รัฐบาลจีนยังคงใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
ค่าเงินหยวนยังคงส่งตัวอยู่ที่ประมาณ 7.13 หยวนต่อดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนได้ตอบสนองต่อการตัดสินใจทางการเงินครั้งล่าสุดของธนาคารประชาชนจีน โดยธนาคารกลางได้มีการอัดฉีดเงินมูลค่ากว่า 7 แสนล้านหยวนเข้าสู่สถาบันการเงินผ่านโครงการเงินกู้ระยะกลาง (MLF) โดยเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยที่ 2% เพื่อกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน นักลงทุนยังคงให้ความสนใจกับรายละเอียดต่างๆที่อาจเกิดขึ้นในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 8 ล้านล้านหยวน ซึ่งอาจส่งผลให้รายได้ของแต่ละบริษัทเพิ่มมากยิ่งขึ้น
รัฐบาลจีนได้มีการประกาศภายในวันนี้ว่าจะขยายการสนับสนุนสินเชื่อเป็น 4 ล้านล้านหยวนเพื่อช่วยเหลือผู้สร้างอสังหาริมทรัพย์ที่มีปัญหา, ผ่อนปรนข้อจำกัดในการซื้อ, รับประกันการส่งมอบบ้านตรงเวลา และลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อเพิ่มความมั่นใจของผู้ซื้อบ้าน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเคหะ Ni Hong กล่าวว่ายอดขายอสังหาริมทรัพย์ในเมืองชั้นนำเริ่มฟื้นตัวอย่างเต็มที่แล้ว และมีการคาดการณ์ว่าจุดต่ำสุดของอสังหาริมทรัพย์ในจีนได้ผ่านพ้นไปแล้วหลังจากการปรับตัวลงมามากกว่า 3 ปี ในขณะเดียวกัน สำนักงานกำกับดูแลการเงินแห่งชาติเห็นว่าควรใช้เครื่องมือทางการเงินด้านอสังหาริมทรัพย์หลากหลายประเภทเพื่อสร้างผลกระทบที่ยั่งยืน และเสริมว่านโยบายดังกล่าวจะขยายเวลาออกไปจนถึงสิ้นปี 2026
ยอดขายปลีกของจีนพุ่งขึ้น 3.2% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนกันยายน ถือเป็นการเติบโตที่แข็งแกร่งที่สุดของการค้าปลีกและแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการใช้จ่ายของผู้บริโภคในประเทศ โดยได้รับแรงหนุนหลักจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นของธัญพืช, น้ำมันและอาหาร โดยมีการเพิ่มขึ้นมากกว่า 11.1% นอกจากนี้ ยอดขายเสื้อผ้า, รองเท้าและหมวก ก็เริ่มมีแนวโน้มเชิงบวกมากขึ้นเนื่องจากเริ่มใกล้เข้าฤดูหนาว
เศรษฐกิจจีนขยายตัว 4.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนในไตรมาสที่ 3 ของปี 2024 มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 4.5% โดยอัตราการเติบโตที่ยังคงทรงตัวนี้เกิดจากความอ่อนแอของภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงมีแนวโน้มชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ในประเทศที่ไม่แน่นอน, ความเสี่ยงจากภาวะเงินฝืดและความขัดแย้งทางการค้ากับตะวันตก ซึ่งดูได้จากการส่งออกที่เพิ่มขึ้นน้อยที่สุดในรอบ 5 เดือน ในขณะที่การนำเข้ายังคงซบต่อไป ทำให้ทางรัฐบาลจีนได้เพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเพิ่มเติมและช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ระบบเศรษฐกิจภายในประเทศ
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)
แนวต้านสำคัญ: 7.1227, 7.1247, 7.1256
แนวรับสำคัญ: 7.1197, 7.1187, 7.1167
ที่มา: Investing.com
Buy/Long 1: หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 7.1187 - 7.1197 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 7.1197 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 7.1247 และ SL ที่ประมาณ 7.1167 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2: หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 7.1227 - 7.1247 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 7.1256 และ SL ที่ประมาณ 7.1187 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1: หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 7.1227 - 7.1247 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 7.1227 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 7.1187 และ SL ที่ประมาณ 7.1256 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2: หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 7.1187 - 7.1197 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 7.1167 และ SL ที่ประมาณ 7.1247 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
จุดกลับตัว 25 ตุลาคม 2567 23:54 น. GMT+7
ชื่อ
|
S3
|
S2
|
S1
|
จุดกลับตัว
|
R1
|
R2
|
R3
|
Classic | 7.1167 | 7.1187 | 7.1197 | 7.1217 | 7.1227 | 7.1247 | 7.1256 |
Fibonacci | 7.1187 | 7.1199 | 7.1206 | 7.1217 | 7.1228 | 7.1235 | 7.1247 |
Camarilla | 7.1199 | 7.1202 | 7.1205 | 7.1217 | 7.121 | 7.1213 | 7.1216 |
Woodie's | 7.1163 | 7.1185 | 7.1193 | 7.1215 | 7.1223 | 7.1245 | 7.1252 |
DeMark's | - | - | 7.1192 | 7.1215 | 7.1222 | - | - |