ตลาดถั่วเหลืองเผชิญทิศทางที่หลากหลายท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสภาพอากาศและการเปลี่ยนแปลงของอุปทานทั่วโลก

ตลาดถั่วเหลืองมีการเคลื่อนไหวที่หลากหลายจากปัจจัยต่างๆ โดยพบราคาสูงขึ้นในช่วงแรกเนื่องจากการเข้าซื้อหลังราคาที่ร่วงลงและการซื้อทางเทคนิค ซึ่งเกิดจากความกังวลเกี่ยวกับสภาพอากาศร้อนที่อาจส่งผลกระทบต่อพืชผล ท่ามกลางอุณหภูมิที่คาดว่าจะเย็นลงและฝนที่อาจตกบ้างในภายหลัง ซึ่งอาจส่งผลต่อการประมาณผลผลิตของ USDA ที่จะมีการปรับปรุงในเดือนกันยายน ขณะที่ที่อาร์เจนตินาคาดว่าจะเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกถั่วเหลืองในฤดูกาลหน้า ส่งผลให้พื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดลดลงเนื่องจากปัญหาพืชผลที่ผ่านมา และยอดขายถั่วเหลืองของสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะชะลอตัวลงหลังจากที่ความต้องการเพิ่มขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้

ในทางกลับกัน ถั่วเหลืองล่าสุดเผชิญกับราคาที่ลดลงเนื่องจากการขายเก็งกำไรและทางเทคนิค แม้ว่าจะมีฝนตกประปรายในแถบมิดเวสต์ โดยความคาดหวังต่อผลผลิตที่สูงเป็นประวัติการณ์ยังคงส่งผลต่อตลาด ขณะที่จีนซื้อพืชผลถั่วเหลืองใหม่จำนวนมากจากสหรัฐฯ ท่ามกลางราคากากถั่วเหลืองที่ลดลง ราคาน้ำมันถั่วเหลืองที่เพิ่มขึ้น และผลผลิตถั่วเหลืองของแคนาดาที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเนื่องจากสภาพการเพาะปลูกที่ดีขึ้น

ทั้งนี้ การคาดการณ์ถั่วเหลืองของสหรัฐฯ ในปี 2024/25 คาดว่าจะมีผลผลิต การส่งออก และสต็อกคงคลังพิ่มขึ้น ในระดับที่คาดว่าจะสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4.6 พันล้านบุชเชล โดยการส่งออกถั่วเหลืองของสหรัฐฯ เผชิญกับความท้าทายเนื่องจากพืชผลของอาร์เจนตินาที่เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า การส่งออกที่แข็งแกร่งของบราซิลแม้จะมีการเก็บเกี่ยวที่น้อยลง และการซื้อของจีนที่ชะลอตัว

ขณะเดียวกัน USDA คาดว่าผลผลิตถั่วเหลืองทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากผลผลิตที่เพิ่มขึ้นในหลายประเทศ รวมถึงสหรัฐฯ และบราซิล อย่างไรก็ตาม Pro Farmer คาดการณ์ว่าผลผลิตถั่วเหลืองของสหรัฐฯ จะมากกว่าที่ USDA คาดการณ์ไว้ ซึ่งอาจสร้างสถิติใหม่ได้ โดยการคาดการณ์สภาพอากาศและผลผลิตยังคงมีบทบาทสำคัญในตลาดธัญพืชทั่วโลก ซึ่งส่งผลกระทบที่แตกต่างกันต่อราคาถั่วเหลือง ขณะที่การคาดการณ์บ่งชี้ว่าอุปสงค์ของสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากราคาที่แข่งขันได้

ทางด้านเกษตรกรชาวแคนาดาคาดว่าจะเพาะปลูกถั่วเหลืองได้มากขึ้นในปีนี้เนื่องจากสภาพการเพาะปลูกที่ดีขึ้นในแคนาดาตะวันตกในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม อย่างไรก็ตาม ปัญหาการขาดแคลนความชื้นที่เหมาะสมและอุณหภูมิที่สูงยังคงเป็นปัญหาที่น่ากังวลในพื้นที่การเพาะปลูกของแคนาดา โดยผลผลิตถั่วเหลืองในประเทศคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.4% ขณะที่พื้นที่เก็บเกี่ยวเพิ่มขึ้น 2.0%

ในบราซิล ผลผลิตถั่วเหลืองขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้ประเทศกลายเป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่ของโลก อย่างไรก็ตาม ราคาที่ตกต่ำเมื่อเร็วๆ นี้และอัตรากำไรที่ลดลงอาจทำให้การขยายตัวของผลผลิตช้าลง โดยสต็อกถั่วเหลืองทั่วโลกคาดว่าจะแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้รับแรงหนุนจากผลผลิตจำนวนมากของบราซิลและผลผลิตที่สูงของสหรัฐฯ ส่งผลให้ทั้งสองประเทศอาจต้องพิจารณาแนวทางการปลูกใหม่สำหรับฤดูกาลหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากความต้องการของจีนยังคงอ่อนแอ

ทั้งนี้ เมื่อวันพุธ สัญญาซื้อขายถั่วเหลืองล่วงหน้าร่วงลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เซสชั่น โดยลดลงจากระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ล่าสุด ส่งผลให้สัญญาถั่วเหลืองล่วงหน้าร่วงลง 6-8 เซนต์ ขณะที่สัญญากากถั่วเหลืองล่วงหน้าในเดือนกันยายน ร่วงลง 5 ดอลลาร์ต่อตัน ขณะที่สัญญาน้ำมันถั่วเหลืองล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 31 จุด ท่ามกลางการส่งออกถั่วเหลืองไปยังจีนจำนวน 264,000 เมตริกตันสำหรับฤดูกาล 2024/25

อย่างไรก็ดี ราคาถั่วเหลืองยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางบวก โดยพยายามทะลุแนวต้านของกรอบขาลง ท่ามกลางตัวบ่งชี้แบบสุ่มที่ส่งสัญญาณเชิงลบ บ่งชี้ถึงแนวโน้มขาลงที่อาจดำเนินต่อไป โดยราคาคาดว่าจะร่วงลงมาที่ 973.00 ดอลลาร์เป็นเป้าหมายแรก และหากทะลุระดับนี้ไปได้ ราคาอาจร่วงลงไปอีกที่ 960.30 ดอลลาร์ และ 930.00 ดอลลาร์ ที่เป็นเป้าหมายหลัก

ในทางกลับกัน หากราคาสามารถทะลุขึ้นไปที่ระดับ 998.00 ดอลลาร์ ก็จะส่งผลให้การร่วงลงหยุดชะงัก และอาจเกิดการปรับฐานเป็นขาขึ้นระหว่างวัน โดยช่วงราคาซื้อขายที่คาดไว้สำหรับช่วงนี้คือระหว่างแนวรับ 970.00 ดอลลาร์และแนวต้าน 995.00 ดอลลาร์ ท่ามกลางแนวโน้มโดยรวมที่ยังคงเป็นขาลง

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD US Soybeans Futures - Nov 24 (ZSX4)

แนวต้านสำคัญ : 980.17, 980.82, 981.87

แนวรับสำคัญ : 978.07, 977.42 , 976.37     

1H Outlook

ที่มา: TradingView    

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 976.57 - 978.07 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 978.07 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 980.74 และ SL ที่ประมาณ 975.82 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 980.17 - 981.67 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 984.00 และ SL ที่ประมาณ 977.32 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 980.17 - 981.67 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 980.17 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 977.99 และ SL ที่ประมาณ 982.42 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 976.57 - 978.07 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 973.50 และ SL ที่ประมาณ 979.42 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Aug 29, 2024 10:46AM GMT+7