ยูโรร่วงคาด ECB ลดดอกเบี้ย ดอลลาร์ทรงตัว เฟดเล็งผ่อนคลายระมัดระวัง
เงินยูโรอ่อนค่าลงเล็กน้อยที่ 1.0971 ดอลลาร์ ใกล้ระดับต่ำสุดล่าสุด ขณะที่ในเดือนกันยายน อัตราเงินเฟ้อของเขตยูโรลดลงต่ำกว่า 2% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2021 ซึ่งได้รับแรงหนุนจากราคาพลังงานที่ลดลง ส่งผลให้มีการเรียกร้องให้ ECB ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนตุลาคม หลังจาก ECB ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปแล้วในปีนี้ ท่ามกลางปัจจุบันที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในเดือนตุลาคมและธันวาคม เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อลดลงเร็วกว่าที่คาดไว้ และคริสติน ลาการ์ด ประธาน ECB เสนอว่าแนวโน้มปัจจุบันได้สนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจของเขตยูโรที่กำลังชะลอตัว
ทางด้านความคาดหวังเงินเฟ้อของผู้บริโภคลดลง ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในความสามารถของ ECB ในการควบคุมราคา อย่างไรก็ตาม ผู้กำหนดนโยบายของ ECB ยังคงความระมัดระวังเนื่องจากแรงกดดันพื้นฐาน เช่น อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน โดยเฉพาะในภาคบริการ รวมถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วของค่าจ้าง
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 25 จุด 2 ครั้งภายในสิ้นปีนี้ โดยคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ระดับใกล้เคียง 2% จนถึงปี 2027 โดยแม้ว่าเศรษฐกิจของเยอรมนีจะหยุดชะงัก แต่แนวโน้มการเติบโตโดยรวมของเขตยูโรยังคงเป็นไปในเชิงบวกในระดับปานกลาง ในขณะเดียวกัน รัฐมนตรีคลังของเขตยูโรวางแผนที่จะจัดการกับความสามารถในการแข่งขันกับสหรัฐอเมริกาและจีนโดยการผนวกรวมตลาดทุนของสหภาพยุโรปเพื่อระดมทุนสำหรับการพัฒนาาทางเทคโนโลยี
ในเดือนกันยายน อัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีลดลงเหลือ 1.8% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2021 ซึ่งสนับสนุนการเรียกร้องให้ ECB ปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง ในขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในภาคยานยนต์ เพิ่มขึ้น 2.9% ในเดือนสิงหาคม ซึ่งดีกว่าที่คาดไว้ แต่ภาคค้าปลีกของเยอรมนีรายงานว่าความเชื่อมั่นทางธุรกิจลดลง ขณะที่ความไม่แน่นอนของผู้บริโภคเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจทำให้ความคาดหวังต่อการเติบโตของการใช้จ่ายในปี 2024 ลดลง ท่ามกลางภาคการผลิตของเยอรมนีที่หดตัวอย่างรวดเร็ว โดยผลผลิต คำสั่งซื้อใหม่ และการจ้างงานลดลง รวมถึงการเติบโตของภาคบริการที่แทบจะหยุดชะงัก นอกจากนี้ อัตราการว่างงานยังเพิ่มขึ้น 17,000 รายในเดือนกันยายน ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์
ในฝรั่งเศส ดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดไว้เนื่องจากต้นทุนพลังงานลดลงอย่างมาก ขณะที่ภาคบริการหดตัว ส่งผลให้การเติบโตในเดือนสิงหาคมที่ขับเคลื่อนโดยโอลิมปิกพลิกกลับ ขณะที่ภาคการผลิตยังคงหดตัว แม้ว่าจะหดตัวในอัตราที่ช้ากว่าที่คาดไว้ในตอนแรกก็ตาม
ทางด้านค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนกำลังชั่งน้ำหนักแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ท่ามกลางความกังวลด้านภูมิรัฐศาสตร์และปัญหาเศรษฐกิจของจีน โดยข้อมูลล่าสุดได้เปลี่ยนความคาดหวังไปสู่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในระดับปานกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการเติบโตของการจ้างงานที่แข็งแกร่งในเดือนกันยายน
เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ รวมถึงประธานเจอโรม พาวเวลล์ และประธานเฟดนิวยอร์ก จอห์น วิลเลียมส์ ได้ระบุว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ในเดือนกันยายนไม่ได้สร้างบรรทัดฐานที่สำคัญ ขณะที่ราฟาเอล บอสทิก ประธานเฟดแอตแลนตาเน้นย้ำว่าตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่งแม้จะชะลอตัวลง
ในด้านเศรษฐกิจ การขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ ลดลงอย่างรวดเร็วในเดือนสิงหาคม โดยแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน เนื่องจากการส่งออกพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งขับเคลื่อนโดยความต้องการที่แข็งแกร่งสำหรับสินค้าทุน เช่น อุปกรณ์โทรคมนาคมและเครื่องบิน โดยแนวโน้มดังกล่าวควบคู่ไปกับข้อมูลการจ้างงานและการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่แข็งแกร่งสนับสนุนให้แนวโน้มเศรษฐกิจมีเสถียรภาพในไตรมาสที่ 3 ท่ามกลางจุดยืนของเฟดที่ยังคงมุ่งเน้นไปที่การจัดการเงินเฟ้อและมีแนวโน้มที่จะดำเนินการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างระมัดระวังและในอัตราน้อยลง
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1W) CFD EUR/USD
แนวต้านสำคัญ : 1.1144, 1.1204, 1.1303
แนวรับสำคัญ : 1.0946, 1.0886, 1.0787
1W Outlook
ที่มา: TradingView
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.0846 - 1.0946 แต่ไม่สามารถทะลุแนวรับที่ 1.0946 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.1144 และ SL ที่ประมาณ 1.0796 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถทะลุแนวต้านที่ช่วงราคา 1.1144 - 1.1244 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.1397 และ SL ที่ประมาณ 1.0896 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.1144 - 1.1244 แต่ไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 1.1144 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.0881 และ SL ที่ประมาณ 1.1294 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถทะลุแนวรับที่ช่วงราคา 1.0846 - 1.0946 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.0623 และ SL ที่ประมาณ 1.1194 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Oct 9, 2024 11:38AM GMT+7
Name
|
S3
|
S2
|
S1
|
Pivot Points
|
R1
|
R2
|
R3
|
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 1.0623 | 1.0787 | 1.0881 | 1.1045 | 1.1139 | 1.1303 | 1.1397 |
Fibonacci | 1.0787 | 1.0886 | 1.0946 | 1.1045 | 1.1144 | 1.1204 | 1.1303 |
Camarilla | 1.0905 | 1.0929 | 1.0952 | 1.1045 | 1.1 | 1.1023 | 1.1047 |
Woodie's | 1.0589 | 1.077 | 1.0847 | 1.1028 | 1.1105 | 1.1286 | 1.1363 |
DeMark's | - | - | 1.0834 | 1.1022 | 1.1092 | - | - |
ที่มา: Investing 1, Investing 2
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิ