บทวิเคราะห์ GBP/USD วันที่ 6 กันยายน 2567

Create at 1 month ago (Sep 06, 2024 11:07)

BoE เพิ่มการจัดสรร Repo สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ท่ามกลางความต้องการการลงทุนทางเศรษฐกิจ

ธนาคารแห่งอังกฤษได้เพิ่มการจัดสรรรีโประยะสั้นเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 40,290 ล้านปอนด์ จาก 36,584 ล้านปอนด์ในสัปดาห์ก่อน ซึ่งรีโปช่วยให้ธนาคารสามารถแลกเปลี่ยนพันธบัตรรัฐบาลกับเงินสดของธนาคารกลาง โดยคงอัตราดอกเบี้ยตลาดให้ใกล้เคียงกับอัตราดอกเบี้ยตามนโยบายของธนาคารกลางอังกฤษ

รายงานระบุว่าสหราชอาณาจักรต้องการการลงทุนเพิ่มเติม 1 ล้านล้านปอนด์ในช่วงทศวรรษหน้าเพื่อบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยรัฐบาลชุดใหม่มีเป้าหมายอัตราการเติบโตต่อปีที่ 2.5% และต้องการการเงินลงทุนเพิ่มเติม 100,000 ล้านปอนด์ต่อปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านพลังงาน ที่อยู่อาศัย และการลงทุน ขณะที่ภาคส่วนเงินบำนาญของสหราชอาณาจักรอาจมีส่วนสนับสนุนอย่างมีนัยสำคัญจากการจัดสรรเงินทุนระยะยาวใหม่ และมาตรการจูงใจจากรัฐบาลเพื่อกระตุ้นการลงทุนในประเทศ ท่ามกลางการเรียกร้องให้ทบทวนระบบเงินบำนาญเพื่อกระตุ้นให้มีการลงทุนเพิ่มเติมในบริษัทสตาร์ทอัพของสหราชอาณาจักร

ตามผลสำรวจของคณะกรรมการของ BoE ธุรกิจในอังกฤษวางแผนที่จะปรับขึ้นราคาในอัตราที่น้อยที่สุดในรอบเกือบ 3 ปี ท่ามกลางการเติบโตของค่าจ้างที่ยังคงทรงตัว โดยคาดว่าราคาขายจะเพิ่มขึ้นที่ 3.6% ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่ปี 2021 ในขณะที่การคาดการณ์การเติบโตของค่าจ้างอยู่ที่ 4.1% ซึ่งบ่งชี้ว่ายังไม่มีการผ่อนคลายแรงกดดันด้านค่าจ้าง

ทั้งนี้ สมาชิก MPC ยังคงกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของค่าจ้างที่สูง ซึ่งกลัวว่าอาจทำให้อัตราเงินเฟ้อยืดเยื้อ โดยความเชื่อมั่นที่ไม่แน่นอนของบริษัทลดลงหลังจากที่นายกรัฐมนตรี เคียร์ สตาร์เมอร์ ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง ขณะที่นักลงทุนมองว่ามีโอกาส 25% ที่ BoE จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน และคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนพฤศจิกายนอย่างแน่นอน

ทางด้านผู้ค้าปลีกในอังกฤษรายงานว่ายอดขายในเดือนสิงหาคมลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่สาม และคาดว่าจะลดลงอีกครั้งในเดือนกันยายน โดยผู้ค้าปลีกระมัดระวังในการลงทุนและแผนการจ้างงานเนื่องจากอุปสงค์ที่อ่อนแอและสภาพอากาศที่เลวร้ายในช่วงนี้ ท่ามกลางความตั้งใจในการลดการลงทุนและแผนการจ้างงานอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ข้อมูลอีกด้านแสดงให้เห็นว่าราคาขายตามร้านค้าในเดือนสิงหาคมลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2021

อีกด้าน จากการสำรวจของรอยเตอร์คาดการณ์ว่าราคาบ้านในอังกฤษจะเติบโตอย่างมั่นคงในอีกสองปีข้างหน้า แซงหน้าอัตราเงินเฟ้อ ท่ามกลางความสามารถในการซื้อของผู้ซื้อบ้านครั้งแรกที่อาจปรับตัวดีขึ้นเนื่องจากต้นทุนการกู้ยืมที่ลดลง ขณะที่การขาดแคลนอสังหาริมทรัพย์อาจช่วยสนับสนุนราคา และรัฐบาลได้มีแผนที่จะเร่งการก่อสร้างบ้านโดยลดความล่าช้าในการวางแผนงาน โดยคาดว่าราคาบ้านจะเพิ่มขึ้น 2.5% ในปี 2024, 3.0% ในปี 2025 และ 4.0% ในปี 2026 และค่าเช่าคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเร็วกว่าอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งจะส่งผลให้การออมเงินเพื่อการจำนองเป็นไปได้ยากขึ้น

ทางด้านการเติบโตในภาคการก่อสร้างของสหราชอาณาจักรชะลอตัวในเดือนสิงหาคมแม้จะมีการสร้างบ้านเพิ่มขึ้น โดยดัชนี S&P Global UK Construction PMI ลดลงเหลือ 53.6 ซึ่งต่ำกว่าที่คาดไว้ เนื่องมาจากการชะลอตัวอย่างรวดเร็วของงานวิศวกรรมโยธา โดยอุตสาหกรรมการก่อสร้างยังคงแข็งแกร่งกว่าช่วงต้นปี 2024 ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ BoE เมื่อไม่นานนี้และแผนของรัฐบาลสำหรับโครงการสร้างบ้านใหม่ ท่ามกลางต้นทุนปัจจัยการผลิตที่เพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้าลง สะท้อนถึงแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ลดลงในภาคการผลิต บริการ และก่อสร้าง

ทางด้านเช้าวันศุกร์ ดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบหนึ่งสัปดาห์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก เนื่องจากสัญญาณตลาดงานที่หลากหลายก่อนรายงานการจ้างงานรายเดือนอาจส่งผลต่อนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย แม้ว่าค่าเงินดอลลาร์จะทรงตัวหลังจากที่ร่วงลงอย่างรวดเร็วในเดือนสิงหาคม แต่ Bank of America Securities ยังคงคาดการณ์ถึงแนวโน้มที่อาจอ่อนค่าลง โดยอ้างถึงแนวโน้มในอดีตที่ค่าเงินดอลลาร์ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องหลังจากร่วงทะลุแนวรับในลักษณะเดียวกัน โดยธนาคารตั้งข้อสังเกตว่าดัชนีดอลลาร์อาจลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับ EUR, GBP และ AUD ซึ่งแม้ว่าดัชนี DXY จะแตะระดับต่ำสุดในรอบปีในเดือนสิงหาคม แต่ดัชนีอื่นๆ ยังคงบ่งชี้ว่าค่าเงินดอลลาร์มีมูลค่าสูงเกินไป นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีมักจะลดลงหลังจากที่เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรก ซึ่งอาจทำให้สภาวะการเงินโลกผ่อนคลายลงมากขึ้น

อย่างไรก็ดี แม้ว่านักวิเคราะห์บางราย อย่างเช่น นักวิเคราะห์จาก JPMorgan จะยอมรับถึงการกระจายความเสี่ยงที่มากขึ้นออกจากค่าเงินดอลลาร์ แต่โต้แย้งว่าการมีอิทธิพลเหนือตลาดของค่าเงินดอลลาร์ยังคงได้รับการสนับสนุนจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง เช่น ตลาดทุนที่เข้มแข็ง และสภาพคล่อง โดยแม้ว่าปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์และการเปลี่ยนแปลงในการค้าและการเงินโลกจะผลักดันให้เกิดการกระจายความเสี่ยง แต่ความเชื่อมั่นพื้นฐานที่มีต่อดอลลาร์ยังคงความแข็งแกร่ง

สำหรับข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ ล่าสุดแสดงผลลัพธ์ที่หลากหลาย โดยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานลดลง บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงมีเสถียรภาพ แม้ว่าการจ้างงานภาคเอกชนจะเพิ่มขึ้นเพียง 99,000 รายในเดือนสิงหาคม ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2021 อย่างไรก็ตาม คาดว่าการจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น 160,000 รายในเดือนสิงหาคม หลังจากเพิ่มขึ้น 114,000 รายในเดือนกรกฎาคม โดยคาดว่าอัตราการว่างงานจะลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 4.2%

ทางด้านภาคบริการของสหรัฐฯ ยังคงมีเสถียรภาพในเดือนสิงหาคม ขณะที่ดัชนี PMI ภาคการผลิตของ ISM สูงกว่า 50 เล็กน้อย ซึ่งบ่งชี้ถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะอยู่ในอัตราที่ช้าลง โดยรายงานดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงคำสั่งซื้อใหม่ที่คงที่ และการจ้างงานในภาคบริการที่ชะลอตัว ซึ่งสะท้อนถึงตลาดแรงงานที่ผ่อนคลายแต่ไม่ได้ย่ำแย่ลง ขณะที่การเติบโตของการจ้างงานโดยรวมคาดว่าอาจปรับตัวดีขึ้นในเดือนสิงหาคม จึงอาจส่งผลให้คู่สกุล GBP/USD คาดว่าจะมีแนวโน้มซื้อขายขึ้นลงในกรอบปัจจุบันหรือกรอบบนได้อย่างต่อเนื่องในช่วงนี้

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD GBP/USD

แนวต้านสำคัญ : 1.3179, 1.3180, 1.3183      

แนวรับสำคัญ : 1.3175, 1.3174, 1.3171                              

1H Outlook      

วิเคราะห์ GBP/USD ที่มา: TradingView                                           

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.3170 - 1.3175 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.3175 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3180 และ SL ที่ประมาณ 1.3168 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3179 - 1.3184 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3189 และ SL ที่ประมาณ 1.3173 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3179 - 1.3184 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้าน 1.3179 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3174 และ SL ที่ประมาณ 1.3186 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.3170 - 1.3175 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3165 และ SL ที่ประมาณ 1.3181 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Sep 6, 2024 10:32AM GMT+7

Name
S3
S2
S1
Pivot Points
R1
R2
R3
Classic 1.3169 1.3171 1.3174 1.3177 1.318 1.3183 1.3186
Fibonacci 1.3171 1.3174 1.3175 1.3177 1.3179 1.318 1.3183
Camarilla 1.3176 1.3176 1.3177 1.3177 1.3178 1.3179 1.3179
Woodie's 1.3169 1.3171 1.3174 1.3177 1.318 1.3183 1.3186
DeMark's - - 1.3175 1.3177 1.3181 - -

ที่มา: Investing 1Investing 2

______________________________
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิกที่นี่
รู้เท่าทันสถานการณ์โลกและบทวิเคราะห์เทคนิคขั้นสูงคลิกที่นี่
Tags:

TECHNICAL ANALYSIS

ARTICLES