ปอนด์มีแนวโน้มลดลงจากเงินเฟ้อต่ำ กระตุ้นคาดการณ์ลดดอกเบี้ย
ค่าเงินปอนด์พุ่งขึ้นแตะระดับ 1.30 ดอลลาร์ในช่วงสั้นๆ แต่มีแนวโน้มลดลงในสัปดาห์นี้ ซึ่งเกิดจากอัตราเงินเฟ้อของอังกฤษที่ต่ำเกินคาด ทำให้เกิดการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งก่อนสิ้นปีนี้สูงขึ้น
สำหรับเศรษฐกิจของอังกฤษเติบโต 0.2% ในเดือนสิงหาคม หลังจากหยุดชะงักมา 2 เดือน ส่งผลให้เรเชล รีฟส์ รัฐมนตรีคลังคลายความกังวลลงก่อนที่พรรคแรงงานจะประกาศงบประมาณครั้งแรกในช่วงปลายเดือนนี้ โดยภาคส่วนหลักทั้งหมดเติบโต แม้ว่าการเติบโตของภาคบริการที่ช้ากว่าที่คาดไว้จะถูกชดเชยด้วยการฟื้นตัวของภาคการผลิตและภาคก่อสร้าง ส่งผลให้มีการคาดการณ์ว่า BoE จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในเดือนพฤศจิกายน หลังจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนสิงหาคม
ทางด้านนายกรัฐมนตรีคีร์ สตาร์เมอร์ ตั้งเป้าการเติบโตประจำปีที่ 2.5% วางแผนที่จะจัดการประชุมสุดยอดการลงทุนระหว่างประเทศเพื่อดึงดูดเงินทุนจากต่างประเทศ ขณะที่การฟื้นตัวของสหราชอาณาจักรหลังการระบาดใหญ่เป็นไปอย่างช้าๆ เมื่อเทียบกับประเทศในกลุ่ม G7 อื่นๆ โดยปัจจุบันเศรษฐกิจขยายตัวมากกว่าก่อนการระบาดใหญ่ถึง 3.4% ในเดือนกุมภาพันธ์ 2020
ทั้งนี้ ตลาดแรงงานของสหราชอาณาจักรแสดงสัญญาณของการชะลอตัว โดยการเติบโตของค่าจ้างอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปี และตำแหน่งงานยังคงลดลงต่อเนื่องเป็นเวลา 2 ปี แม้ว่าจะในอัตราที่ช้าลง โดยการผ่อนคลายนี้อาจสนับสนุน BoE ที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม นโยบายเศรษฐกิจก่อนงบประมาณของรีฟส์ ในวันที่ 30 ตุลาคมยังคงมีความไม่แน่นอน ซึ่งอาจมีความจำเป็นต้องขึ้นภาษี 2 หมื่นล้านปอนด์เพื่อหลีกเลี่ยงการตัดงบบริการสาธารณะ
ทางด้าน Resolution Foundation เสนอให้แก้ไขกฎการคลังเพื่อกระตุ้นการลงทุนระยะยาวได้มากขึ้น ในขณะที่ Institute for Fiscal Studies ประเมินว่ามีความจำเป็นต้องขึ้นภาษี 25,000 ล้านปอนด์เพื่อป้องกันการตัดงบบริการสาธารณะ ขณะที่ความเชื่อมั่นทางธุรกิจลดลง โดยความกังวลเรื่องภาษีบดบังการลงทุน และธุรกิจแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับงบประมาณที่กำลังจะมาถึง รวมถึงความขัดแย้งทั่วโลก
สำหรับตลาดที่อยู่อาศัยของสหราชอาณาจักรแสดงสัญญาณของการฟื้นตัว โดยราคาบ้านและยอดขายเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม แรงกดดันในตลาดเช่าที่อยู่อาศัยยังคงมีอยู่ เนื่องจากอุปสงค์ที่มีมากกว่าอุปทาน
ทั้งนี้ ดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน โดยได้รับแรงหนุนจากธนาคารกลางยุโรปที่มีแนวโน้มผ่อนคลาย และข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง ซึ่งทำให้การคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ล่าช้าออกไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากโดนัลด์ ทรัมป์ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี
ขณะเดียวกัน ยอดขายปลีกของสหรัฐฯ ในเดือนกันยายนสูงกว่าที่คาดการณ์ โดยเติบโต 0.4% ซึ่งส่งสัญญาณถึงความแข็งแกร่งของผู้บริโภคที่อาจส่งผลต่อการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่กำลังจะมีขึ้น โดยการใช้จ่ายในสินค้าจำเป็น เช่น ของชำและเสื้อผ้า ยังคงแข็งแกร่ง แม้ว่าการใช้จ่ายในสินค้าราคาแพง เช่น เฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าจะอ่อนตัวลง
