บทวิเคราะห์ USD/JPY วันที่ 20 กันยายน 2567

Create at 1 month ago (Sep 20, 2024 10:27)

เงินเยนแข็งค่า คาด BOJ คงนโยบาย ดอลลาร์อ่อนตัวหลังเฟดลดดอกเบี้ย

เงินเยนของญี่ปุ่นแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยหลังจากการประชุมครั้งล่าสุดของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) โดยอัตราแลกเปลี่ยน USD/JPY อยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 9 เดือน ตกลงมาต่ำกว่า 140 เยนในช่วงสั้นๆ นักลงทุนคาดการณ์ว่าการเคลื่อนไหวของเงินเยนจะถูกจำกัดหาก BOJ ยังคงดำเนินนโยบายปัจจุบันต่อไป ขณะที่สัญญาณของการกระชับนโยบาย อาจทำให้เงินเยนแข็งค่าได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม เงินเยนยังคงเผชิญกับแรงกดดัน เนื่องจากตลาดคาดว่า BOJ จะดำเนินนโยบายอย่างระมัดระวังในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในขณะที่ดอลลาร์สหรัฐฯ ดิ้นรนท่ามกลางความคาดหวังว่าอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ จะปรับลดอย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ เศรษฐกิจของญี่ปุ่นแสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวในระดับปานกลาง โดยได้รับแรงหนุนจากค่าจ้างที่เพิ่มขึ้น แม้ว่าจะยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงระดับโลกและความผันผวนของตลาด โดยรัฐบาลรายงานกำไรของบริษัทและการเติบโตของค่าจ้างที่แข็งแกร่งในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน แม้ว่าพายุไต้ฝุ่นจะส่งผลกระทบต่อความต้องการในการเดินทาง ขณะที่การใช้จ่ายของผู้บริโภค โดยเฉพาะในบริการต่างๆ เช่น การรับประทานอาหารนอกบ้าน กำลังฟื้นตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ท่ามกลางอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาสภาพอากาศ

ทางด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ชุนอิจิ ซูซูกิ กล่าวว่า เงินเยนที่แข็งค่าขึ้นส่งผลกระทบหลากหลายต่อเศรษฐกิจ โดยอาจส่งผลดีต่อผู้ส่งออกในขณะที่ต้นทุนการนำเข้าเพิ่มขึ้น โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของอัตราแลกเปลี่ยนที่มีความเสถียรและกล่าวว่ารัฐบาลจะยังคงติดตามผลกระทบของเงินเยนต่อไป

ในขณะเดียวกัน BOJ คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.25% แต่อาจส่งสัญญาณถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคตเนื่องจากการเติบโตของค่าจ้างที่มั่นคงและการบริโภคที่ปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ข้อมูลเงินเฟ้อในเดือนสิงหาคมแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 2.8% ซึ่งสอดคล้องกับที่คาดการณ์ไว้และสร้างแรงกดดันต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต

ทางด้านอัตราเงินเฟ้อขายส่งของญี่ปุ่นชะลอตัวลงในเดือนสิงหาคม ขณะที่การเติบโตของการส่งออกอ่อนแอลง โดยเฉพาะปลายทางไปยังสหรัฐอเมริกา เน้นย้ำถึงความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ในประเทศแม้ว่าจะมีการปรับค่าจ้างเพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกัน คำสั่งซื้อเครื่องจักรหลักของญี่ปุ่นลดลงอย่างไม่คาดคิดในเดือนกรกฎาคม ท่ามกลางความเชื่อมั่นทางธุรกิจของผู้ผลิตญี่ปุ่นที่ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือนในเดือนกันยายน โดยอุปสงค์ของจีนที่ซบเซาและการชะลอตัวของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกถือเป็นข้อกังวลหลัก ขณะที่ความเชื่อมั่นของภาคบริการลดลง แต่คาดว่าจะฟื้นตัวขึ้นจากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่แข็งแกร่ง

ทางด้านดุลการค้าของญี่ปุ่นขาดดุลน้อยกว่าที่คาดไว้ที่ 695,300 ล้านเยน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการส่งออกและนำเข้าที่อ่อนแอลง โดยแม้ว่าการปรับขึ้นค่าจ้างจะช่วยกระตุ้นอุปสงค์ในประเทศ แต่การชะลอตัวของการนำเข้าทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่น

อีกด้าน ดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงในการซื้อขายที่ผันผวนหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 50 จุด และเปลี่ยนมาใช้การดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย ขณะที่เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ชันขึ้น ส่งสัญญาณว่าอาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกในอนาคต ท่ามกลางจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ลดลงอย่างไม่คาดคิด สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน

ทางด้านการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของสหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้นในไตรมาสที่ เนื่องจากการนำเข้าที่เพิ่มขึ้น แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า ปี ในขณะเดียวกัน อัตราจำนองของสหรัฐฯ ลดลงสู่ระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2023 หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับลดอัตราดอกเบี้ย ท่ามกลางกิจกรรมในตลาดที่อยู่อาศัยที่ยังคงซบเซา โดยยอดขายบ้านมือสองต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ และถึงแม้ว่าต้นทุนการกู้ยืมจะลดลง แต่ตลาดที่อยู่อาศัยอาจยังคงเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนอุปทาน

อย่างไรก็ดี ประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ แสดงความเชื่อมั่นในเส้นทางการเติบโตทางเศรษฐกิจ แม้จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และตัดความเป็นไปได้ที่อัตราดอกเบี้ยจะกลับไปสู่ระดับต่ำเป็นพิเศษเหมือนในช่วงการระบาด โดยผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ คาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยจะลดลงอีก 0.5 เปอร์เซ็นต์ภายในสิ้นปีนี้ เปอร์เซ็นต์เต็มในปี 2025 และอีก 0.5 เปอร์เซ็นต์ในปี 2026 ขณะที่ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายน

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1DCFD USD/JPY

แนวต้านสำคัญ : 143.61, 144.09, 144.88

แนวรับสำคัญ : 142.03, 141.55, 140.76                  

1D Outlook           

วิเคราะห์ USD/JPY ที่มา: TradingView                   

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 140.83 – 142.03 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 142.03 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 143.75 และ SL ที่ประมาณ 140.23 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 143.61 – 144.81 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 147.27 และ SL ที่ประมาณ 141.43 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 143.61 – 144.81 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 143.61 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 141.69 และ SL ที่ประมาณ 145.41 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 140.83 – 142.03 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 139.64 และ SL ที่ประมาณ 144.21 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Sep 20, 2024 10:12AM GMT+7

Name
S3
S2
S1
Pivot Points
R1
R2
R3
Classic 139.63 140.76 141.69 142.82 143.75 144.88 145.81
Fibonacci 140.76 141.55 142.03 142.82 143.61 144.09 144.88
Camarilla 142.05 142.24 142.43 142.82 142.81 143 143.19
Woodie's 139.53 140.71 141.59 142.77 143.65 144.83 145.71
DeMark's - - 142.26 143.1 144.32 - -

ที่มา: Investing 1Investing 2

______________________________
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิกที่นี่
รู้เท่าทันสถานการณ์โลกและบทวิเคราะห์เทคนิคขั้นสูงคลิกที่นี่
Tags:

TECHNICAL ANALYSIS

ARTICLES