รัสเซียอาจเกิดเศรษฐกิจถดถอยในปลายปีนี้

รูเบิลรัสเซียอ่อนค่าลงมาเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนยังมีความกังวลด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่มีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยดูได้จากการที่ยูเครนโจมตีภูมิภาคเคิร์สก์เมื่อต้นเดือน ส่งผลให้นักลงทุนยิ่งเพิ่มความไม่มั่นใจต่อความรุนแรงของความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นได้อีกในอนาคต ทั้งนี้ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากการประชุมครั้งล่าสุดก็มีโอกาสมากพอที่จะทำให้ค่าเงินรูเบิลกลับมาแข็งค่าขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ความคิดเห็นของธนาคารกลางรัสเซียยังคงระบุว่าอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป หากเงินเฟ้อยังคงทรงตัว

เศรษฐกิจรัสเซียเติบโตขึ้น 4% ต่อปีในไตรมาสที่ 2 ถือว่าเป็นการเติบโตต่อเนื่องหลังจากที่มีการขยายตัว 5.4% ในไตรมาสที่ 1 แสดงให้เห็นถึงการขยายตัวอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจในรัสเซีย ถึงแม้ว่าการขยายตัวนี้จะได้รับแรงสนับสนุนจากภาครัฐบาลที่ต้องการผลิตอุปกรณ์เพื่อใช้ในสงครามก็ตาม อย่างไรก็ตาม มีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะยังคงชะลอตัวตลอดทั้งปี โดยธนาคารกลางได้ส่งสัญญาณเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงของภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่อาจเกิดขึ้นในปลายปีนี้ 

อัตราเงินเฟ้อในรัสเซียพุ่งขึ้นเป็น 9.1% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนกรกฎาคม จาก 8.6% ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2023 โดยผลกระทบส่วนใหญ่ยังคงเกิดจากการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกที่ทำให้การนำเข้าสินค้าต่างๆ จำเป็นต้องใช้ต้นทุนที่เพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ราคาสินค้าส่งออกของรัสเซียกับลดลง นอกจากนี้ธนาคารกลางรัสเซียยังออกมาให้ความคิดเห็นว่าอุปสงค์ภายในประเทศที่เพิ่มมากขึ้นจากความต้องการด้านแรงงาน ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อกลับมาเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้ธนาคารกลางจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง

อัตราการว่างงานของรัสเซียอยู่ที่ 2.4% ในเดือนกรกฎาคม โดยอัตราการว่างงานของรัสเซียยังคงอยู่ที่จุดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการด้านแรงงานที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีความจำเป็นต้องระดมกำลังทหารมากขึ้นเพื่อใช้ในการต่อสู้กับยูเครน นอกจากนี้ ยังเกิดการอพยพของคนวัยทำงานเพื่อหลีกเลี่ยงความสูญเสียที่เกิดขึ้น 

ดัชนี PMI ภาคการผลิตของรัสเซียลดลงเหลือ 52.1 ในเดือนสิงหาคม ถือเป็นการขยายตัวของภาคการผลิตเดือนที่ 27 ติดต่อกัน แต่ก็เป็นอัตราการขยายตัวที่ชะลอตัวลง เนื่องจากผลผลิตที่สามารถทำได้ชะลอตัวลงอย่างรวดเร็ว ในขณะที่คำสั่งซื้อใหม่ขยายตัวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ยอดขายต่างประเทศเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เช่นเดียวกันกับการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ บริษัทต่างๆ มีต้นทุนการผลิตที่เพิ่มมากขึ้นเนื่องจากค่าเงินที่อ่อนค่าลงและอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มมากขึ้นของวัตถุดิบ ทำให้กำไรที่สามารถทำได้ชะลอตัวลงไปด้วย

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)

แนวต้านสำคัญ: 89.4473, 90.0454, 90.8359

แนวรับสำคัญ: 88.0587, 87.2682, 86.6701

ที่มา: Investing.com

Buy/Long 1: หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 87.2682 - 88.0587 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 88.0587 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 90.0454 และ SL ที่ประมาณ 86.6701 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

จุดกลับตัว 4 กันยายน  2567 20:53 น. GMT+7