ทางด้านสินค้าคงคลังของธุรกิจสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นในเดือนสิงหาคม โดยได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของสต็อกของผู้ค้าปลีก ขณะที่ความเชื่อมั่นของบริษัทก่อสร้างที่อยู่อาศัยดีขึ้นในเดือนตุลาคม แม้จะเผชิญกับความท้าทายจากอัตราจำนองที่สูงและปัญหาด้านความสามารถในการซื้อ โดยอัตราจำนองพุ่งสูงขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ แตะระดับ 6.32% ซึ่งเป็นการพลิกกลับจากการปรับลดลงที่เริ่มต้นขึ้นก่อนที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยตามที่คาดไว้
อีกด้าน จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานลดลงอย่างไม่คาดคิดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว 19,000 ราย เหลือ 241,000 ราย แม้ว่าพายุเฮอริเคนที่ถล่มเมื่อไม่นานมานี้ อย่าง เฮเลน และมิลตัน คาดว่าจะทำให้ตลาดแรงงานได้รับผลกระทบในระยะใกล้ หลังจากนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะมีผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้น 260,000 ราย แต่พายุเฮอริเคนยังคงส่งผลกระทบต่อข้อมูลเศรษฐกิจ จึงอาจส่งผลให้คู่สกุล GBP/USD คาดว่าจะมีแนวโน้มซื้อขายขึ้นลงในกรอบปัจจุบันไปจนถึงกรอบล่างได้มากขึ้นอีกเล็กน้อยในช่วงนี้
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD GBP/USD
แนวต้านสำคัญ : 1.3026, 1.3028, 1.3032
แนวรับสำคัญ : 1.3018, 1.3016, 1.3012
1H Outlook
ที่มา: TradingView
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.3010 - 1.3018 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.3018 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3027 และ SL ที่ประมาณ 1.3006 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3026 - 1.3034 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3038 และ SL ที่ประมาณ 1.3014 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3026 - 1.3034 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้าน 1.3026 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3018 และ SL ที่ประมาณ 1.3038 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.3010 - 1.3018 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3000 และ SL ที่ประมาณ 1.3030 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Oct 18, 2024 10:14AM GMT+7
Name
|
S3
|
S2
|
S1
|
Pivot Points
|
R1
|
R2
|
R3
|
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 1.3008 | 1.3012 | 1.3018 | 1.3022 | 1.3027 | 1.3032 | 1.3037 |
Fibonacci | 1.3012 | 1.3016 | 1.3018 | 1.3022 | 1.3026 | 1.3028 | 1.3032 |
Camarilla | 1.302 | 1.3021 | 1.3022 | 1.3022 | 1.3023 | 1.3024 | 1.3025 |
Woodie's | 1.3008 | 1.3012 | 1.3018 | 1.3022 | 1.3027 | 1.3032 | 1.3037 |
DeMark's | - | - | 1.302 | 1.3023 | 1.3029 | - | - |
ที่มา: Investing 1, Investing 2
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิ