GDP ของยูโรโซนเติบโตได้ดีกว่าที่คาด

ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเล็กน้อยในช่วงอาทิตที่ผ่านมาและมีแนวโน้มอ่อนค่าลงต่อในสัปดาห์นี้ โดยได้รับแรงกดดันจากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นและความวุ่นวายทางการเมืองในเยอรมนี นอกจากนี้ การที่ได้เห็น โดนัลด์ ทรัมป์ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอีกครั้ง ทำให้เกิดความกังวลในยุโรปเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงการเรียกเก็บภาษีการนำเข้าที่อาจเกิดขึ้นด้วย ด้านนักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรปจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 bps ในเดือนธันวาคม

การปล่อยสินเชื่อของธนาคารให้แก่ภาคครัวเรือนในยูโรโซนเพิ่มขึ้น 0.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 6.900 ล้านล้านยูโรในเดือนกันยายน ในขณะเดียวกัน การปล่อยสินเชื่อแก่บริษัทต่างๆ เพิ่มขึ้น 1.1% สู่ระดับ 5.160 ล้านล้านยูโร แสดงให้เห็นถึงความสามารในการปรับตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศได้ดี นอกจากนี้ ความสามารถในการใช้จ่ายของภาคครัวเรือนยังไม่ลดลงมากนัก

GDP ของยูโรโซนขยายตัว 0.4% ในไตรมาสที่ 3 และเมื่อเทียบเป็นรายปีพบว่าขยายตัว 0.9% ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบ 2 ปี และเป็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องหลังจากที่ขยายตัว 0.2% ในไตรมาสที่ 2 และสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 0.2% โดยเศรษฐกิจเยอรมนีกลับมาขยายตัวอีกครั้งที่ 0.2% ทำให้สามารถหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยทางเทคนิคได้ นอกจากนี้ GDP ของฝรั่งเศสยังคงเติบโตได้ดีที่ 0.4% จาก 0.2% ในไตรมาสที่ 2 และเศรษฐกิจสเปนยังคงมีแนวโน้มแข็งแกร่ง โดยเติบโตถึง 0.8% โดยรวมแล้วประเทศในยูโรโซนส่วนใหญ่สามารถขยายตัวได้ดีในไตรมาสที่ 3 ทำให้มีการคาดการณ์ว่า GDP ของยูโรโซนจะขยายตัว 0.8% ในปีนี้ และได้รับแรงสนับสนุนจากแรงกดดันด้านอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงด้วย

อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนพุ่งขึ้นแตะระดับ 2% อีกครั้งเมื่อเทียบเป็นรายปี ในเดือนตุลาคม จากระดับ 1.7% ในเดือนกันยายน โดยการเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปีนี้คาดว่าจะเกิดขึ้นจากผลกระทบจากการลดลงอย่างรวดเร็วของราคาพลังงานในปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อได้บรรลุเป้าหมายของธนาคารกลางยุโรปแล้ว โดยต้นทุนพลังงานลดลงในอัตราที่ช้าลงที่ 4.6% ในขณะเดียวกัน อัตราเงินเฟ้อภาคบริการยังคงทรงตัวที่ 3.9% ในขณะเดียวกัน อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานซึ่งไม่รวมราคาพลังงาน, อาหารและเครื่องดื่ม ไม่เปลี่ยนแปลงที่ 2.7% ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่ปี 2022

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในยูโรโซนเพิ่มขึ้น 0.4 จุดจากเดือนก่อนหน้าเป็น -12.5 ในเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นค่าที่ดีที่สุดตั้งแต่ปี 2022 อย่างไรก็ตาม ดัชนีดังกล่าวยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว โดยความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นนี้ได้รับแรงหนุนจากมุมมองที่ดีขึ้นของผู้บริโภคเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเงินในครัวเรือน ทั้งในปัจจุบันและอนาคต อย่างไรก็ตาม ความคาดหวังของผู้บริโภคเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจโดยรวมมีมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้น

ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจในยูโรโซนลดลงเล็กน้อยจนมาอยู่ที่ 95.6 ในเดือนตุลาคม จาก 96.3 ในเดือนก่อนหน้า การลดลงนี้ส่วนใหญ่เกิดจากความเชื่อมั่นที่ลดลงในกลุ่มอุตสาหกรรมทั้งในภาคการผลิตและบริการ ท่ามกลางการลดลงของกำลังการผลิตและคำสั่งซื้อใหม่ อย่างไรก็ตาม ภาคบริการยังคงมีความเชื่อมั่นที่เป็นบวกมากขึ้น เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากคำสั่งซื้อใหม่ที่ยังคงทรงตัว