เศรษฐกิจแคนาดาชะลอ-ขาดดุลเพิ่ม หนุนโอกาสลดดอกเบี้ย
ในเดือนกรกฎาคม GDP ของแคนาดาเพิ่มขึ้นสูงกว่าที่คาดไว้ ถือเป็นการฟื้นตัวในระยะสั้นของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเบื้องต้นสำหรับเดือนสิงหาคมบ่งชี้ว่าการเติบโตดังกล่าวมีความเป็นไปได้ที่จะหยุดชะงัก ซึ่งสะท้อนถึงแนวโน้มการชะลอตัวในวงกว้าง ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า GDP ในไตรมาสที่ 3 จะเติบโตสูงกว่า 1% เล็กน้อย และต่ำกว่าการคาดการณ์เดิมของธนาคารกลางแคนาดาที่ 2.8% โดยการเติบโตในเดือนกรกฎาคมนั้นขับเคลื่อนโดยภาคบริการเป็นหลัก รวมถึงการค้าปลีก บริการสาธารณะ การเงิน และประกันภัย ซึ่งเติบโตได้แม้เศรษฐกิจจะถดถอยจากเหตุการณ์ไฟป่าที่เกิดขึ้น
ทางด้านแนวโน้มเฉพาะภาคส่วนเผยให้เห็นว่าการขยายตัวของภาคบริการในเดือนกรกฎาคมนั้นถูกชดเชยในเดือนสิงหาคมด้วยการหดตัวของการผลิต การขนส่ง และการจัดเก็บสินค้า ซึ่งการลดลงเหล่านี้บดบังการเติบโตของธุรกิจการสกัดน้ำมันและก๊าซ รวมถึงภาคสาธารณะ โดยนักเศรษฐศาสตร์มองว่าการเพิ่มขึ้นในระยะสั้นในเดือนกรกฎาคมเป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ซบเซา ตอกย้ำการคาดการณ์ถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่อาจเกิดขึ้น
ตัวบ่งชี้ทางเศรษฐกิจล่าสุดยังแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มเศรษฐกิจที่หลากหลาย โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของ Ivey เพิ่มขึ้นเป็น 53.1 ในเดือนกันยายนจาก 48.2 ในเดือนสิงหาคม บ่งชี้ถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่กลับมาฟื้นตัว โดยค่าที่สูงกว่า 50 บ่งชี้ถึงการเติบโต ในทำนองเดียวกัน PMI ด้านการผลิตปรับตัวดีขึ้นในเดือนกันยายน โดยส่งสัญญาณถึงการขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 17 เดือน อย่างไรก็ตาม ภาคบริการยังคงประสบปัญหา โดยข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นการเลิกจ้างพนักงานและคำสั่งซื้อใหม่ลดลงเกือบ 4 ปี
นอกจากนี้ แคนาดายังขาดดุลการค้ามากกว่าที่คาดไว้ที่ 1.1 พันล้านดอลลาร์แคนาดาในเดือนสิงหาคม เนื่องมาจากการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นและการส่งออกที่ลดลง ท่ามกลางการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยได้รับแรงหนุนจากยานยนต์ อุปกรณ์ และเครื่องจักรอุตสาหกรรม ขณะที่การส่งออกลดลง โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลง ซึ่งความไม่สมดุลทางการค้าที่ต่อเนื่องและความอ่อนแอทางเศรษฐกิจดังกล่าวได้เพิ่มความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง โดยตลาดเงินสะท้อนถึงความคาดหวังอย่างมากที่ BoC จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 50 จุดในเดือนตุลาคม
ทางด้านเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงจากข้อมูลใหม่ที่เผยให้เห็นทั้งราคาผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยและสัญญาณของความเปราะบางของตลาดแรงงาน ซึ่งสนับสนุนการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม โดยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 0.2% และเพิ่มขึ้น 2.4% ต่อปี ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบเป็นรายปีที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2021 นอกจากนี้ การเรียกร้องสวัสดิการว่างงานยังเพิ่มขึ้นเนื่องจากพายุเฮอริเคนเฮเลนและการหยุดงานของบริษัทโบอิ้ง ซึ่งทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของตลาดแรงงาน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังคงมีมุมมองที่เปิดกว้างต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมหากอัตราเงินเฟ้อยังคงลดลง โดยจอห์น วิลเลียมส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขานิวยอร์กเน้นย้ำว่าการปรับลดในอนาคตยังคงต้องอาศัยข้อมูลเศรษฐกิจ โดยคาดการณ์ว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะค่อยเป็นค่อยไปเพื่อนำไปสู่จุดยืนทางนโยบายที่เป็นกลาง และคาดการณ์ถึงการเติบโตที่มั่นคง โดยคาดว่าอัตราการว่างงานจะอยู่ที่ประมาณ 4.25% และอัตราเงินเฟ้อจะเข้าใกล้เป้าหมาย 2% ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
อย่างไรก็ดี ความรู้สึกของตลาดบ่งชี้ว่าอาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมเกิดขึ้น โดยราคาฟิวเจอร์สบ่งบอกถึงแนวโน้มสูงที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในเดือนพฤศจิกายน และคาดว่าเฟดจะปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ในระหว่าง 3.5% ถึง 3.75% ภายในกลางปี 2025 โดยออสตัน กูลส์บี ประธานเฟดสาขาชิคาโก และแมรี่ เดลีย์ ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก ส่งสัญญาณว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงทีละน้อยอาจมีความเหมาะสมมากกว่าเพื่อหลีกเลี่ยงความตึงเครียดทางเศรษฐกิจ จึงอาจส่งผลให้เงินดอลลาร์แคนาดามีแนวโน้มปรับตัวขึ้นลงในกรอบปัจจุบันกว้างๆ ได้อย่างต่อเนื่องในช่วงนี้
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD USD/CAD
แนวต้านสำคัญ : 1.3756, 1.3758, 1.3761
แนวรับสำคัญ : 1.3748, 1.3746, 1.3743
1H Outlook
ที่มา: TradingView
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.3738 - 1.3748 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.3748 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3758 และ SL ที่ประมาณ 1.3733 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3756 - 1.3766 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3769 และ SL ที่ประมาณ 1.3743 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3756 - 1.3766 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 1.3756 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3748 และ SL ที่ประมาณ 1.3771 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.3738 - 1.3748 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3735 และ SL ที่ประมาณ 1.3751 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Oct 11, 2024 09:55AM GMT+7
Name
|
S3
|
S2
|
S1
|
Pivot Points
|
R1
|
R2
|
R3
|
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 1.3739 | 1.3743 | 1.3748 | 1.3752 | 1.3758 | 1.3761 | 1.3767 |
Fibonacci | 1.3743 | 1.3746 | 1.3748 | 1.3752 | 1.3756 | 1.3758 | 1.3761 |
Camarilla | 1.3752 | 1.3753 | 1.3754 | 1.3752 | 1.3755 | 1.3756 | 1.3757 |
Woodie's | 1.3741 | 1.3744 | 1.375 | 1.3753 | 1.376 | 1.3762 | 1.3769 |
DeMark's | - | - | 1.375 | 1.3753 | 1.376 | - | - |
ที่มา: Investing 1, Investing 2
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิ