บทวิเคราะห์ AUD/USD วันที่ 23 สิงหาคม 2567

Create at 1 month ago (Aug 23, 2024 10:04)

RBA คงอัตราดอกเบี้ยท่ามกลางความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ ส่งสัญญาณการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต

ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) พิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จากข้อกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่อาจมีความหนืดกว่าที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางตัดสินใจคงเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.35% สะท้อนถึงการหาจุดสมดุลระหว่างการจัดการเงินเฟ้อและการสนับสนุนตลาดแรงงานอย่างค่อยเป็นค่อยไป

โดยบันทึกการประชุมเผยให้เห็นว่าคณะกรรมการกำหนดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางออสเตรเลียตระหนักถึงความเสี่ยงที่สำคัญที่อัตราเงินเฟ้ออาจไม่ลดลงภายในช่วงกรอบเป้าหมาย 2% ถึง 3% ภายในปลายปี 2025 ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลีย มิเชล บูลล็อก กล่าวหลังการประชุม โดยเน้นย้ำว่าธนาคารกลางออสเตรเลียอาจยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หากอัตราเงินเฟ้อยังคงสูงอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์มีความคิดเห็นแตกต่างกันเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของ RBA โดยหลายคนคาดว่าธนาคารกลางจะคงอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันไว้จนถึงอย่างน้อยไตรมาสแรกของปี 2025 ขณะที่การคาดการณ์บางส่วนระบุว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอาจเริ่มขึ้นในช่วงปลายปี 2025 ท่ามกลางความไม่แน่นอน

ทางด้านรองผู้ว่าการแอนดรูว์ ฮอเซอร์ เน้นย้ำถึงความท้าทายในการคาดการณ์เศรษฐกิจ โดยระบุว่าเงินเฟ้อมีความหนืดมากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีกำลังการผลิตสำรองในเศรษฐกิจน้อยกว่าที่เคยคาดไว้ โดยฮอเซอร์ออกคำเตือนว่าอย่ามั่นใจเกินไปในการคาดการณ์ผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจ และแนะนำว่าในบางกรณี การรอข้อมูลเพิ่มเติมอาจเป็นแนวทางที่ดีที่สุด

อย่างไรก็ดี ตลาดแรงงานของออสเตรเลียยังคงเติบโตเกินคาดในเดือนกรกฎาคม โดยการจ้างงานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ว่าอัตราการว่างงานจะขยับขึ้นแตะระดับ 4.2% โดยอัตราการมีส่วนร่วมแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ บ่งชี้ถึงความต้องการแรงงานที่แข็งแกร่ง แม้จะมีต้นทุนการกู้ยืมสูง โดยตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งนี้สนับสนุนมุมมองของ RBA ถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่อาจยังเป็นเรื่องของอีกหลายเดือนข้างหน้า เนื่องจากธนาคารกลางยังคงมุ่งมั่นในการทำให้เงินเฟ้อกลับมาอยู่ในช่วงเป้าหมาย ขณะเดียวกันกับการจัดการความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับตลาดแรงงานที่ตึงตัว

เมื่อมองไปข้างหน้า ธนาคารกลางออสเตรเลียยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันที่จะต้องผ่อนปรนนโยบายในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เนื่องจากมาตรการของรัฐบาลในการลดค่าครองชีพอาจส่งผลให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคลดลงอย่างรวดเร็ว แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะยังคงสูงอยู่ โดยแรงกดดันนี้ทวีความรุนแรงขึ้นจากความคาดหวังว่าธนาคารกลางอื่นๆ เช่น ธนาคารกลางในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และแคนาดา อาจเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้

ทางด้านค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบ 13 เดือน เนื่องจากนักลงทุนได้พิจารณาถึงระดับการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่เกิดขึ้นล่าสุดที่มากเกินจริง โดยการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงล่าสุดเกิดจากความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวลง และความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้

ทั้งนี้ ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ความคาดหวังของตลาดต่อการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของเฟดนั้นยังคงมีความผันผวน ในขณะที่มีการคาดเดากันว่าเฟดอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 50 จุดในการประชุมเดือนกันยายน แต่ความเป็นไปได้ดังกล่าวก็ได้ลดลงหลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่หลากหลาย โดยรายงานการจ้างงานเดือนกรกฎาคม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดไว้และอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิด ส่งผลให้ในช่วงแรกมีการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากข้อมูลอื่นๆ บ่งชี้ถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้น มุมมองของตลาดจึงเปลี่ยนไป ปัจจุบัน นักลงทุนจึงมองว่ามีโอกาส 75% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 จุด ลดลงจากโอกาส 38% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 50 จุด

ทางด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดเมื่อเร็วๆ นี้ โดยเคลื่อนไหวไปพร้อมกับการเพิ่มขึ้นในตลาดพันธบัตรยุโรป ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับ 3.862% จากระดับ 3.776% ในวันก่อนหน้า ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับ 4.0161% จากระดับ 3.922%

ขณะเดียวกัน กิจกรรมทางธุรกิจของสหรัฐฯ ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนในเดือนสิงหาคม ตามดัชนี S&P Global Composite PMI Output Index ซึ่งติดตามทั้งภาคการผลิตและภาคบริการ โดยดัชนีลดลงแตะระดับ 54.1 ซึ่งบ่งชี้ถึงการเติบโตที่ช้าลงแต่ยังคงความแข็งแกร่ง ขณะที่ข้อมูลดังกล่าวยังแสดงให้เห็นถึงราคาสินค้าและบริการที่ปรับตัวขึ้นในอัตราที่ช้าที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม สอดคล้องกับเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อ 2% ของเฟด และบ่งชี้ว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้ออาจค่อยๆ ลดลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์จะจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่จะมีกำหนดเปิดเผยในเร็วๆ นี้อย่างใกล้ชิด ซึ่งรวมถึงการยื่นขอสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์และดัชนี PMI ทั่วโลกของ S&P สำหรับเดือนสิงหาคม เพื่อประเมินความเป็นไปได้ของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต จึงคาดว่าจะยังคงส่งผลให้คู่สกุล AUD/USD มีแนวโน้มซื้อขายขึ้นลงในกรอบกว้างๆ อย่างต่อเนื่องได้ในช่วงนี้ โดยการแข็งค่าของ AUD คาดว่าจะยังคงถูกจำกัดในระยะกลางจากผลตอบแทนของทั้งสองประเทศเศรษฐกิจที่ต่างกันค่อนข้างมาก

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (15Min) CFD AUD/USD

แนวต้านสำคัญ : 0.6714, 0.6715, 0.6717

แนวรับสำคัญ : 0.6710, 0.67070.6709                      

15Min Outlook          

วิเคราะห์ AUD/USD ที่มา: TradingView                           

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 0.6707 - 0.671แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 0.671ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 0.6715 และ SL ที่ประมาณ 0.6706 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 0.6714 - 0.6717 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 0.6720 และ SL ที่ประมาณ 0.6709 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 0.6714 - 0.6717 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 0.6714 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 0.6710 และ SL ที่ประมาณ 0.6718 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 0.6707 - 0.671ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 0.6703 และ SL ที่ประมาณ 0.6715 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Aug 23, 2024 09:46AM GMT+7

Name
S3
S2
S1
Pivot Points
R1
R2
R3
Classic 0.6705 0.6707 0.671 0.6712 0.6715 0.6717 0.672
Fibonacci 0.6707 0.6709 0.671 0.6712 0.6714 0.6715 0.6717
Camarilla 0.6711 0.6712 0.6712 0.6712 0.6713 0.6713 0.6714
Woodie's 0.6705 0.6707 0.671 0.6712 0.6715 0.6717 0.672
DeMark's - - 0.671 0.6712 0.6716 - -

ที่มา: Investing 1Investing 2

______________________________
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิกที่นี่
รู้เท่าทันสถานการณ์โลกและบทวิเคราะห์เทคนิคขั้นสูงคลิกที่นี่
Tags:

TECHNICAL ANALYSIS

ARTICLES