ตลาดข้าวสาลีปรับตัวเพิ่มขึ้น คาดจากข้อจำกัดในการส่งออกของยูเครนและผลผลิตของรัสเซียที่ลดลง

ตลาดข้าวสาลีได้รับแรงหนุนจากการซื้อกองทุนและทางเทคนิค โดยราคาข้าวสาลีแสดงสัญญาณสถานะขายที่มากเกินไปเล็กน้อย ขณะที่มีการคาดการณ์ว่ายูเครนอาจกำหนดข้อจำกัดในการส่งออกข้าวสาลีสำหรับฤดูกาล 2024/25 โดยข้อจำกัดดังกล่าว ร่วมกับการคาดการณ์ว่าผลผลิตข้าวสาลีในรัสเซียและยุโรปจะมีจำนวนน้อยลง อาจเพิ่มความต้องการข้าวสาลีของสหรัฐฯ ซึ่งปัจจุบันมีอัตราการส่งออกที่เร็วมากขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน

ทางด้าน SovEcon ได้ปรับลดคาดการณ์การผลิตข้าวสาลีของรัสเซียลงเหลือ 82.5 ล้านตัน เนื่องจากผลผลิตในบางภูมิภาคต่ำกว่าที่คาดไว้ นอกจากนี้ ยังมีข้อกังวลใหม่เกี่ยวกับการผลิตข้าวสาลีของอาร์เจนตินา แม้ว่าการอัปเดตล่าสุดจาก Buenos Aires Grain Exchange จะระบุว่า 44% ของพืชผลอยู่ในสภาพดีถึงดีเยี่ยม เพิ่มขึ้นจาก 39% ในสัปดาห์ก่อน ท่ามกลางบางพื้นที่ที่ยังคงมีสภาพอากาศแห้งแล้ง

ในสหรัฐฯ การเก็บเกี่ยวข้าวสาลีดำเนินไปตามปกติ ขณะที่ USDA รายงานว่าพืชผลข้าวสาลีฤดูใบไม้ผลิเก็บเกี่ยวไปแล้ว 70% และมีการเพาะปลูกข้าวสาลีฤดูหนาวไปแล้ว 2% สอดคล้องกับความคืบหน้าปกติของช่วงเวลานี้ของปี ท่ามกลางการตรวจสอบการส่งออกข้าวสาลีของสหรัฐฯ ในปัจจุบันที่เป็นไปอย่างรวดเร็วกว่าการคาดการณ์ของ USDA โดยมีเม็กซิโกและฟิลิปปินส์เป็นจุดหมายปลายทางหลัก

ทางด้านการส่งออกข้าวสาลีของรัสเซียในเดือนกันยายนคาดว่าจะลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว จาก 5.5 ล้านตันในเดือนกันยายน 2023 เป็น 5.1-5.2 ล้านตัน โดยการคาดการณ์นี้สอดคล้องกับประมาณการในเดือนสิงหาคมที่ 5.2 ล้านตัน ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นเนื่องจากการขนส่งที่เพิ่มขึ้นจากท่าเรือน้ำลึกทางตอนใต้ แม้ว่าการขนส่งไปยังคาซัคสถานจะหยุดชะงักเนื่องจากการห้ามนำเข้า โดยราคาส่งออกข้าวสาลีของรัสเซียยังคงทรงตัวที่ 216 ดอลลาร์ต่อตัน แม้ว่าปัญหาด้านคุณภาพอันเนื่องมาจากสภาพการเก็บเกี่ยวที่ไม่ดีในไซบีเรียจะยังคงส่งผลกระทบต่อตลาด

ทางด้านกระทรวงเกษตรของยูเครนตกลงที่จะจำกัดการส่งออกข้าวสาลีสำหรับฤดูกาล 2024/25 ที่ 16.2 ล้านเมตริกตัน เนื่องจากการส่งออกข้าวสาลีได้แตะระดับ 3.59 ล้านตัน ณ วันที่ 30 สิงหาคม ซึ่งสูงกว่า 1.06 ล้านตัน ณ วันเดียวกันในปี 2023 โดยกระทรวงคาดการณ์ว่าผลผลิตข้าวสาลีในปีนี้จะลดลงเหลือ 21.8 ล้านตัน จากกว่า 22 ล้านตันในปี 2023  

สำหรับจอร์แดนได้ออกประกาศประกวดราคาเพื่อซื้อข้าวสาลีสีจำนวนสูงสุด 120,000 เมตริกตันจากแหล่งต่างๆ โดยกำหนดส่งข้อเสนอภายในวันที่ 12 กันยายน โดยข้าวสาลีดังกล่าวจะส่งมอบในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ 2025 ในขณะเดียวกัน ตุรกีได้ลดการนำเข้าข้าวสาลีลง โดยลดลงจาก 144 ล้านดอลลาร์ในเดือนกรกฎาคม 2023 เหลือเพียง 20 ล้านดอลลาร์ในปีนี้

ทั้งนี้ อียิปต์ยังคงเป็นผู้ซื้อข้าวสาลีจากรัสเซียรายใหญ่ โดยซื้อ 1.244 ล้านตันตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม 2024 ตามมาด้วยบังกลาเทศและตุรกี ขณะที่คาซัคสถานซึ่งกำลังเผชิญปัญหาเกี่ยวกับการขนส่งทางรถไฟ พบว่าการส่งออกข้าวสาลีไปยังยุโรปและจีนเพิ่มขึ้น โดยผลผลิตข้าวสาลีของประเทศคาดว่าจะอยู่ที่ 16 ล้านตัน และการส่งออกคาดว่าจะอยู่ที่ 10 ล้านตัน ท่ามกลางความพยายามในการขยายกำลังหรือความสามารถในการขนส่งและการปรับปรุงระบบโลจิสติกส์เพื่อรับมือกับความท้าทายด้านการขนส่ง

อีกด้าน กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงของญี่ปุ่นกำลังซื้อข้าวสาลี 87,660 เมตริกตันจากสหรัฐอเมริกาและแคนาดาในการประมูลที่จะปิดในวันพฤหัสบดี โดยญี่ปุ่นซึ่งเป็นผู้นำเข้าข้าวสาลีรายใหญ่ ได้เข้าควบคุมการซื้อผ่านการประมูลบ่อยครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่ามีอุปทานคงที่ในการนำไปสีข้าว

ทางด้านปัญหาพืชผลในสหภาพยุโรป โดยเฉพาะผลผลิตข้าวสาลีของฝรั่งเศสที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ทศวรรษ 1980 ทำให้ราคาข้าวสาลีเพิ่มขึ้น 4.5% ในสัปดาห์ที่แล้ว ท่ามกลางแนวโน้มการผลิตทั่วโลกที่ยังคงแข็งแกร่ง โดยกระทรวงเกษตรของออสเตรเลียคาดว่าผลผลิตข้าวสาลีจะเพิ่มขึ้นในแคนาดา อาร์เจนตินา ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกา ซึ่งน่าจะช่วยชดเชยผลผลิตที่ลดลงที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในรัสเซีย สหภาพยุโรป และยูเครน ขณะที่กระทรวงยังได้ปรับเพิ่มการคาดการณ์ผลผลิตข้าวสาลีสำหรับออสเตรเลียขึ้น 2.7 ล้านเมตริกตัน

ทางด้านพื้นที่ปลูกข้าวโพดของอาร์เจนตินาสำหรับฤดูกาล 2024/25 คาดว่าจะลดลง 17.1% เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับศัตรูพืชและภัยแล้ง แม้ว่าฝนที่ตกล่าสุดอาจส่งผลดีต่อการเพาะปลูก

ในสหราชอาณาจักร ราคาข้าวสาลีในตลาดอยู่ที่ประมาณ 180 ปอนด์ต่อตัน โดยราคาสัญญาล่วงหน้าเดือนพฤศจิกายนอยู่ในระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม ขณะที่สต็อกข้าวสาลีในสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยพ่อค้า ท่าเรือ และสหกรณ์ถือครองข้าวสาลีเพิ่มขึ้น 44% เมื่อเทียบกับปีก่อนรวม 771,000 ตัน และสต็อกในฟาร์มในอังกฤษและเวลส์เพิ่มขึ้น 35% เมื่อเทียบกับปีก่อน

อย่างไรก็ดี สัญญาข้าวสาลีล่วงหน้าชิคาโกลดลงในวันอังคาร ยุติการเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 4 วัน ซึ่งขับเคลื่อนโดยผลผลิตในยุโรปที่ย่ำแย่ โดยการลดลงดังกล่าวเกิดจากความกังวลใหม่เกี่ยวกับอุปทานข้าวสาลีทั่วโลกส่วนเกิน และการแข่งขันจากธัญพืชทะเลดำราคาถูก ทำให้ราคาอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดตั้งแต่ปี 2020

USDA รายงานการตรวจสอบการส่งออกข้าวสาลีที่แข็งแกร่งสำหรับสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 29 สิงหาคม โดยพบการส่งออก 577,944 เมตริกตัน ซึ่งเกินความคาดหมาย ส่งผลให้ปริมาณการขนส่งในปีการตลาดทั้งหมดเพิ่มขึ้น 31.92% จากปีก่อน โดยรายงาน Commitment of Traders เผยให้เห็นการเพิ่มขึ้นของสถานะขายเก็งกำไรสำหรับข้าวสาลี CBT และการลดลงของตำแหน่งขายชอร์ตข้าวสาลี KC

ทั้งนี้ ราคาข้าวสาลีในปัจจุบันมีแนวโน้มอยู่ในกรอบขาขึ้นระหว่างวัน โดยมีเป้าหมายถัดไปที่ 564.60 ดอลลาร์ ขณะที่แนวโน้มในเชิงบวกยังคงอยู่ หากราคาสามรถอยู่เหนือเส้น EMA50 ซึ่งจะสนับสนุนการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยอาจพบการปรับตัวลดลงหากราคาลดลงต่ำกว่า 547.50 ดอลลาร์ ซึ่งอาจนำไปสู่แนวโน้มขาลงเพิ่มเติม โดยเริ่มจากการทดสอบที่บริเวณ 532.00 ดอลลาร์ สำหรับช่วงการซื้อขายที่คาดไว้ช่วงนี้จะอยู่ระหว่าง 540.00 ดอลลาร์ (แนวรับ) และ 560.00 ดอลลาร์ (แนวต้าน)

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (15Min) CFD US Wheat Futures - Dec 24 (ZWZ4)

แนวต้านสำคัญ : 566.13, 566.55, 567.21

แนวรับสำคัญ : 564.81, 564.39, 563.73                    

15Min Outlook

ที่มา: TradingView 

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 563.81 - 564.81 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 564.81 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 566.13 และ SL ที่ประมาณ 563.31 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 566.13 - 567.13 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 569.00 และ SL ที่ประมาณ 564.31 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 566.13 - 567.13 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 566.13 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 564.32 และ SL ที่ประมาณ 567.63 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 563.81 - 564.81 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 562.30 และ SL ที่ประมาณ 566.63 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Sep 4, 2024 15:47PM GMT+7