บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันที่ 9 กันยายน 2567

Create at 1 month ago (Sep 09, 2024 10:02)

ตลาดผันผวนมากขึ้นท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงนโยบายของเฟด และการเลือกตั้งสหรัฐฯ

ความไม่แน่นอนของแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ สร้างความผันผวนในตลาด ท่ามกลางนักลงทุนที่ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่กำลังจะมาถึง และความกังวลเกี่ยวกับการประเมินมูลค่าที่สูง โดยหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลงอย่างรวดเร็วหลังจากข้อมูลการจ้างงานบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานอ่อนแอลง และอาจส่งผลให้เฟดไม่สามารถ "ลงจอดอย่างนุ่มนวล" ซึ่งหมายถึงการลดอัตราเงินเฟ้อโดยไม่ส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยเฟดคาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นถึงต้นทุนการกู้ยืมที่สูงที่กำลังสร้างความตึงเครียดให้กับเศรษฐกิจอยู่ในขณะนี้

ทั้งนี้ นักลงทุนกังวลว่าเฟดอาจดำเนินการไม่รวดเร็วเพียงพอในการป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจตกต่ำมากไปกว่านี้ โดยพบความผันผวนของตลาดเพิ่มขึ้น ขณะที่ดัชนี S&P 500 ลดลง 1.7% ในวันศุกร์ และถือเป็นการติดลบรายสัปดาห์ที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2023 โดยหุ้นเทคโนโลยี รวมถึง Nvidia ร่วงลงอย่างหนัก ขณะที่การประเมินมูลค่ายังคงอยู่ในระดับสูง โดยดัชนี S&P 500 ซื้อขายที่อัตราส่วนราคาต่อกำไรที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความยั่งยืน

นอกจากนี้ การแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ดุเดือดยังทำให้ตลาดมีความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้น โดยเดือนกันยายนถือเป็นเดือนที่ยากลำบากสำหรับตลาดหุ้นมาโดยตลอด และการเคลื่อนไหวของตลาดล่าสุดได้ตอกย้ำถึงแนวโน้มดังกล่าว ท่ามกลางนักวิเคราะห์บางคนที่มองเห็นสัญญาณของตลาดแรงงานที่เย็นตัวลง ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยข้อมูลเงินเฟ้อที่กำลังจะมาถึงคาดว่าจะส่งผลต่อการตัดสินใจของเฟดในอนาคต

อย่างไรก็ดี ท่ามกลางความท้าทายในระยะสั้น นักวิเคราะห์จาก Bank of America ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อ Nvidia โดยอ้างถึงแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่งใน AI และการประเมินมูลค่าที่เอื้อประโยชน์ โดยตำแหน่งของ Nvidia ใน AI โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวกับโมเดลภาษาขนาดใหญ่รุ่นต่อไป ยังคงความแข็งแกร่ง

ทางด้าน Wells Fargo ได้เพิ่ม Microsoft และ Adobe ลงในพอร์ตโฟลิโอ โดยเน้นที่การเติบโตที่ขับเคลื่อนโดย AI ของ Microsoft ในบริการคลาวด์และตำแหน่งที่แข็งแกร่งของ Adobe ใน AI เชิงสร้างสรรค์ ขณะที่ Goldman Sachs ปัดความกังวลเกี่ยวกับฟองสบู่ของ AI โดยเน้นย้ำว่าปัจจัยพื้นฐานของภาคเทคโนโลยียังคงแข็งแกร่งแม้จะมีการประเมินมูลค่าที่สูงและการกระจุกตัวของตลาด

ทางด้านนักวิเคราะห์ของ Mizuho ได้รวม Micron Technology และ Oracle ไว้ในรายชื่อการลงทุนอันดับต้นๆ โดยคาดการณ์ถึงการเติบโตที่ขับเคลื่อนโดยความต้องการ AI และข้อได้เปรียบในการแข่งขันในบริการคลาวด์ อย่างไรก็ตาม JPMorgan ได้ปรับลดอันดับ Super Micro Computer เนื่องจากความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบและแรงกดดันด้านการแข่งขัน โดยแนะนำให้นักลงทุนรอจนกว่าบริษัทจะแก้ไขปัญหาการปฏิบัติตามกฎระเบียบได้

