อุปสงค์ในประเทศจีนยังคงซบเซา

เงินหยวนแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากลดลงเล็กน้อยในช่วงก่อนหน้า โดยการแข็งค่าของเงินหยวนนี้ยังคงเกิดขึ้นแม้ว่าจะมีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางจีนจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในการประชุมที่จะถึงนี้ก็ตาม นอกจากนี้การที่ธนาคารกลางสหรัฐตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 50 bps ทำให้ส่งผลดีต่อการเคลื่อนไหวทางนโยบายของธนาคารกลางจีนและสามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อค่าเงินมากนัก 

ด้านนักลงทุนยังคงให้ความสนใจในการประชุมที่จะถึงนี้ ว่าจะดำเนินนโยบายทางการเงินอย่างไร หลังจากที่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่ไม่ได้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยแรงกดดันส่วนใหญ่ยังคงเกิดจากอัตราการว่างงานที่ยังคงอยู่ในระดับสูง รวมถึงการขยายตัวของภาคการผลิตและยอดการใช้จ่ายในภาคครัวเรือนที่ยังคงไม่ค่อยสู้ดีนัก 

อัตราการว่างงานในจีนอยู่ที่ 5.3% ในเดือนสิงหาคม โดยการเพิ่มขึ้นของอัตราการว่างงานนี้แสดงให้เห็นถึงปริมาณงานที่ไม่ได้เพิ่มขึ้นเร็วเท่ากับจำนวนของประชากร นอกจากนี้ การสำเร็จการศึกษาในภาคอุดมศึกษา ยิ่งช่วยส่งผลกระทบให้อัตราการว่างงานเพิ่มมากขึ้น ในด้านมุมมองของบริษัทต่างๆพบว่าการประกาศรับสมัครงานเพิ่มเติมจะยิ่งช่วยเพิ่มต้นทุนให้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งศูนย์ทางการกลับอุปสงค์ทั้งในประเทศและต่างประเทศที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงจากการเติบโตที่ต่ำกว่าคาดและการกีดกันทางการค้า

การผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนขยายตัว 4.5% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนสิงหาคม ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 4.8% และชะลอตัวลงหลังจากการขยายตัว 5.1% ในเดือนกรกฎาคม เนื่องจากสภาพอากาศที่มีความแปรปรวนในช่วงฤดูร้อน ทำให้ผลผลิตที่สามารถทำได้ส่วนใหญ่ในภาคการผลิตชะลอตัวลง อย่างไรก็ตาม ความต้องการด้านเทคโนโลยีที่เพิ่มมากขึ้นยังคงทำให้การผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ยังคงได้รับความนิยม 

ธนาคารจีนปล่อยสินเชื่อใหม่มูลค่ากว่า 9 แสนล้านหยวนในเดือนสิงหาคม โดยการปล่อยสินเชื่อดังกล่าวยังแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจจีนยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่ซบเซา ในขณะเดียวกัน การเติบโตของสินเชื่อคงค้างลดลงเหลือ 8.5% อย่างไรก็ตาม การปล่อยสินเชื่อใหม่ของธนาคารกลางตั้งแต่เดือนแรกของปีมีมูลค่ารวมเพียง 14.43 ล้านล้านหยวนเท่านั้น ทั้งนี้ สินเชื่อโดยรวมของจีนยังคงชะลอตัวลงแม้ว่าธนาคารกลางจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงก็ตาม เพื่อกระตุ้นอุปสงค์ที่ชะลอตัวลงของจีน

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)

แนวต้านสำคัญ: 7.0735, 7.0858, 7.0923

แนวรับสำคัญ: 7.0547, 7.0482, 7.0358

ที่มา: Investing.com

Buy/Long 1: หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 7.0482 - 7.0547 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 7.0547 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 7.0858 และ SL ที่ประมาณ 7.0358 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

จุดกลับตัว 19 กันยายน 2567 22:18 น. GMT+7