ฟิวเจอร์สหุ้นสหรัฐฯ ทรงตัว ท่ามกลางความตึงเครียดก่อนเลือกตั้งและประชุมเฟด
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในช่วงเย็นวันจันทร์ โดยทรงตัวหลังจากที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทร่วงลงเมื่อเร็วๆ นี้ เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีและการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้น โดยดัชนีตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปรับตัวลดลงในช่วงเช้าของวัน และยังคงปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากมีการคาดการณ์ถึงเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น ขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อเพิ่มแรงกดดัน เนื่องจากตลาดคาดว่าเฟดจะมีท่าทีผ่อนปรนน้อยลง
การซื้อขายในวันจันทร์ปิดตลาดด้วยหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงเล็กน้อย โดยหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภค การแพทย์ และโทรคมนาคมปรับตัวลดลง ดัชนี S&P 500 ยังคงทรงตัวท่ามกลางความระมัดระวังของตลาดที่เพิ่มขึ้นก่อนการเลือกตั้งและการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย ความรู้สึกของนักลงทุนส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลจากการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างโดนัลด์ ทรัมป์และกมลา แฮร์ริส โดยนักลงทุนบางส่วนเตรียมพร้อมสำหรับชัยชนะที่อาจเกิดขึ้นของทรัมป์ ซึ่งคาดว่าทรัมป์จะใช้มาตรการที่ส่งผลต่อเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ของ Wedbush สังเกตเห็นความกังวลเกี่ยวกับชัยชนะที่อาจเกิดขึ้นของทรัมป์ที่อาจส่งผลกระทบต่อบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากความขัดแย้งทางเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่อาจเกิดขึ้นและการขึ้นภาษีศุลกากรที่อาจส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานและส่งผลกระทบต่อบริษัทต่างๆ เช่น Nvidia, Apple และ Tesla
ทางด้านหุ้นพลังงานหนุนดัชนี S&P เพิ่มขึ้น 1.87% จากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นหลังจากที่ OPEC+ ตัดสินใจเลื่อนการเพิ่มปริมาณการผลิต ขณะที่ Nvidia เพิ่มขึ้นเล็กน้อย และหุ้น Intel ร่วงลงหลังมีข่าวถูกถอดออกจากดัชนีดาวโจนส์ ท่ามกลางหุ้นของ Constellation Energy ที่ร่วงลงอย่างรวดเร็วหลังจากหน่วยงานกำกับดูแลปฏิเสธข้อตกลงด้านพลังงานที่เกี่ยวข้องกับ Amazon
ในการอัปเดตผลประกอบการล่าสุด ผลประกอบการไตรมาส 3 ของ Berkshire Hathaway ต่ำกว่าที่คาดไว้ ส่งผลให้หุ้นลดลง 2% ในขณะที่การคาดการณ์กำไรที่ลดลงของ Marriott ท่ามกลางความต้องการเดินทางที่ซบเซา ทำให้หุ้นลดลง 1.6% Viking Therapeutics ร่วงลง 13% จากความกังวลด้านการผลิต แม้จะมีผลการทดลองในเชิงบวก ในขณะเดียวกัน กำไรที่แข็งแกร่งของ Palantir ทำให้หุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้นเกือบ 13% และการเปลี่ยนแปลงซีอีโอของ Dollar Tree ทำให้หุ้นเพิ่มขึ้น 6.3% ซึ่งสะท้อนถึงแนวโน้มที่หลากหลายในฤดูกาลรายงานรายได้ประจำไตรมาส
ทางด้านดัชนีความผันผวน CBOE เพิ่มขึ้นเป็น 21.94 ใกล้ระดับสูงสุดในรอบสองเดือนล่าสุด เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 25 จุดในวันพฤหัสบดี โดยพบความเป็นไปได้ 98%
ทั้งนี้ นักลงทุนยังคงตึงเครียด เนื่องจากการสำรวจความคิดเห็นบ่งชี้ว่าการแข่งขันระหว่างโดนัลด์ ทรัมป์และกมลา แฮร์ริสจะมีความสูสีกันมากก่อนการเลือกตั้งในวันอังคาร แม้ว่าทรัมป์จะได้คะแนนนิยมเพิ่มขึ้นในช่วงแรก แต่การสำรวจความคิดเห็นล่าสุดแสดงให้เห็นว่าแฮร์ริสนำหน้า โดยเฉพาะในรัฐไอโอวา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อ "ทรัมป์เทรด" ขณะที่ดอลลาร์และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลลดลง โดยคาดว่าทรัมป์จะดำเนินนโยบายการค้าที่เข้มงวดยิ่งขึ้นและส่งผลกระทบต่อเงินเฟ้อ ซึ่งนักวิเคราะห์เชื่อว่าอาจส่งผลกระทบต่อภาคเทคโนโลยี ท่ามกลางแฮร์ริสที่เสนอให้เพิ่มภาษีบุคคลและบริษัทที่มีฐานะร่ำรวย รวมถึงลดหย่อนภาษีสำหรับครัวเรือน
อย่างไรก็ดี ท่ามกลางความสนใจในการเลือกตั้ง ฤดูกาลผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ยังคงดำเนินต่อไป โดยบริษัทต่างๆ เช่น Builders FirstSource, Ferrari และ Super Micro Computer จะรายงานผลประกอบการในวันอังคาร Qualcomm, CVS และ Arm Holdings จะรายงานผลประกอบการในวันพุธ และนักลงทุนจะคอยติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีความของ Arm ที่มีต่อ Qualcomm ขณะที่ Pinterest, DraftKings, Cloudflare และ Affirm จะรายงานผลประกอบการในวันพฤหัสบดี
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD US 500 [S&P 500]
แนวต้านสำคัญ : 5719.7, 5722.8, 5728.0
แนวรับสำคัญ : 5709.3, 5706.2, 5701.0
1H Outlook
ที่มา: TradingView
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 5697.3 - 5709.3 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 5709.3 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 5722.9 และ SL ที่ประมาณ 5691.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 5719.7 - 5731.7 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 5745.0 และ SL ที่ประมาณ 5703.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 5719.7 - 5731.7 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 5719.7 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 5709.3 และ SL ที่ประมาณ 5738.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 5697.3 - 5709.3 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 5682.0 และ SL ที่ประมาณ 5726.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Nov 5, 2024 09:24AM GMT+7
Name
|
S3
|
S2
|
S1
|
Pivot Points
|
R1
|
R2
|
R3
|
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic |
5695.9 | 5701 | 5709.4 | 5714.5 | 5722.9 | 5728 | 5736.4 |
Fibonacci | 5701 | 5706.2 | 5709.3 | 5714.5 | 5719.7 | 5722.8 | 5728 |
Camarilla | 5714.2 | 5715.4 | 5716.7 | 5714.5 | 5719.1 | 5720.4 | 5721.6 |
Woodie's | 5697.7 | 5701.9 | 5711.2 | 5715.4 | 5724.7 | 5728.9 | 5738.2 |
DeMark's | - | - | 5712 | 5715.8 | 5725.5 | - | - |
ที่มา: Investing 1, Investing 2
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิ