ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เตรียมพร้อมรับรายงานการจ้างงาน หุ้นเทคโนโลยีร่วงท่ามกลางความกังวลการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ตลาดโลกปรับตัวลดลงเล็กน้อยในวันจันทร์ เนื่องจากนักลงทุนเตรียมพร้อมสำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในรอบสัปดาห์ ซึ่งรวมถึงรายงานการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่อาจส่งผลต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้น โดยในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าภาคการผลิตของจีนลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือนในเดือนสิงหาคม ขณะที่ข้อมูลในวันจันทร์เน้นย้ำถึงกิจกรรมภาคการผลิตที่อ่อนแอในยูโรโซน
ท่ามกลางข้อกังวลเหล่านี้ ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทกลับเพิ่มขึ้นในวันศุกร์ โดยดัชนีดาวโจนส์แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เป็นครั้งที่สองติดต่อกัน จากความหวังว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้
การฟื้นตัวของตลาดโดยรวมตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคมถือเป็นสัญญาณบวกสำหรับนักลงทุนที่กังวลเกี่ยวกับหุ้นเทคโนโลยีที่ครองตลาด ขณะที่เงินยังไหลเข้าสู่หุ้นมูลค่าและหุ้นขนาดเล็ก ซึ่งอาจได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์จาก Bank of America เตือนว่าในอดีต เดือนกันยายนและตุลาคมเป็นเดือนที่มีความผันผวน และข้อมูลเศรษฐกิจที่ไม่คาดคิดอาจทำให้เกิดภาวะช็อกในตลาดได้
ทางด้านยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีพบการลดลงในเดือนสิงหาคมเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนด้าน AI และความเสี่ยงต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย ส่งผลให้เป็นภาคส่วนธุรกิจที่เสี่ยงต่อการปรับฐาน โดยมูลค่าตลาดของ Alphabet ลดลง 4.7% ท่ามกลางยอดขายโฆษณาบน YouTube ที่ชะลอตัว คำตัดสินต่อต้านการผูกขาด และการแข่งขันจาก OpenAI ขณะที่มูลค่าตลาดของ Amazon ลดลง 4.5% เนื่องจากยอดขายออนไลน์ที่ชะลอตัว และมูลค่าตลาดของ Tesla ลดลง 7.7% หลังจากรายได้ไตรมาส 2 ที่ลดลงและความกังวลเกี่ยวกับภาษีศุลกากรของแคนาดาสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในจีน นอกจากนี้ ยังพบว่ามูลค่าตลาดของ Nvidia ลดลง 7.7% เหลือ 2.92 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม หลังจากมีการคาดการณ์ว่าอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 3 จะต่ำกว่าที่คาดไว้
ในทางกลับกัน มูลค่าตลาดของ Eli Lilly พุ่งสูงขึ้นเกือบ 20% ซึ่งขับเคลื่อนโดยยอดขายที่แข็งแกร่งและการเปิดตัวยาลดน้ำหนักที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคเบาหวานประเภท 2 ท่ามกลางมูลค่าตลาดของ Berkshire Hathaway ที่ทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่แข็งแกร่งของนักลงทุน ในขณะที่มูลค่าตลาดของ Meta เพิ่มขึ้นเกือบ 10% จากรายได้ไตรมาส 2 ที่ดีกว่าที่คาดไว้และการคาดการณ์ในแง่ดีสำหรับไตรมาสหน้า ซึ่งได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายโฆษณาดิจิทัลที่แข็งแกร่ง
ทั้งนี้ นักลงทุนกำลังจับตาดูข้อมูลตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิด ซึ่งจะมีความสำคัญต่อทิศทางของตลาด หลังจากที่รายงานภาคแรงงานในเดือนก่อนหน้านี้ ซึ่งต่ำกว่าที่คาด ได้ส่งผลให้เกิดการเทขายสินทรัพย์เสี่ยง จากข้อมูลดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของ ISM ที่สร้างความผิดหวัง และแม้ว่าสำนักงานสถิติแรงงานจะระบุว่าพายุเฮอริเคนเบริลไม่ได้ส่งผลกระทบต่อข้อมูลการจ้างงาน แต่การสำรวจครัวเรือนแสดงให้เห็นว่าประชาชนกว่า 436,000 คนไม่สามารถทำงานได้เนื่องจากสภาพอากาศที่เลวร้าย ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในเดือนกรกฎาคม นอกจากนี้ ยังพบประชาชนกว่า 249,000 รายที่ถูกเลิกจ้างชั่วคราว ซึ่งส่งผลให้อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น นักลงทุนจึงต่างกระตือรือร้นที่จะจับตาดูว่าปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลกระทบเพียงชั่วคราวจริงหรือไม่
ทางด้านนักเศรษฐศาสตร์ของ Morgan Stanley คาดการณ์ว่าตลาดในปัจจุบันกำลังเผชิญความเปราะบางที่จะเข้าสู่ภาวะตกต่ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจยังคงมีอยู่ ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากผลงานที่ต่ำกว่าคาดของหุ้นวัฏจักรเมื่อเทียบกับหุ้นปลอดภัย (Defensive) โดย Morgan Stanley เน้นย้ำว่า แม้ว่าตลาดพันธบัตรจะส่งสัญญาณของราคาที่อาจเกิดจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดไว้แล้ว แต่ภาคส่วนธุรกิจวัฏจักร เช่น ภาคส่วนที่อยู่อาศัย การซื้อรถยนต์ และการใช้จ่ายบัตรเครดิต ยังคงไม่พบการตอบสนองใดๆ ซึ่งบ่งชี้ว่านักลงทุนยังคงใช้ความระมัดระวัง
ทั้งนี้ พลวัตของตลาดในปัจจุบัน ยังคงมีศูนย์กลางอยู่ที่ความกังวลเกี่ยวกับการเติบโต ซึ่งต่างจากในอดีตที่เกิดจากความกลัวเกี่ยวกับเงินเฟ้อ และเมื่อพิจารณาจากภาวะดังกล่าว Morgan Stanley จึงแนะนำให้เน้นหุ้นปลอดภัยที่มีคุณภาพสูง และระมัดระวังในการลงทุนในหุ้นขนาดเล็กหรือหุ้นวัฏจักรที่มักจะทำผลงานต่ำกว่าคาดในช่วงท้ายวัฏจักรที่ราคาอ่อนตัว
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD US30 DJIA
แนวต้านสำคัญ : 41518.9, 41525.7, 41536.8
แนวรับสำคัญ : 41496.7, 41489.9, 41478.8
1H Outlook
ที่มา: TradingView
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 41481.7 - 41496.7 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 41496.7 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 41526.1 และ SL ที่ประมาณ 41474.2 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 41518.9 - 41533.9 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 41576.8 และ SL ที่ประมาณ 41489.2 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 41518.9 - 41533.9 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 41518.9 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 41497.1 และ SL ที่ประมาณ 41541.4 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 41481.7 - 41496.7 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 41440.0 และ SL ที่ประมาณ 41526.4 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Sep 3, 2024 09:48AM GMT+7
Name
|
S3
|
S2
|
S1
|
Pivot Points
|
R1
|
R2
|
R3
|
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 41468.1 | 41478.8 | 41497.1 | 41507.8 | 41526.1 | 41536.8 | 41555.1 |
Fibonacci | 41478.8 | 41489.9 | 41496.7 | 41507.8 | 41518.9 | 41525.7 | 41536.8 |
Camarilla | 41507.5 | 41510.2 | 41512.8 | 41507.8 | 41518.2 | 41520.8 | 41523.5 |
Woodie's | 41472.1 | 41480.8 | 41501.1 | 41509.8 | 41530.1 | 41538.8 | 41559.1 |
DeMark's | - | - | 41502.5 | 41510.5 | 41531.5 | - | - |
ที่มา: Investing 1, Investing 2
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิ