บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันที่ 27 สิงหาคม 2567

Create at 2 weeks ago (Aug 27, 2024 10:16)

ตลาดสหรัฐฯ ผันผวน นักลงทุนจับตาผลประกอบการของ Nvidia และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจากเฟด

ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงเล็กน้อยในวันจันทร์ เนื่องจากนักลงทุนเผชิญกับความเป็นไปได้ที่อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ จะถูกปรับลดในเร็วๆ นี้ ท่ามกลางราคาน้ำมันจะพุ่งสูงขึ้นจากความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง โดยดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ปิดตัวลงหลังจากที่ดีดตัวสูงขึ้นในช่วงเช้า ขณะที่ดัชนี Dow Jones Industrial Average ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดัชนีฟิวเจอร์สปรับตัวลดลงเล็กน้อยในช่วงการซื้อขายรอบเย็น จากการสับเปลี่ยนการซื้อขายหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ ซึ่งได้สร้างแรงกดดันให้กับตลาดวอลล์สตรีท อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ช่วยบรรเทาผลกระทบจากการสูญเสียของตลาดโดยรวม ขณะที่นักลงทุนให้ความสนใจเป็นพิเศษกับรายงานผลประกอบการของ Nvidia ซึ่งคาดว่าจะมีกำหนดรายงานในวันพุธ โดย Nvidia ซึ่งเป็นผู้นำในภาคส่วน AI เป็นแรงผลักดันสำคัญต่อการฟื้นตัวของหุ้นเทคโนโลยีในปีนี้ โดยสัญญาณใดๆ เกี่ยวกับความอ่อนแอในรายได้ของบริษัทอาจลดแรงสนับสนุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ AI ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการสร้างกำไรของตลาด

ทางด้านกำไรในกลุ่มน้ำมันและก๊าซ โทรคมนาคม และสาธารณูปโภค ถูกชดเชยด้วยการขาดทุนในกลุ่มเทคโนโลยี สินค้าอุปโภคบริโภค และการดูแลสุขภาพ โดยดัชนีดาวโจนส์แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากนักลงทุนหันไปให้ความสำคัญกับหุ้นวัฏจักร เช่น หุ้นการเงิน ซึ่งคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในเดือนกันยายน

ทั้งนี้ หุ้นของ Nvidia ซึ่งเป็นผู้เล่นหลักในแรงแรงขับเคลื่อนของ AI ร่วงลง 2.3% ในวันจันทร์ และยังคงทรงตัวในการซื้อขายหลังปิดตลาด โดยแม้จะมีแรงกดดันในช่วงที่ผ่านมา แต่หุ้นของ Nvidia ก็ยังคงเพิ่มขึ้นประมาณ 150% ในปีนี้ ซึ่งเน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญในตลาด ขณะที่นักลงทุนมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับรายได้ของ Nvidia เนื่องจากการขาดทุนใดๆ ที่เกิดขึ้น อาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อกลุ่มเทคโนโลยีโดยรวม ซึ่งได้เริ่มถดถอยไปแล้วก่อนหน้านี้ โดยความกังวลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นในอารมณ์ของตลาดโดยรวมที่ยังคงใช้ความระมัดระวัง หลังจากที่หุ้นเทคโนโลยีลดลงและหุ้นกลุ่มวัฏจักรได้รับความนิยมมากขึ้น

อีกด้าน หุ้นของ Apple ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยเนื่องจากความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นสำหรับงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทในวันที่ 9 กันยายน ซึ่งหลายคนคาดว่าจะมีการเปิดตัว iPhone และ Apple Watch รุ่นใหม่ ขณะที่หุ้นของ PDD Holdings ซึ่งจดทะเบียนในสหรัฐฯ ร่วงลงเกือบ 29% หลังจากบริษัททำรายได้ในไตรมาสที่สองต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และหุ้นของ Tesla ร่วงลง 3.2% หลังจากแคนาดาประกาศเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากจีน 100% ซึ่งเป็นไปตามการดำเนินการในลักษณะเดียวกันของสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป

ทางด้านภาคส่วนพลังงานเป็นหนึ่งในภาคส่วนที่โดดเด่นในวันจันทร์ โดยดัชนีเพิ่มขึ้น 1.11% เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการหยุดชะงักของอุปทานน้ำมันที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงขึ้นในตะวันออกกลางและการหยุดการผลิตในลิเบียขณะที่ Boeing ร่วงลง 0.85% หลังจากที่ NASA เลือก SpaceX แทนแคปซูล Starliner ของ Boeing เพื่อนำนักบินอวกาศกลับจากสถานีอวกาศนานาชาติในปีหน้า

โดยในสัปดาห์นี้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะทบทวนตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญหลายรายการ รวมถึง GDP ไตรมาสที่ 2 ที่ปรับปรุงแล้วและรายงานการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ก่อนที่จะตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน ขณะที่แม้ว่าเงินเฟ้อยังคงเป็นประเด็นสำคัญ แต่แถลงการณ์ล่าสุดของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ บ่งชี้ว่าความเสี่ยงในตลาดแรงงานได้กลายเป็นปัญหาที่น่ากังวลมากขึ้น ท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อที่ได้เข้าใกล้เป้าหมายเพียงพอที่จะทำให้เริ่มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้อย่างเร็วที่สุดในเดือนหน้า โดยปฏิทินเศรษฐกิจยังรวมถึงรายงานคำสั่งซื้อสินค้าคงทนในวันจันทร์และรายงานการขอรับสิทธิว่างงานรายสัปดาห์ในวันพฤหัสบดี

อย่างไรก็ดี นอกจากข้อมูลเศรษฐกิจแล้ว ความสนใจของนักลงทุนยังมุ่งเน้นไปที่รายงานผลประกอบการของ Nvidia ที่มีกำหนดในวันพุธ โดยนักลงทุนจะเฝ้าติดตามการอัปเดตเกี่ยวกับความล่าช้าที่อาจเกิดขึ้นในการเปิดตัวชิป Blackwell รุ่นต่อไปของ Nvidia ขณะที่บริษัทอื่นๆ ที่รายงานผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ได้แก่ CrowdStrike, HP, Salesforce, Lululemon และ MongoDB ส่งผลให้ตลาดเตรียมรับมือกับช่วงเวลาที่อาจผันผวนได้ในช่วงนี้

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (30Min) CFD US 500 [S&P 500]

แนวต้านสำคัญ : 5617.0, 5618.0, 5619.5

แนวรับสำคัญ : 5614.0, 5613.0, 5611.5                                   

30Min Outlook         

วิเคราะห์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่มา: TradingView                       

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 5609.0 - 5614.0 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 5614.0 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 5617.6 และ SL ที่ประมาณ 5606.5 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 5617.0 - 5622.0 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 5627.0 และ SL ที่ประมาณ 5611.5 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 5617.0 - 5622.0 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 5617.0 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 5613.6 และ SL ที่ประมาณ 5624.5 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 5609.0 - 5614.0 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 5604.5 และ SL ที่ประมาณ 5619.5 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Aug 27, 2024 10:00AM GMT+7

Name
S3
S2
S1
Pivot Points
R1
R2
R3
Classic 5609.6 5611.5 5613.6 5615.5 5617.6 5619.5 5621.6
Fibonacci 5611.5 5613 5614 5615.5 5617 5618 5619.5
Camarilla 5614.5 5614.9 5615.2 5615.5 5616 5616.3 5616.7
Woodie's 5609.6 5611.5 5613.6 5615.5 5617.6 5619.5 5621.6
DeMark's - - 5614.5 5615.9 5618.5 - -

ที่มา: Investing 1Investing 2

______________________________
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิกที่นี่
รู้เท่าทันสถานการณ์โลกและบทวิเคราะห์เทคนิคขั้นสูงคลิกที่นี่
Tags:

TECHNICAL ANALYSIS

ARTICLES