บทวิเคราะห์ AUD/USD วันที่ 5 กันยายน 2567

Create at 1 month ago (Sep 05, 2024 11:23)

เศรษฐกิจออสเตรเลียชะลอตัวจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคหยุดชะงัก

เศรษฐกิจของออสเตรเลียยังคงซบเซาในไตรมาสที่ 2 เนื่องจากต้นทุนการกู้ยืมและภาวะเงินเฟ้อที่สูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจำกัดการใช้จ่ายของผู้บริโภคและส่งผลให้การใช้จ่ายของรัฐบาลเป็นปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตหลัก โดยข้อมูลจากสำนักงานสถิติออสเตรเลียแสดงให้เห็นว่าแรงกดดันด้านราคาในประเทศยังคงสูง และธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ไม่น่าจะลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ แม้ว่าตลาดจะคาดการณ์ว่าอาจมีการผ่อนคลายนโยบายการเงินในเดือนธันวาคม

ทางด้าน GDP ที่แท้จริงเติบโต 0.2% ในไตรมาสที่ 2 ติดต่อกัน 3 ไตรมาส และต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 0.3% ขณะที่การเติบโตต่อปีชะลอตัวลงเหลือ 1.0% จาก 1.3% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในทศวรรษ 1990 ท่ามกลางการใช้จ่ายครัวเรือนซึ่งคิดเป็นครึ่งหนึ่งของ GDP ลดลง 0.2% เนื่องจากประชาชนลดการเดินทางไปต่างประเทศ ทำให้อัตราการออมอยู่ที่ 0.6%

จิม ชาลเมอร์ส รัฐมนตรีคลังกล่าวว่าตัวเลข GDP อยู่ในระดับ "อ่อนตัวและซบเซา" ซึ่งสอดคล้องกับที่คาดไว้ เนื่องจากการใช้จ่ายของรัฐบาล โดยเฉพาะด้านสุขภาพ ที่ช่วยพยุงเศรษฐกิจ โดยธนาคารกลางออสเตรเลียคาดการณ์ว่าการเติบโตจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.7% ในไตรมาสที่ 4 และคาดว่าจะมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในช่วงครึ่งหลังของปี อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายของผู้บริโภคยังไม่ฟื้นตัวตามที่คาดไว้ โดยประชาชนที่ได้รับเงินคืนภาษีส่วนใหญ่เลือกที่จะเก็บออมแทนที่จะนำออกมาใช้จ่าย

โดยตลาดเงินยังคงคาดการณ์ว่ามีโอกาส 90% ที่อัตราดอกเบี้ยจะถูกปรับลดในเดือนธันวาคม แม้ว่าผู้กำหนดนโยบายจะระบุเป็นอย่างอื่น ท่ามกลางมาตรวัดเงินเฟ้อในรายงาน GDP ที่ยังคงสูง โดยเงินเฟ้ออุปสงค์ในประเทศอยู่ที่ 4.2% ต่อปี ในขณะที่เงินเฟ้อที่เกี่ยวข้องกับการค้าลดลง 3% เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ลดลง

ทั้งนี้ เงินเฟ้อดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของออสเตรเลียเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดไว้ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งขับเคลื่อนโดยต้นทุนอาหารสดที่สูงขึ้น แม้ว่าต้นทุนที่อยู่อาศัยและพลังงานที่อ่อนตัวลงจะทำให้เงินเฟ้อพื้นฐานลดลงเล็กน้อย โดยเงินเฟ้อ CPI เพิ่มขึ้น 3.5% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนกรกฎาคม ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 3.4% แต่ลดลงจาก 3.8% ในเดือนมิถุนายน ขณะที่เงินเฟ้อ CPI พื้นฐาน ไม่รวมสินค้าผันผวน ลดลงเหลือ 3.7% จาก 4% โดยอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นอย่างไม่คาดคิดทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมของ RBA ซึ่งอาจทำให้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยล่าช้าไปจนถึงปลายปี 2025

ทางด้านผลผลิตในภาคอุตสหกรรมลดลง 0.8% ในไตรมาสนี้ ซึ่งถือเป็นความท้าทายต่อการคาดการณ์ของ RBA ที่คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลงไปอยู่ที่กรอบเป้าหมาย 2-3% ภายในปี 2026 โดยอิงจากผลกำไรจากผลผลิตที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น ขณะที่โฆษณาหรือประกาศหางานลดลงเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกันในเดือนสิงหาคม ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการแรงงานที่ลดลงท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยที่สูงและเศรษฐกิจที่ชะลอตัว

สำหรับยอดขายปลีกยังคงทรงตัวในเดือนกรกฎาคม ซึ่งบ่งชี้ว่าการลดหย่อนภาษียังไม่สามารถกระตุ้นการใช้จ่ายได้อย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากผู้บริโภคยังคงต่อสู้กับเงินเฟ้อและอัตราจำนองที่สูง โดยข้อมูลจากบัตรเครดิต Westpac ในเดือนสิงหาคมชี้ให้เห็นเพียงการเพิ่มขึ้นของการใช้จ่ายอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งเน้นย้ำถึงผลกระทบที่จำกัดของการสนับสนุนทางการคลัง ในขณะเดียวกัน ราคาบ้านเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 19 ติดต่อกันในเดือนสิงหาคม แม้ว่าอัตราการเติบโตจะชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับปีก่อน

อีกด้าน ดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ในวันพุธ หลังจากที่มีข้อมูลว่าจำนวนตำแหน่งงานว่างในสหรัฐฯ ในเดือนก.ค. ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปีครึ่ง ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานกำลังอ่อนตัวลง ส่งผลให้มีแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงมากขึ้น โดยนักลงทุนคาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.5 เปอร์เซ็นต์ในการประชุมครั้งหน้า ขณะที่ตลาดกำลังมุ่งความสนใจไปที่รายงานการจ้างงานในวันศุกร์ ซึ่งอาจให้ข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

โดยนักวิเคราะห์ด้านอัตราแลกเปลี่ยนต่างประเทศเชื่อว่าค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเร็วๆ นี้จะสามารถทรงตัวได้ในอีกสามเดือนข้างหน้า แม้ว่านักลงทุนจะเพิ่มความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยหลังจากผลงานที่แข็งแกร่งในช่วงต้นปี ดอลลาร์ได้อ่อนค่าลงเนื่องจากสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยเริ่มกำหนดทิศทางของการผ่อนคลายอัตราดอกเบี้ยของเฟดยิ่งขึ้น เนื่องจากมีสัญญาณของภาวะตลาดแรงงานที่ชะลอตัวลง ขณะที่ผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ให้ความสำคัญกับข้อมูลตลาดแรงงานมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลอย่างมากต่อขนาดของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่กำลังจะเกิดขึ้น จึงคาดว่าจะยังคงส่งผลให้คู่สกุล AUD/USD มีแนวโน้มซื้อขายขึ้นลงในกรอบกว้างๆ อย่างต่อเนื่องได้ในช่วงนี้ โดยการแข็งค่าของ AUD คาดว่าจะยังคงถูกจำกัดในระยะกลางจากผลตอบแทนของทั้งสองประเทศเศรษฐกิจที่ต่างกันค่อนข้างมาก

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1D) CFD AUD/USD

แนวต้านสำคัญ : 0.6745, 0.676 0, 0.6785

แนวรับสำคัญ : 0.66950.6680, 0.6655

1D Outlook

วิเคราะห์ AUD/USD ที่มา: TradingView

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 0.6660.6695 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 0.6695 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 0.6754 และ SL ที่ประมาณ 0.6650 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 0.6745 - 0.6775 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 0.6820 และ SL ที่ประมาณ 0.6680 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 0.6745 - 0.6775 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 0.6745 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 0.6689 และ SL ที่ประมาณ 0.6790 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 0.6660.6695 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 0.662และ SL ที่ประมาณ 0.6760 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Sep 5, 2024 11:11AM GMT+7

Name
S3
S2
S1
Pivot Points
R1
R2
R3
Classic 0.6624 0.6655 0.6689 0.672 0.6754 0.6785 0.6819
Fibonacci 0.6655 0.668 0.6695 0.672 0.6745 0.676 0.6785
Camarilla 0.6706 0.6712 0.6718 0.672 0.673 0.6736 0.6742
Woodie's 0.6626 0.6656 0.6691 0.6721 0.6756 0.6786 0.6821
DeMark's - - 0.6705 0.6728 0.677 - -

ที่มา: Investing 1Investing 2

______________________________
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิกที่นี่
รู้เท่าทันสถานการณ์โลกและบทวิเคราะห์เทคนิคขั้นสูงคลิกที่นี่
Tags:

TECHNICAL ANALYSIS

ARTICLES