ตลาดถั่วเหลืองสหรัฐฯ เจอความท้าทายอุปทานและการเปลี่ยนแปลงอุปสงค์ทั่วโลก

ราคาถั่วเหลืองของสหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ เนื่องมาจากความต้องการถั่วเหลืองที่เพิ่มขึ้นจากจีนและผู้ซื้อรายอื่น โดยพบการซื้อถั่วเหลืองสำหรับปี 2024/25 จำนวน 132,000 ตัน โดยราคาน้ำมันดิบและน้ำมันปาล์มที่พุ่งสูงขึ้นยังช่วยหนุนราคาน้ำมันถั่วเหลือง ขณะที่สภาพอากาศในอเมริกาใต้ยังคงมีความสำคัญ โดยอาร์เจนตินาเผชิญกับการคาดการณ์ถึงอากาศที่แห้งแล้ง และบราซิลคาดว่าจะมีฝนตกมากขึ้น ซึ่งทั้งสองอย่างนี้อาจส่งผลกระทบต่อผลผลิต ท่ามกลางการหยุดงานประท้วงในภาคการขนส่งในอาร์เจนตินาที่ทำให้เกิดความล่าช้าด้านการขนส่ง

สำหรับฤดูกาล 2024/25 ผลผลิตเมล็ดน้ำมันของสหรัฐฯ ลดลงเล็กน้อยเหลือ 134.4 ล้านตัน โดยมีการคาดการณ์ผลผลิตถั่วเหลืองที่ 4.6 พันล้านบุชเชล สะท้อนถึงผลผลิตที่ลดลงเล็กน้อย ขณะที่ราคาถั่วเหลืองในประเทศยังคงอยู่ที่ 10.80 ดอลลาร์ต่อบุชเชล

ทางด้านผลผลิตเมล็ดน้ำมันทั่วโลกคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยได้รับแรงหนุนจากผลผลิตทานตะวันและเมล็ดฝ้ายที่เพิ่มขึ้น แม้ว่าผลผลิตเรพซีดและถั่วเหลืองจะลดลง ขณะที่ความตั้งใจของจีนที่จะร่วมมือกับรัสเซียเกี่ยวกับถั่วเหลืองบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงจากการพึ่งพาสหรัฐฯ ซึ่งทวีความรุนแรงขึ้นจากความตึงเครียดทางการค้าที่อาจลดการส่งออกของสหรัฐฯ ไปยังจีนลงอย่างมาก

ในบราซิล ความตึงเครียดกับสหภาพยุโรปได้เกิดขึ้นหลังจากที่ Danone ตัดสินใจหยุดซื้อถั่วเหลืองจากบราซิล โดยอ้างถึงกฎระเบียบของสหภาพยุโรปที่ต่อต้านการตัดไม้ทำลายป่า การตัดสินใจครั้งนี้จุดชนวนให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์จากเกษตรกรชาวบราซิล และอาจนำไปสู่การตอบโต้แบรนด์ยุโรปที่ถูกมองว่าบ่อนทำลายแนวทางการเกษตรของบราซิล

ทางด้านสัญญาซื้อขายล่วงหน้าถั่วเหลือง Chicago Board of Trade อยู่ภายใต้แรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลง ซึ่งส่งผลให้เกิดความผันผวนก่อนการเลือกตั้งสหรัฐฯ โดยแม้ว่าอุปสงค์ในระยะยาวอาจผลักดันให้ราคาสูงขึ้น แต่คาดว่าตลาดจะยังคงทรงตัวจนกว่าจะถึงการเลือกตั้ง ล่าสุด สัญญาซื้อขายล่วงหน้าถั่วเหลืองเพิ่มขึ้น 0.15% โดยได้รับแรงหนุนจากการส่งออกในเดือนตุลาคมของบราซิลที่อ่อนแอกว่าที่คาดไว้และความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากยุโรป แม้ว่ากำไรจะถูกจำกัดจากการเก็บเกี่ยวที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ ซึ่งขณะนี้เสร็จสิ้นไปแล้ว 89%

ทั้งนี้ อุปสงค์ทั่วโลกมีความซับซ้อนจากความไม่แน่นอนในผลผลิตพืชผลในอเมริกาใต้ แม้ว่าความชื้นในบราซิลจะปรับปรุงดีขึ้น แต่การเปลี่ยนแปลงในการซื้อของจีนอาจส่งผลกระทบต่อราคา โดยน้ำมันถั่วเหลืองได้รับประโยชน์จากราคาปาล์มน้ำมันที่แข็งแกร่ง ซึ่งอาจช่วยหนุนถั่วเหลืองแม้ว่าราคาจะลดลง

อย่างไรก็ดี ตำแหน่งของกองทุนแสดงให้เห็นการซื้อสุทธิในน้ำมันถั่วเหลือง ในขณะที่ถั่วเหลืองและกากถั่วเหลืองพบตำแหน่งขาย ความไม่แน่นอนในการส่งออกถั่วเหลืองของสหรัฐฯ และอุปสงค์ของบราซิลและยุโรปที่ผันผวน การฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบในช่วงที่ผ่านมาและการใช้ภายในประเทศที่ทรงตัวเป็นปัจจัยหนุนในระยะใกล้ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าราคาอาจทรงตัวที่ราว 9.50 ดอลลาร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากบราซิลเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ดี

ทางด้านการวิเคราะห์ทางเทคนิค ราคาถั่วเหลืองมีแนวโน้มเป็นขาลง โดยคาดว่าจะค่อย ๆ เคลื่อนตัวไปสู่เป้าหมายที่ 960.30 ดอลลาร์ ซึ่งได้รับแรงกดดันขาลงอย่างต่อเนื่องจากตัวบ่งชี้ EMA50 โดยแนวโน้มเชิงลบดังกล่าวจะยังคงดำเนินต่อไป เว้นแต่ราคาจะทะลุ 1,000 ดอลลาร์ ซึ่งอาจเปลี่ยนโมเมนตัม ส่งผลให้ราคาเพิ่มขึ้นในระยะสั้นและอาจทดสอบที่ 1,028.80 ดอลลาร์ ก่อนที่จะลดลงอีกครั้ง โดยช่วงราคาที่คาดไว้สำหรับช่วงนี้อยู่ระหว่างแนวรับที่ 960.00 ดอลลาร์และแนวต้านที่ 995.00 ดอลลาร์

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD US Soybeans Futures - Jan 25 (ZSF5)

แนวต้านสำคัญ : 995.50, 996.53, 998.20

แนวรับสำคัญ : 992.16, 991.13, 989.46                  

1H Outlook                              

ที่มา: TradingView                               

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 989.16 - 992.16 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 992.16 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 996.41 และ SL ที่ประมาณ 987.66 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 995.50 - 998.50 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1001.10 และ SL ที่ประมาณ 990.66 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 995.50 - 998.50 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 995.50 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 989.46 และ SL ที่ประมาณ 1000.00 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 989.16 - 992.16 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 987.67 และ SL ที่ประมาณ 997.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Oct 31, 2024 04:04PM GMT+7