บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันที่ 5 พฤศจิกายน 2567

Create at 1 month ago (Nov 05, 2024 10:03)

ฟิวเจอร์สหุ้นสหรัฐฯ ทรงตัว ท่ามกลางความตึงเครียดก่อนเลือกตั้งและประชุมเฟด

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในช่วงเย็นวันจันทร์ โดยทรงตัวหลังจากที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทร่วงลงเมื่อเร็วๆ นี้ เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีและการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้น โดยดัชนีตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปรับตัวลดลงในช่วงเช้าของวัน และยังคงปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากมีการคาดการณ์ถึงเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น ขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อเพิ่มแรงกดดัน เนื่องจากตลาดคาดว่าเฟดจะมีท่าทีผ่อนปรนน้อยลง

การซื้อขายในวันจันทร์ปิดตลาดด้วยหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงเล็กน้อย โดยหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภค การแพทย์ และโทรคมนาคมปรับตัวลดลง ดัชนี S&P 500 ยังคงทรงตัวท่ามกลางความระมัดระวังของตลาดที่เพิ่มขึ้นก่อนการเลือกตั้งและการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย ความรู้สึกของนักลงทุนส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลจากการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างโดนัลด์ ทรัมป์และกมลา แฮร์ริส โดยนักลงทุนบางส่วนเตรียมพร้อมสำหรับชัยชนะที่อาจเกิดขึ้นของทรัมป์ ซึ่งคาดว่าทรัมป์จะใช้มาตรการที่ส่งผลต่อเงินเฟ้อ

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ของ Wedbush สังเกตเห็นความกังวลเกี่ยวกับชัยชนะที่อาจเกิดขึ้นของทรัมป์ที่อาจส่งผลกระทบต่อบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากความขัดแย้งทางเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่อาจเกิดขึ้นและการขึ้นภาษีศุลกากรที่อาจส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานและส่งผลกระทบต่อบริษัทต่างๆ เช่น Nvidia, Apple และ Tesla

ทางด้านหุ้นพลังงานหนุนดัชนี S&P เพิ่มขึ้น 1.87% จากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นหลังจากที่ OPEC+ ตัดสินใจเลื่อนการเพิ่มปริมาณการผลิต ขณะที่ Nvidia เพิ่มขึ้นเล็กน้อย และหุ้น Intel ร่วงลงหลังมีข่าวถูกถอดออกจากดัชนีดาวโจนส์ ท่ามกลางหุ้นของ Constellation Energy ที่ร่วงลงอย่างรวดเร็วหลังจากหน่วยงานกำกับดูแลปฏิเสธข้อตกลงด้านพลังงานที่เกี่ยวข้องกับ Amazon

ในการอัปเดตผลประกอบการล่าสุด ผลประกอบการไตรมาส 3 ของ Berkshire Hathaway ต่ำกว่าที่คาดไว้ ส่งผลให้หุ้นลดลง 2% ในขณะที่การคาดการณ์กำไรที่ลดลงของ Marriott ท่ามกลางความต้องการเดินทางที่ซบเซา ทำให้หุ้นลดลง 1.6% Viking Therapeutics ร่วงลง 13% จากความกังวลด้านการผลิต แม้จะมีผลการทดลองในเชิงบวก ในขณะเดียวกัน กำไรที่แข็งแกร่งของ Palantir ทำให้หุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้นเกือบ 13% และการเปลี่ยนแปลงซีอีโอของ Dollar Tree ทำให้หุ้นเพิ่มขึ้น 6.3% ซึ่งสะท้อนถึงแนวโน้มที่หลากหลายในฤดูกาลรายงานรายได้ประจำไตรมาส

ทางด้านดัชนีความผันผวน CBOE เพิ่มขึ้นเป็น 21.94 ใกล้ระดับสูงสุดในรอบสองเดือนล่าสุด เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 25 จุดในวันพฤหัสบดี โดยพบความเป็นไปได้ 98%

ทั้งนี้ นักลงทุนยังคงตึงเครียด เนื่องจากการสำรวจความคิดเห็นบ่งชี้ว่าการแข่งขันระหว่างโดนัลด์ ทรัมป์และกมลา แฮร์ริสจะมีความสูสีกันมากก่อนการเลือกตั้งในวันอังคาร แม้ว่าทรัมป์จะได้คะแนนนิยมเพิ่มขึ้นในช่วงแรก แต่การสำรวจความคิดเห็นล่าสุดแสดงให้เห็นว่าแฮร์ริสนำหน้า โดยเฉพาะในรัฐไอโอวา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อ "ทรัมป์เทรด" ขณะที่ดอลลาร์และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลลดลง โดยคาดว่าทรัมป์จะดำเนินนโยบายการค้าที่เข้มงวดยิ่งขึ้นและส่งผลกระทบต่อเงินเฟ้อ ซึ่งนักวิเคราะห์เชื่อว่าอาจส่งผลกระทบต่อภาคเทคโนโลยี ท่ามกลางแฮร์ริสที่เสนอให้เพิ่มภาษีบุคคลและบริษัทที่มีฐานะร่ำรวย รวมถึงลดหย่อนภาษีสำหรับครัวเรือน

อย่างไรก็ดี ท่ามกลางความสนใจในการเลือกตั้ง ฤดูกาลผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ยังคงดำเนินต่อไป โดยบริษัทต่างๆ เช่น Builders FirstSource, Ferrari และ Super Micro Computer จะรายงานผลประกอบการในวันอังคาร Qualcomm, CVS และ Arm Holdings จะรายงานผลประกอบการในวันพุธ และนักลงทุนจะคอยติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีความของ Arm ที่มีต่อ Qualcomm ขณะที่ Pinterest, DraftKings, Cloudflare และ Affirm จะรายงานผลประกอบการในวันพฤหัสบดี

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD US 500 [S&P 500]

แนวต้านสำคัญ : 5719.7, 5722.8, 5728.0

แนวรับสำคัญ : 5709.3, 5706.2, 5701.0                           

1H Outlook   

วิเคราะห์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่มา: TradingView                         

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 5697.3 - 5709.3 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 5709.3 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 5722.9 และ SL ที่ประมาณ 5691.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 5719.7 - 5731.7 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 5745.0 และ SL ที่ประมาณ 5703.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 5719.7 - 5731.7 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 5719.7 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 5709.3 และ SL ที่ประมาณ 5738.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 5697.3 - 5709.3 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 5682.0 และ SL ที่ประมาณ 5726.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Nov 5, 2024 09:24AM GMT+7

Name
S3
S2
S1
Pivot Points
R1
R2
R3

Classic

5695.9 5701 5709.4 5714.5 5722.9 5728 5736.4
Fibonacci 5701 5706.2 5709.3 5714.5 5719.7 5722.8 5728
Camarilla 5714.2 5715.4 5716.7 5714.5 5719.1 5720.4 5721.6
Woodie's 5697.7 5701.9 5711.2 5715.4 5724.7 5728.9 5738.2
DeMark's - - 5712 5715.8 5725.5 - -

ที่มา: Investing 1Investing 2

______________________________
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิกที่นี่
รู้เท่าทันสถานการณ์โลกและบทวิเคราะห์เทคนิคขั้นสูง: คลิกที่นี่
Tags:

TECHNICAL ANALYSIS

ARTICLES