเพิ่มขึ้นต่อไปจนถึงเป้าหมายถัดไปที่ 405.20 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม หากราคาลดลงต่ำกว่า 387.30 ดอลลาร์ แนวโน้มขาขึ้นอาจกลับตัวและกลับสู่ทิศทางขาลงอีกครั้ง ส่งผลให้ช่วงการซื้อขายที่คาดไว้สำหรับช่วงนี้อยู่ระหว่างแนวรับ 390.00 ดอลลาร์และแนวต้าน 405.00 ดอลลาร์
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1D) CFD US Corn Futures - Dec 24 (ZCZ4)
แนวต้านสำคัญ : 399.95, 400.85, 402.3
แนวรับสำคัญ : 397.05, 396.15, 394.70
1D Outlook
ที่มา: TradingView
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 392.05 - 397.05 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 397.05 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 400.40 และ SL ที่ประมาณ 389.55 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 399.95 – 404.95 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 407.00 และ SL ที่ประมาณ 394.55 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 399.95 – 404.95 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 399.95 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 396.60 และ SL ที่ประมาณ 407.45 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 392.05 - 397.05 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 389.50 และ SL ที่ประมาณ 402.45 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Aug 22, 2024 10:00AM GMT+7
Name
|
S3
|
S2
|
S1
|
Pivot Points
|
R1
|
R2
|
R3
|
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 392.8 | 394.7 | 396.6 | 398.5 | 400.4 | 402.3 | 404.2 |
Fibonacci | 394.7 | 396.15 | 397.05 | 398.5 | 399.95 | 400.85 | 402.3 |
Camarilla | 397.46 | 397.8 | 398.15 | 398.5 | 398.85 | 399.2 | 399.54 |
Woodie's | 392.8 | 394.7 | 396.6 | 398.5 | 400.4 | 402.3 | 404.2 |
DeMark's | - | - | 397.55 | 398.98 | 401.35 | - | - |
ที่มา: XM, Economies.com
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิ