BoE คงดอกเบี้ย 5% จับตา QT และสัญญาณเศรษฐกิจ

ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ (BoE) คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5% ในการประชุมครั้งหน้า แม้ว่าจะมีโอกาสที่อัตราดอกเบี้ยจะถูกปรับลดเพียงเล็กน้อย นักลงทุนกำลังจับตาการประชุมในเดือนกันยายนเพื่อรอสัญญาณเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยในอนาคตและกลยุทธ์การขายพันธบัตรของธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นประเด็นที่ส่งผลกระทบทางการเมือง ท่ามกลางสัญญาณเศรษฐกิจที่หลากหลาย ได้แก่ การเติบโตของค่าจ้างที่ชะลอตัวและกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ซบเซาในเดือนกรกฎาคม แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังสูงกว่าเป้าหมาย

ทั้งนี้ การตัดสินใจเกี่ยวกับจังหวะและเวลาในมาตรการกระชับนโยบายการเงินเชิงปริมาณ (QT) ของธนาคารแห่งประเทศอังกฤษยังคงเป็นที่รอคอยอย่างใจจดใจจ่อ โดยมาตรการ QT ซึ่งลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลของธนาคาร ถูกวิพากษ์วิจารณ์เนื่องจากมีผลกระทบต่อความสูญเสียจากการใช้เงินภาษี อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวอาจเร่งตัวขึ้น โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ถึงการเพิ่มขึ้นของพันธบัตรรัฐบาลที่ชำระคืนในแต่ละปีจาก 100,000 ล้านปอนด์เป็น 115,000-120,000 ล้านปอนด์

ทางด้านแผนงบประมาณของนายกรัฐมนตรีอังกฤษ นายคีร์ สตาร์เมอร์ มีเป้าหมายเพื่อสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตและความรับผิดชอบทางการคลัง โดยจะแก้ไขปัญหาการขาดดุลงบประมาณ 22,000 ล้านปอนด์ และเน้นย้ำว่านโยบายที่ขับเคลื่อนการเติบโตจะได้รับการให้ความสำคัญเป็นลำดับแรก รวมถึงเตือนเกี่ยวกับภาระผูกพันการใช้จ่ายที่ไม่ได้รับการจัดสรร ท่ามกลางภาวะตลาดแรงงาน ที่การเติบโตของค่าจ้างที่ชะลอตัวลงอาจสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมจาก BoE ในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน

อีกด้าน ธุรกิจต่างกังวลเกี่ยวกับกฎหมายแรงงานที่เข้มงวดมากขึ้นที่รัฐบาลพรรคแรงงานนำมาใช้ เนื่องจากกลัวว่าอาจเพิ่มความเสี่ยงในการจ้างงาน ขณะที่ผู้ผลิตก็ยังคงมองในแง่ดีเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจในอนาคต จากสภาพแวดล้อมทางการเมืองที่มีเสถียรภาพมากขึ้น

ทางด้านการเปลี่ยนแปลงไปสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนโดยภาคบริการเป็นแกนหลักยังคงดำเนินต่อไป ท่ามกลางภาคการผลิตที่ส่งผลให้ GDP ของสหราชอาณาจักรแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ตลาดที่อยู่อาศัยของสหราชอาณาจักรแสดงสัญญาณการฟื้นตัว ซึ่งขับเคลื่อนโดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยและเสถียรภาพทางการเมือง อย่างไรก็ตาม ความกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการซื้อยังคงเป็นความท้าทายแม้ต้นทุนการกู้ยืมจะถูกลง

สำหรับดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นในวันพุธ หลังจากข้อมูลยอดขายปลีกที่แข็งแกร่งกว่าที่คาด ทำให้นักลงทุนลดการเดิมพันเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่คาดว่าเฟดจะประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี โดยตลาดคาดว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยลงถึง 50 จุด

ทั้งนี้ ยอดขายปลีกของสหรัฐในเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 0.1% ตรงกันข้ามกับที่คาดไว้ว่าจะลดลง 0.2% ส่งผลให้เฟดแอตแลนตาปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของ GDP สำหรับไตรมาสที่ 3 จาก 2.5% เป็น 3%

ทางด้านตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจอื่นๆ เช่น สินค้าคงคลังของธุรกิจที่เพิ่มขึ้นและผลผลิตของโรงงานที่ฟื้นตัวยังสนับสนุนแนวคิดที่เฟดอาจใช้แนวทางที่ระมัดระวังมากขึ้นในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยการลงทุนในสินค้าคงคลัง ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของ GDP เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดไว้ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเติบโตในไตรมาสที่ 3 แม้ว่าธุรกิจจะกักตุนสินค้าไว้เพื่อรองรับภาษีที่สูงขึ้นก็ตาม จึงอาจส่งผลให้คู่สกุล GBP/USD คาดว่าจะมีแนวโน้มซื้อขายขึ้นลงในกรอบปัจจุบันไปจนถึงกรอบล่างได้มากขึ้นอีกเล็กน้อยในช่วงนี้

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD GBP/USD

แนวต้านสำคัญ : 1.3168, 1.3170, 1.3173      

แนวรับสำคัญ : 1.3162, 1.3160, 1.3157

1H Outlook  

ที่มา: TradingView 

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.3152 - 1.3162 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.3162 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3169 และ SL ที่ประมาณ 1.3147 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3168 - 1.3178 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3182 และ SL ที่ประมาณ 1.3157 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3168 - 1.3178 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้าน 1.3168 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3161 และ SL ที่ประมาณ 1.3183 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.3152 - 1.3162 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3148 และ SL ที่ประมาณ 1.3173 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Sep 18, 2024 10:04AM GMT+7