ทั้งนี้ ในตลาดที่มีความผันผวนจากหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีและผลตอบแทนพันธบัตรที่ยากจะคาดเดา โครงสร้างพื้นฐานของสหรัฐฯ ยังคงความโดดเด่นด้วยความเสถียรและประสิทธิภาพที่แข็งแกร่ง โดยความน่าดึงดูดใจของภาคส่วนนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่แนวโน้มในระยะสั้นเท่านั้น แต่ยังขับเคลื่อนด้วยปัจจัยพื้นฐานที่มั่นคงและนโยบายรัฐบาลที่ให้การสนับสนุน เช่น กฎหมายโครงสร้างพื้นฐานของประธานาธิบดีไบเดนในปี 2021 ซึ่งรับรองเงินทุนจนถึงปี 2026 โดยการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานได้รับการสนับสนุนจากทั้งสองพรรค ทำให้เป็นตัวเลือกที่เชื่อถือได้ไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาเป็นอย่างไร

โดยตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคม 2024 ตลาดหุ้นเผชิญกับความผันผวน โดยเฉพาะหุ้นเทคโนโลยี ซึ่งลดลง 6.5% จากจุดสูงสุดในเดือนกรกฎาคม ในทางตรงกันข้าม หุ้นโครงสร้างพื้นฐานของสหรัฐฯ ทำสถิติสูงสุดใหม่ และเป็นที่หลบภัยสำหรับนักลงทุนที่ระมัดระวังจากความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยหุ้นเหล่านี้ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มบริการสื่อสารและสาธารณูปโภค มีความอ่อนไหวต่อภาวะเศรษฐกิจตกต่ำน้อยกว่า และได้รับประโยชน์จากกระแสเงินสดที่มั่นคง ขณะที่อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงในช่วงเศรษฐกิจถดถอยอาจช่วยหนุนผลตอบแทนได้

อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความเสี่ยงในภาคส่วน เช่น ราคาน้ำมันที่อาจพุ่งสูงขึ้นเนื่องจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อหุ้นโครงสร้างพื้นฐานโดยผลักดันให้ผลตอบแทนของสหรัฐฯ ให้เพิ่มขึ้น โดยแม้จะมีความเสี่ยงเหล่านี้ นักวิเคราะห์แนะนำว่าปฏิกิริยาของตลาดต่อเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์มักเกิดขึ้นเพียงช่วงสั้นๆ ส่งผลให้การร่วงลงของหุ้นโครงสร้างพื้นฐานอาจเป็นโอกาสในการเข้าซื้อได้

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD US 500 [S&P 500]

แนวต้านสำคัญ : 5423.5, 5425.3, 5428.4

แนวรับสำคัญ : 5417.3, 5415.5, 5412.4                                

1H Outlook

วิเคราะห์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่มา: TradingView                                            

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 5409.3 - 5417.3 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 5417.3 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 5424.9 และ SL ที่ประมาณ 5405.3 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 5423.5 - 5431.5 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 5440.0 และ SL ที่ประมาณ 5413.3 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 5423.5 - 5431.5 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 5423.5 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 5416.9 และ SL ที่ประมาณ 5435.5 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 5409.3 - 5417.3 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 5400.0 และ SL ที่ประมาณ 5427.5 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Sep 9, 2024 09:33AM GMT+7

Name
S3
S2
S1
Pivot Points
R1
R2
R3
Classic 5408.9 5412.4 5416.9 5420.4 5424.9 5428.4 5432.9
Fibonacci 5412.4 5415.5 5417.3 5420.4 5423.5 5425.3 5428.4
Camarilla 5419.2 5419.9 5420.7 5420.4 5422.1 5422.9 5423.6
Woodie's 5409.3 5412.6 5417.3 5420.6 5425.3 5428.6 5433.3
DeMark's - - 5418.7 5421.3 5426.7 - -

ที่มา: Investing 1Investing 2

______________________________
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิกที่นี่
รู้เท่าทันสถานการณ์โลกและบทวิเคราะห์เทคนิคขั้นสูงคลิกที่นี่
Tags:

TECHNICAL ANALYSIS

ARTICLES