อัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นชะลอตัว BOJ ติดตามการเติบโตของค่าจ้างและความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของญี่ปุ่นชะลอตัวลงในเดือนกันยายน เนื่องมาจากมาตรการอุดหนุนพลังงาน แต่หากไม่รวมเชื้อเพลิง อัตราเงินเฟ้อยังคงทรงตัว ซึ่งบ่งชี้ว่าแรงกดดันด้านราคาอาจส่งผลให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก โดยผลสำรวจของรอยเตอร์ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อของโตเกียว ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญในแนวโน้มระดับประเทศ คาดว่าน่าจะลดลงต่ำกว่าเป้าหมาย 2% ของ BOJ ในเดือนตุลาคม ขณะที่อัตราเงินเฟ้อภาคบริการที่อ่อนแอสร้างข้อสงสัยเกี่ยวกับมุมมองของ BOJ ที่คาดการณ์ว่าการเติบโตของค่าจ้างจะช่วยพยุงการบริโภคและรักษาอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ที่ 2%
ทางด้านสหภาพแรงงานที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น Rengo ประกาศแผนที่จะผลักดันให้เกิดการขึ้นค่าจ้างอย่างน้อย 5% ในปี 2025 ท่ามกลางข้อกังขาถึงความเป็นไปได้ของเป้าหมายดังกล่าวจากนักเศรษฐศาสตร์ โดย BOJ จะติดตามการเจรจาค่าจ้างอย่างใกล้ชิด เนื่องจากการเติบโตของค่าจ้างที่ยั่งยืนมีความสำคัญต่อความพยายามในการปรับนโยบายการเงินให้เป็นปกติ โดยแม้จะยังคงมีความไม่แน่นอน แต่การเติบโตของค่าจ้างคาดว่าจะช่วยสนับสนุนเงินเฟ้อให้อยู่ที่ประมาณเป้าหมาย 2% แม้ว่าบริษัทขนาดเล็กอาจต้องเผชิญกับความลำบากในการตอบสนองความต้องการด้านค่าจ้าง
สำหรับการส่งออกของญี่ปุ่นลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 10 เดือนในเดือนกันยายน เนื่องจากอุปสงค์ที่อ่อนแอลงจากจีนและสหรัฐฯ เงินเยนที่แข็งค่าขึ้นหลังจากที่ BOJ ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคม ทำให้มูลค่าการส่งออกลดลงมากขึ้น โดย BOJ เผชิญกับความท้าทายเนื่องจากอุปสงค์ทั่วโลกอ่อนแอลง ซึ่งอาจส่งผลและสร้างความซับซ้อนมากขึ้นต่อแผนการเลิกใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนปรนพิเศษในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม BOJ คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในการประชุมเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ ขณะที่คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ประมาณ 2% จนถึงปี 2027
นอกจากนี้ คำสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐาน ซึ่งเป็นตัวชี้วัดหลักในการใช้จ่ายด้านทุนในอนาคต ลดลงติดต่อกัน 2 เดือน โดยลดลง 1.9% ในเดือนสิงหาคม ซึ่งบ่งชี้ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นอาจหยุดชะงัก
ทางด้านรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะของญี่ปุ่นเตรียมเปิดตัวแพ็คเกจการใช้จ่ายสาธารณะชุดใหม่ ซึ่งสูงกว่า 13 ล้านล้านเยนของปีที่แล้ว (87,000 ล้านดอลลาร์) เป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับนโยบายทางการคลังก่อนหน้านี้ โดยการตัดสินใจครั้งนี้ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เกิดขึ้นท่ามกลางค่าครองชีพที่สูงขึ้น ซึ่งอาจมีความจำเป็นต้องกู้ยืมเงินจำนวนมาก และอาจส่งผลให้หนี้สาธารณะของญี่ปุ่นซึ่งสูงอยู่แล้วสูงขึ้นไปอีก โดยคาดว่าจะมีขนาดมากกว่าเศรษฐกิจของประเทศถึงสองเท่า
ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้ญี่ปุ่นกลายเป็นประเทศส่วนน้อยในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ได้ลดการใช้จ่ายจากระดับวิกฤตก่อนหน้านี้ ในทางตรงกันข้าม ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น (BOJ) ได้เริ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อรับมือกับภาวะเงินเฟ้อ ทำให้เกิดความกังวลว่าการกู้ยืมที่เพิ่มขึ้นอาจผลักดันให้ต้นทุนการจัดหาเงินทุนสูงขึ้น แม้ว่าผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปี (JGBs) จะยังคงต่ำกว่า 1% เนื่องจากคาดว่าจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่การออกพันธบัตรเพิ่มเติมอาจทำให้ความเชื่อมั่นในตลาดพันธบัตรลดลง โดยนักวิเคราะห์เตือนว่าการออกพันธบัตรใหม่มูลค่ากว่า 10 ล้านล้านเยนตามที่คาดไว้ อาจทำให้ตลาดพันธบัตรตึงเครียดมากขึ้น
ในขณะเดียวกัน BOJ กำลังเผชิญกับความท้าทายด้านนโยบายการเงิน ผู้ว่าการคาซูโอะ อูเอดะ ได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการติดตามความเสี่ยงทางเศรษฐกิจทั่วโลก โดยเฉพาะความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และจีน ตลอดจนความผันผวนของตลาด โดยเซอิจิ อาดาจิ ผู้กำหนดนโยบายของ BOJ ได้ออกคำเตือนเมื่อไม่นานนี้ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมจะต้องอยู่ "ในระดับปานกลาง" เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อเงินเฟ้อและการเติบโตของค่าจ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เงินเยนฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบหลายทศวรรษและอาจลดต้นทุนการนำเข้าและบรรเทาแรงกดดันด้านเงินเฟ้อได้
อีกด้าน ตามรายงานของ UBS การปรับตัวขึ้นของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งเกิดจากโอกาสที่โดนัลด์ ทรัมป์อาจชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2024 นั้น อาจไม่ยั่งยืนในระยะกลาง แม้ว่าการที่ทรัมป์ได้รับชัยชนะจะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์พุ่งขึ้นในระยะสั้น แต่ UBS แนะนำให้ขายสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นมากเกินออกไป เนื่องจากไม่เห็นว่าทรัมป์จะเป็นปัจจัยบวกที่ยั่งยืนสำหรับค่าเงิน ท่ามกลางการแข่งขันระหว่างทรัมป์และรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริสที่ยังคงสูสี โดยผลสำรวจบางส่วนแสดงให้เห็นว่าทรัมป์นำหน้าเล็กน้อย
ในภาคส่วนที่อยู่อาศัย การก่อสร้างบ้านเดี่ยวของสหรัฐฯ พุ่งสูงสุดในรอบ 5 เดือนในเดือนกันยายน แม้ว่าใบอนุญาตการก่อสร้างในอนาคตจะแสดงให้เห็นการเติบโตเพียงเล็กน้อย ท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่อยู่อาศัยที่สูงที่ยังคงส่งผลกระทบต่อกิจกรรมตลาดที่อยู่อาศัย โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดว่าภาคส่วนนี้จะยังคงฉุดการเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่สาม
ในขณะเดียวกัน งบประมาณขาดดุลของสหรัฐฯ สำหรับปีงบประมาณ 2024 อยู่ที่ 1.833 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่การระบาดใหญ่ โดยได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นสำหรับประกันสังคม การดูแลสุขภาพ และโครงการทางทหาร โดยการขาดดุลที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวควบคู่ไปกับดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นของหนี้ของรัฐบาลกลาง อาจกลายเป็นจุดสำคัญในการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งต่อไป ซึ่งข้อเสนอของทรัมป์คาดว่าจะเพิ่มหนี้สาธารณะมากกว่าแผนการดำเนินงานของแฮร์ริสอย่างมาก
ในข่าวการเงินอื่นๆ Barclays รายงานว่าผู้บริโภคในสหรัฐฯ ยังคงมีความยืดหยุ่น แม้ว่าจะพบสัญญาณบางอย่างที่บ่งชี้ถึงการใช้จ่ายที่อาจเติบโตช้าลง โดยเฉพาะในกลุ่มครัวเรือนที่มีรายได้น้อย ท่ามกลางการใช้จ่ายช่วงวันหยุดที่อาจเผยให้เห็นรูปแบบการใช้จ่ายที่แตกต่างกันมากขึ้นระหว่างกลุ่มรายได้ แต่ Barclays ยังคงมองในแง่ดีว่าการอ่อนตัวที่อาจเกิดขึ้น จะไม่นำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดยังบ่งชี้ว่าการบริโภคในสหรัฐฯ ยังคงเป็นจุดแข็งที่สำคัญ และช่วยรักษามูลค่าดอลลาร์ที่สูงแม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อไม่นานนี้ก็ตาม
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD USD/JPY
แนวต้านสำคัญ : 149.26, 149.31, 149.38
แนวรับสำคัญ : 149.12, 149.07, 149.00
1H Outlook
ที่มา: TradingView
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 149.00 – 149.12 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 149.12 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 149.29 และ SL ที่ประมาณ 148.94 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 149.26 – 149.38 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 149.63 และ SL ที่ประมาณ 149.06 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 149.26 – 149.38 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 149.26 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 149.10 และ SL ที่ประมาณ 149.44 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 149.00 – 149.12 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 148.84 และ SL ที่ประมาณ 149.32 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Oct 21, 2024 10:30AM GMT+7
Name
|
S3
|
S2
|
S1
|
Pivot Points
|
R1
|
R2
|
R3
|
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 148.91 | 149 | 149.1 | 149.19 | 149.29 | 149.38 | 149.48 |
Fibonacci | 149 | 149.07 | 149.12 | 149.19 | 149.26 | 149.31 | 149.38 |
Camarilla | 149.16 | 149.18 | 149.19 | 149.19 | 149.23 | 149.24 | 149.26 |
Woodie's | 148.93 | 149.01 | 149.12 | 149.2 | 149.31 | 149.39 | 149.5 |
DeMark's | - | - | 149.06 | 149.17 | 149.25 | - | - |
ที่มา: Investing 1, Investing 2
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิ