บทวิเคราะห์ GBP/USD วันที่ 4 พฤศจิกายน 2567

Create at 1 month ago (Nov 04, 2024 15:43)

ธนาคารกลางอังกฤษเตรียมหั่นดอกเบี้ย หลังเงินเฟ้อร่วง ขณะเศรษฐกิจชะลอตัวและแรงกดดันด้านการคลังเพิ่ม

ธนาคารแห่งอังกฤษ (BoE) คาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 จุดในการประชุมครั้งหน้า เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อของอังกฤษแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปีที่ 1.7% ในเดือนกันยายน ขณะที่งบประมาณล่าสุดของรัฐบาลพรรคแรงงาน ซึ่งเพิ่มการกู้ยืมและการใช้จ่าย ทำให้ต้นทุนการกู้ยืมของอังกฤษสูงขึ้น ส่งผลให้การตัดสินใจของ BoE มีความซับซ้อนขึ้น แม้ว่าในขณะนี้ นักลงทุนคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยน้อยลงในปีหน้า แต่บรรดานักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกเพียงครั้งเดียวในเดือนธันวาคม

ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ความเชื่อมั่นของบริษัทในอังกฤษอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 1 ปี ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความไม่แน่นอนทั่วโลก และการคาดการณ์ของรัฐบาลใหม่ที่จะปรับขึ้นภาษีเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดดุลงบประมาณ 22,000 ล้านปอนด์ ขณะที่การกู้ยืมของภาครัฐเพิ่มขึ้นเป็น 79,600 ล้านปอนด์ กดดันให้รัฐบาลต้องบริหารจัดการการใช้จ่ายไปพร้อมกับกระตุ้นการลงทุนและโครงสร้างพื้นฐาน นอกจากนี้ ค่าจ้างขั้นต่ำคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 6.7% ตั้งแต่เดือนเมษายน 2025 เป็นต้นไป ซึ่งจะส่งผลดีต่อผู้มีรายได้น้อย แต่สร้างความท้าทายต่อนายจ้าง

ขณะเดียวกัน เรเชล รีฟส์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของอังกฤษกำลังจัดทำงบประมาณชุดแรกของรัฐบาล ท่ามกลางแรงกดดันในการสร้างสมดุลระหว่างแผนการเติบโตกับข้อจำกัดทางการคลัง ขณะที่นักลงทุนกำลังจับตาดูการปรับเปลี่ยนกฎเกณฑ์ทางการคลังที่อาจเกิดขึ้นเพื่อสนับสนุนการลงทุนระยะยาว และจัดการการขาดดุลอย่างระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงความไม่มั่นคงของตลาด

ทั้งนี้ ในสัปดาห์นี้ คาดว่าจะมีแนวโน้มการเคลื่อนไหวในตลาดโลกที่มากขึ้น เนื่องมาจากการเลือกตั้งสหรัฐฯ และการตัดสินใจด้านนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ใกล้จะมาถึง ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงในการซื้อขายช่วงเช้าของวันจันทร์ในเอเชียสะท้อนถึงความระมัดระวังของนักลงทุน โดยการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างกมลา แฮร์ริส ผู้แทนพรรคเดโมแครต และโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้แทนพรรครีพับลิกัน ประกอบกับความคาดหวังต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม แสดงให้เห็นว่านโยบายทางการคลังของสหรัฐฯ อาจเปลี่ยนแปลงไปในไม่ช้า ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผลตอบแทนพันธบัตรและดอลลาร์

นักวิเคราะห์ชี้ว่านโยบายของทรัมป์น่าจะทำให้เงินเฟ้อและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสูงขึ้น ส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น จากการสำรวจความคิดเห็นล่าสุดแสดงให้เห็นว่าแฮร์ริสมีคะแนนนำเล็กน้อยในไอโอวา ทำให้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งเพิ่มขึ้น ประกอบกับความไม่แน่นอนจากการคาดการณ์ที่เฟดอาจประกาศลดอัตราดอกเบี้ย 25 จุด และมีแนวโน้มที่จะปรับลดอีกครั้งในเดือนธันวาคม

ทางด้านความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ยังทำให้ดอลลาร์น่าดึงดูดใจมากขึ้นในฐานะเครื่องมือป้องกันความเสี่ยง โดย BCA Research แนะนำให้ถือครองตำแหน่งซื้อดอลลาร์ โดยอ้างถึงความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลางและการเผชิญหน้าที่อาจเกิดขึ้นระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันทั่วโลก ขณะที่ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในเอเชีย จากการสนับสนุนรัสเซียของเกาหลีเหนือและความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงในยุโรป ซึ่งมีแนวโน้มว่าสหรัฐฯ จะกำหนดภาษีภายใต้การบริหารของทรัมป์ ยิ่งเน้นย้ำถึงมูลค่าเชิงป้องกันของดอลลาร์

ขณะเดียวกัน กิจกรรมการผลิตของสหรัฐฯ ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือนในเดือนตุลาคม ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการหยุดงานประท้วงของแรงงานและราคาวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงความตึงเครียดในภาคส่วนนี้ แม้จะมีการใช้จ่ายสินค้าที่ยืดหยุ่น นอกจากนี้ ผลการสำรวจใหม่ยังรายงานถึงตำแหน่งงานว่างของพนักงานออฟฟิศทั่วโลกในเดือนกันยายนที่ลดลง ซึ่งเป็นผลมาจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมือง โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร ท่ามกลางการประกาศงบประมาณของสหราชอาณาจักรที่กำลังจะมีขึ้นที่ทำให้บริษัทต่างๆ ระงับการจ้างงานชั่วคราวเพื่อรอการปรับขึ้นของภาษีและการลดการใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ จึงอาจส่งผลให้คู่สกุล GBP/USD คาดว่าจะมีแนวโน้มซื้อขายขึ้นลงในกรอบปัจจุบันไปจนถึงกรอบล่างได้มากขึ้นอีกเล็กน้อยในช่วงนี้

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (30Min) CFD GBP/USD

แนวต้านสำคัญ : 1.2979, 1.2983, 1.2989

แนวรับสำคัญ : 1.2967, 1.2963, 1.2957                         

30Min Outlook          

วิเคราะห์ GBP/USD ที่มา: TradingView        

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.2957 - 1.2967 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.2967 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2979 และ SL ที่ประมาณ 1.2952 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.2979 - 1.2989 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2998 และ SL ที่ประมาณ 1.2962 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.2979 - 1.2989 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้าน 1.2979 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2963 และ SL ที่ประมาณ 1.2994 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.2957 - 1.2967 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2945 และ SL ที่ประมาณ 1.2984 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Nov 4, 2024 03:30PM GMT+7

Name
S3
S2
S1
Pivot Points
R1
R2
R3
Classic 1.2947 1.2957 1.2963 1.2973 1.2979 1.2989 1.2994
Fibonacci 1.2957 1.2963 1.2967 1.2973 1.2979 1.2983 1.2989
Camarilla 1.2965 1.2967 1.2968 1.2973 1.2971 1.2972 1.2974
Woodie's 1.2945 1.2956 1.2961 1.2972 1.2977 1.2988 1.2992
DeMark's - - 1.296 1.2972 1.2976 - -

ที่มา: Investing 1Investing 2

______________________________
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิกที่นี่
รู้เท่าทันสถานการณ์โลกและบทวิเคราะห์เทคนิคขั้นสูง: คลิกที่นี่
Tags:

TECHNICAL ANALYSIS

ARTICLES