ธนาคารกลางแคนาดาเห็นต่างด้านความเสี่ยงเงินเฟ้อ ตลาดคาดลดดอกเบี้ยอีก ท่ามกลางเศรษฐกิจไม่แน่นอน
ธนาคารกลางแคนาดาได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยสามครั้งในปีนี้ ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 4.25% โดยตลาดคาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอีก 50 จุดในเดือนตุลาคม และปรับลดอีกครั้งในเดือนธันวาคม ขณะที่ธนาคารกลางแคนาดาได้แสดงความโปร่งใสเกี่ยวกับกระบวนการตัดสินใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคำนึงถึงความไม่พอใจของประชาชนต่ออัตราดอกเบี้ยและอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น
รายงานการประชุมของธนาคารกลางแคนาดาเมื่อวันที่ 4 กันยายน เผยให้เห็นว่าสมาชิกคณะกรรมการมีความเห็นแตกต่างกันเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ โดยบางคนมองว่าเศรษฐกิจยังคงมีความสมดุล จากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในภาคที่อยู่อาศัยและภาคบริการที่ถูกชดเชยด้วยเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและอัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่บางคนกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการลดลงของอัตราเงินเฟ้อที่อาจเกิดขึ้นหากเศรษฐกิจและตลาดแรงงานอ่อนแอมากยิ่งขึ้น โดยธนาคารกลางแคนาดาได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยตั้งแต่เดือนมิถุนายน หลังจากราคาผู้บริโภคลดลง ซึ่งบรรลุเป้าหมาย 2% ของธนาคารกลางแคนาดาในเดือนสิงหาคม
โดยอัตราเงินเฟ้อของแคนาดาลดลงเหลือ 2% ในเดือนสิงหาคม และถือเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2021 จากราคาน้ำมันเบนซิน บริการโทรคมนาคม และราคาเครื่องนุ่งห่มที่ลดลง ท่ามกลางยอดขายปลีกในเดือนกรกฎาคมที่ยังคงเติบโต นำโดยภาคยานยนต์ ซึ่งถือเป็นข่าวดีให้กับเศรษฐกิจของแคนาดา แม้จะยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับการใช้จ่ายสินค้าฟุ่มเฟือยในอนาคต ขณะที่โครงการก่อสร้างบ้านลดลงอย่างมีนัยสำคัญในเดือนสิงหาคม ซึ่งสะท้อนถึงตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอตัว
ทางด้านผู้ว่าการธนาคารกลางแห่งแคนาดา ทิฟ แม็กเล็ม กล่าวถึงการนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในภาคธุรกิจ ซึ่งอาจส่งผลให้อุปสงค์ในเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นชั่วคราว และอาจส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นได้ อีกทั้งยังกล่าวถึงการใช้ AI อย่างระมัดระวังของธนาคารกลางแห่งแคนาดาเพื่อปรับปรุงการคาดการณ์เศรษฐกิจ โดยแม็กเล็มเน้นย้ำว่า แม้ว่าผลกระทบของ AI จะยังคงความไม่แน่นอน แต่ก็ยังไม่ส่งผลกระทบต่อการจ้างงานที่ลดลง ขณะที่ผลกระทบในระยะยาวต่ออัตราเงินเฟ้อยังคงคาดเดาได้ยาก
สำหรับดอลลาร์สหรัฐฯ ทรงตัวในวันอังคารหลังจากร่วงลงก่อนหน้านี้ และทรงตัวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 12 เดือน หลังจากการเทขายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 50 จุดของธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยปัจจุบัน นักลงทุนคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม โดยพบโอกาส 53% ที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 50 จุดในการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายน ขณะที่ตลาดยังรอข้อมูลเงินเฟ้อที่สำคัญในช่วงปลายสัปดาห์เพื่อประเมินการทิศทางในอนาคตของธนาคารกลางสหรัฐฯ
ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ ลดลงอย่างรวดเร็วในเดือนกันยายน ซึ่งถือเป็นการลดลงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 3 ปี โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากความกังวลเกี่ยวกับตลาดแรงงาน ท่ามกลางครัวเรือนที่ยังคงวางแผนที่จะซื้อของชิ้นใหญ่ อย่างเช่น บ้านหรือที่อยู่อาศัยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งอาจช่วยสนับสนุนการใช้จ่ายของผู้บริโภคได้ โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยล่าสุดของเฟดมีเป้าหมายเพื่อรักษาอัตราการว่างงานที่อยู่ในระดับต่ำ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 4.2% ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายน
ทางด้านราคาบ้านในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยในเดือนกรกฎาคม แม้ว่าแนวโน้มโดยรวมจะชะลอตัวลง ในขณะที่อัตราจำนองลดลงและอุปทานเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้ความสามารถในการซื้อบ้านเพิ่มขึ้น แม้ว่าการลดลงของราคาอย่างมีนัยสำคัญยังคงไม่น่าจะเกิดขึ้นได้เนื่องจากความต้องการด้านที่อยู่อาศัยที่มีอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ดี การปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงของธนาคารกลางสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนมั่นใจได้ว่าธนาคารกลางจะดำเนินการอย่างเด็ดขาดหากเศรษฐกิจแสดงสัญญาณที่อ่อนแอลง โดย UBS ให้ความเห็นว่าอาจพบสัญญาณของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมหากข้อมูลในภาคตลาดแรงงานย่ำแย่ลง ขณะที่จุดสนใจมุ่งเน้นไปที่ระดับต่ำสุดที่อัตราดอกเบี้ยจะสามารถไปถึง
UBS คาดว่าเศรษฐกิจจะสามารถลงจอดได้อย่างนุ่มนวล และคาดการณ์การเติบโตในไตรมาสที่ 3 อยู่ที่ประมาณ 2.5%-3% แม้ว่าแนวโน้มการเติบโตและอัตราเงินเฟ้อที่แข็งแกร่งที่เกิดขึ้นในช่วง “ทศวรรษ 1920” จะยังคงความเป็นไปได้ แต่ความไม่แน่นอนยังคงอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับแนวทางระยะยาวของอัตราดอกเบี้ยและนโยบายการคลังหลังการเลือกตั้ง โดยความผันผวนอาจกลับมาอีกครั้ง เนื่องจากนักลงทุนยังคงต้องการความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มในอนาคตของเศรษฐกิจ
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD USD/CAD
แนวต้านสำคัญ : 1.3431, 1.3434, 1.3439
แนวรับสำคัญ : 1.3423, 1.3420, 1.3415
1H Outlook
ที่มา: TradingView
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.3415 - 1.3423 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.3423 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3434 และ SL ที่ประมาณ 1.3411 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3431 - 1.3439 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3445 และ SL ที่ประมาณ 1.3419 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3431 - 1.3439 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 1.3431 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3422 และ SL ที่ประมาณ 1.3443 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.3415 - 1.3423 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3410 และ SL ที่ประมาณ 1.3435 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Sep 25, 2024 09:40AM GMT+7
Name
|
S3
|
S2
|
S1
|
Pivot Points
|
R1
|
R2
|
R3
|
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 1.3411 | 1.3415 | 1.3422 | 1.3427 | 1.3434 | 1.3439 | 1.3445 |
Fibonacci | 1.3415 | 1.342 | 1.3423 | 1.3427 | 1.3431 | 1.3434 | 1.3439 |
Camarilla | 1.3425 | 1.3426 | 1.3427 | 1.3427 | 1.343 | 1.3431 | 1.3432 |
Woodie's | 1.3411 | 1.3415 | 1.3422 | 1.3427 | 1.3434 | 1.3439 | 1.3445 |
DeMark's | - | - | 1.3425 | 1.3428 | 1.3436 | - | - |
ที่มา: Investing 1, Investing 2
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิ