ธนาคารกลางอังกฤษเตรียมหั่นดอกเบี้ย หลังเงินเฟ้อร่วง ขณะเศรษฐกิจชะลอตัวและแรงกดดันด้านการคลังเพิ่ม
ธนาคารแห่งอังกฤษ (BoE) คาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 จุดในการประชุมครั้งหน้า เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อของอังกฤษแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปีที่ 1.7% ในเดือนกันยายน ขณะที่งบประมาณล่าสุดของรัฐบาลพรรคแรงงาน ซึ่งเพิ่มการกู้ยืมและการใช้จ่าย ทำให้ต้นทุนการกู้ยืมของอังกฤษสูงขึ้น ส่งผลให้การตัดสินใจของ BoE มีความซับซ้อนขึ้น แม้ว่าในขณะนี้ นักลงทุนคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยน้อยลงในปีหน้า แต่บรรดานักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกเพียงครั้งเดียวในเดือนธันวาคม
ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ความเชื่อมั่นของบริษัทในอังกฤษอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 1 ปี ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความไม่แน่นอนทั่วโลก และการคาดการณ์ของรัฐบาลใหม่ที่จะปรับขึ้นภาษีเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดดุลงบประมาณ 22,000 ล้านปอนด์ ขณะที่การกู้ยืมของภาครัฐเพิ่มขึ้นเป็น 79,600 ล้านปอนด์ กดดันให้รัฐบาลต้องบริหารจัดการการใช้จ่ายไปพร้อมกับกระตุ้นการลงทุนและโครงสร้างพื้นฐาน นอกจากนี้ ค่าจ้างขั้นต่ำคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 6.7% ตั้งแต่เดือนเมษายน 2025 เป็นต้นไป ซึ่งจะส่งผลดีต่อผู้มีรายได้น้อย แต่สร้างความท้าทายต่อนายจ้าง
ขณะเดียวกัน เรเชล รีฟส์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของอังกฤษกำลังจัดทำงบประมาณชุดแรกของรัฐบาล ท่ามกลางแรงกดดันในการสร้างสมดุลระหว่างแผนการเติบโตกับข้อจำกัดทางการคลัง ขณะที่นักลงทุนกำลังจับตาดูการปรับเปลี่ยนกฎเกณฑ์ทางการคลังที่อาจเกิดขึ้นเพื่อสนับสนุนการลงทุนระยะยาว และจัดการการขาดดุลอย่างระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงความไม่มั่นคงของตลาด
ทั้งนี้ ในสัปดาห์นี้ คาดว่าจะมีแนวโน้มการเคลื่อนไหวในตลาดโลกที่มากขึ้น เนื่องมาจากการเลือกตั้งสหรัฐฯ และการตัดสินใจด้านนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ใกล้จะมาถึง ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงในการซื้อขายช่วงเช้าของวันจันทร์ในเอเชียสะท้อนถึงความระมัดระวังของนักลงทุน โดยการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างกมลา แฮร์ริส ผู้แทนพรรคเดโมแครต และโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้แทนพรรครีพับลิกัน ประกอบกับความคาดหวังต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม แสดงให้เห็นว่านโยบายทางการคลังของสหรัฐฯ อาจเปลี่ยนแปลงไปในไม่ช้า ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผลตอบแทนพันธบัตรและดอลลาร์
นักวิเคราะห์ชี้ว่านโยบายของทรัมป์น่าจะทำให้เงินเฟ้อและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสูงขึ้น ส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น จากการสำรวจความคิดเห็นล่าสุดแสดงให้เห็นว่าแฮร์ริสมีคะแนนนำเล็กน้อยในไอโอวา ทำให้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งเพิ่มขึ้น ประกอบกับความไม่แน่นอนจากการคาดการณ์ที่เฟดอาจประกาศลดอัตราดอกเบี้ย 25 จุด และมีแนวโน้มที่จะปรับลดอีกครั้งในเดือนธันวาคม
ทางด้านความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ยังทำให้ดอลลาร์น่าดึงดูดใจมากขึ้นในฐานะเครื่องมือป้องกันความเสี่ยง โดย BCA Research แนะนำให้ถือครองตำแหน่งซื้อดอลลาร์ โดยอ้างถึงความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลางและการเผชิญหน้าที่อาจเกิดขึ้นระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันทั่วโลก ขณะที่ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในเอเชีย จากการสนับสนุนรัสเซียของเกาหลีเหนือและความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงในยุโรป ซึ่งมีแนวโน้มว่าสหรัฐฯ จะกำหนดภาษีภายใต้การบริหารของทรัมป์ ยิ่งเน้นย้ำถึงมูลค่าเชิงป้องกันของดอลลาร์
ขณะเดียวกัน กิจกรรมการผลิตของสหรัฐฯ ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือนในเดือนตุลาคม ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการหยุดงานประท้วงของแรงงานและราคาวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงความตึงเครียดในภาคส่วนนี้ แม้จะมีการใช้จ่ายสินค้าที่ยืดหยุ่น นอกจากนี้ ผลการสำรวจใหม่ยังรายงานถึงตำแหน่งงานว่างของพนักงานออฟฟิศทั่วโลกในเดือนกันยายนที่ลดลง ซึ่งเป็นผลมาจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมือง โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร ท่ามกลางการประกาศงบประมาณของสหราชอาณาจักรที่กำลังจะมีขึ้นที่ทำให้บริษัทต่างๆ ระงับการจ้างงานชั่วคราวเพื่อรอการปรับขึ้นของภาษีและการลดการใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ จึงอาจส่งผลให้คู่สกุล GBP/USD คาดว่าจะมีแนวโน้มซื้อขายขึ้นลงในกรอบปัจจุบันไปจนถึงกรอบล่างได้มากขึ้นอีกเล็กน้อยในช่วงนี้
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (30Min) CFD GBP/USD
แนวต้านสำคัญ : 1.2979, 1.2983, 1.2989
แนวรับสำคัญ : 1.2967, 1.2963, 1.2957
30Min Outlook
ที่มา: TradingView
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.2957 - 1.2967 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.2967 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2979 และ SL ที่ประมาณ 1.2952 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.2979 - 1.2989 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2998 และ SL ที่ประมาณ 1.2962 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.2979 - 1.2989 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้าน 1.2979 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2963 และ SL ที่ประมาณ 1.2994 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.2957 - 1.2967 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2945 และ SL ที่ประมาณ 1.2984 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Nov 4, 2024 03:30PM GMT+7
Name
|
S3
|
S2
|
S1
|
Pivot Points
|
R1
|
R2
|
R3
|
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 1.2947 | 1.2957 | 1.2963 | 1.2973 | 1.2979 | 1.2989 | 1.2994 |
Fibonacci | 1.2957 | 1.2963 | 1.2967 | 1.2973 | 1.2979 | 1.2983 | 1.2989 |
Camarilla | 1.2965 | 1.2967 | 1.2968 | 1.2973 | 1.2971 | 1.2972 | 1.2974 |
Woodie's | 1.2945 | 1.2956 | 1.2961 | 1.2972 | 1.2977 | 1.2988 | 1.2992 |
DeMark's | - | - | 1.296 | 1.2972 | 1.2976 | - | - |
ที่มา: Investing 1, Investing 2
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิ