ธนาคารกลางแคนาดาลดดอกเบี้ย 50 จุด ปรับสมดุลเงินเฟ้อและการเติบโตเศรษฐกิจ
ธนาคารกลางแคนาดา (BoC) ได้เริ่มเส้นทางการผ่อนคลายนโยบายการเงินเชิงรุก ด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 50 จุด สู่ระดับ 3.75% ในเดือนตุลาคม ซึ่งสะท้อนถึงการปรับสมดุลเศรษฐกิจที่ซับซ้อน การลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ถือเป็นการลดครั้งใหญ่ที่สุดในรอบสี่ปี แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจของ BoC ว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อจะชะลอตัวลงต่อเนื่อง ส่งผลให้สามารถใช้นโยบายที่ไม่เข้มงวดได้มากขึ้น
ทั้งนี้ แม้ว่าจะมีการพิจารณาที่จะลดอัตราดอกเบี้ยลงในระดับที่น้อยกว่า แต่คณะกรรมการของ BoC เห็นพ้องในการปรับลด 50 จุด โดยมองว่าการชะลอตัวในตลาดแรงงานและความจำเป็นในการกระตุ้นการเติบโตอย่างยั่งยืนเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับมาตรการที่เด็ดขาด อย่างไรก็ตาม การปรับลดครั้งใหญ่นี้ ได้ส่งผลให้เกิดความระมัดระวังที่อาจก่อให้เกิดความคาดหวังของสาธารณะในการลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง หรืออาจสร้างความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอมากขึ้น
อย่างไรก็ดี สภาพเศรษฐกิจของแคนาดาได้นำมาซึ่งความท้าทายที่ซับซ้อนในการผ่อนคลายครั้งนี้ แม้ว่าเงินเฟ้อจะลดลงเหลือ 1.6% และมีภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แต่ตลาดแรงงานในประเทศยังคงมีความตึงเครียด โดยการเติบโตของแรงงานที่ขับเคลื่อนโดยการย้ายถิ่นฐานถึงระดับสูงสุดที่ 7% ของประชากร ขณะที่จำนวนงานว่างในเดือนตุลาคมต่ำกว่าคาดการณ์และอัตราว่างงานคงอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 34 เดือนที่ 6.5% โดยแม้ว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นบางส่วน แต่จำนวนงานพาร์ทไทม์ยังคงลดลง และการเติบโตของค่าจ้างได้เพิ่มขึ้นเป็น 4.9% ต่อปีสำหรับพนักงานประจำ ชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการลดอัตราดอกเบี้ยอย่างระมัดระวังเพื่อป้องกันการเร่งขึ้นของเงินเฟ้อ
นอกจากนี้ BoC ยังเผชิญกับปัญหาเชิงโครงสร้างเกี่ยวกับความสามารถในการจ่ายที่อยู่อาศัย ซึ่งถูกกระตุ้นโดยโครงสร้างสินเชื่อจำนองเฉพาะของแคนาดาที่มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ระยะสั้นและสามารถต่ออายุได้ โดยเกือบ 60% ของสินเชื่อจำนองจะครบกำหนดต่ออายุภายในสองปีข้างหน้า ทำให้หลายครัวเรือนต้องเผชิญกับการชำระเงินที่สูงขึ้น แม้ว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยล่าสุด โดยรองผู้ว่าการอาวุโส แคโรลีน โรเจอร์ส เน้นย้ำว่าการแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยต้องใช้แนวทางที่สมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานมากกว่าการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสินเชื่อจำนอง แม้ว่าจะมีข้อแนะนำถึงอัตราคงที่ 30 ปีแบบสหรัฐฯ อาจช่วยลดความผันผวนได้
ในส่วนของการค้าระหว่างประเทศ ภาคการค้าของแคนาดากำลังประสบปัญหา โดยมีการขาดดุลการค้าที่มากกว่าที่คาดการณ์ถึง 1.26 พันล้านดอลลาร์แคนาดาในเดือนกันยายน แม้ว่าปริมาณการส่งออกจะเพิ่มขึ้น แต่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกที่ลดลง โดยเฉพาะน้ำมันและโลหะ ทำให้มูลค่าการส่งออกลดลง อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ชี้ว่าการเพิ่มขึ้นของปริมาณการส่งออกส่งสัญญาณถึงแรงกระตุ้นบางอย่างที่อาจช่วยการค้าในไตรมาสที่สี่ แม้อัตราดอกเบี้ยที่สูงจะเป็นปัจจัยที่ชะลอความต้องการภายในประเทศและมีผลต่อการคาดการณ์การเติบโต
ทางด้านภาคบริการและภาคการผลิตของแคนาดาแสดงสัญญาณการฟื้นตัวเล็กน้อย โดยทั้งสองภาคส่วนผ่านเกณฑ์ PMI ที่ 50 จุดเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน ขณะที่มาตรการผ่อนคลายของ BoC ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นทางธุรกิจได้เล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ต้นทุนปัจจัยการผลิตที่ยังสูงทำให้ BoC ต้องระมัดระวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม โดยนักลงทุนกำลังจับตาการตัดสินใจของ BoC ในเดือนธันวาคม และคาดการณ์ว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยอีก 50 จุด โดยการตัดสินใจครั้งต่อไปจะขึ้นอยู่กับการพิจารณาข้อมูลใหม่ รวมถึงการจ้างงาน อัตราเงินเฟ้อ และ GDP ขณะที่ธนาคารกลางแคนาดาพยายามรักษาสมดุลระหว่างการกระตุ้นการเติบโตและการป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจที่ยังคงเปราะบางร้อนแรงจนเกินไป
ในสหรัฐฯ ดอลลาร์เปิดตลาดอย่างระมัดระวังในวันจันทร์ เนื่องจากตลาดคาดการณ์ข้อมูลเงินเฟ้อสำคัญและคำแถลงจากเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐฯ หลายรายในสัปดาห์นี้ นักวิเคราะห์คาดว่านโยบายของทรัมป์จะเพิ่มอัตราเงินเฟ้อและอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ซึ่งอาจจำกัดความยืดหยุ่นของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการผ่อนคลายอัตราดอกเบี้ย ขณะที่นักวิเคราะห์จาก JPMorgan คาดการณ์ว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยอีก 25 จุดในเดือนธันวาคม และคาดว่าจะพบอัตราที่ชะลอตัวลงในการลดอัตราดอกเบี้ย ท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยนโยบายสูงสุดที่คาดว่าจะอยู่ที่ 3.5%
ในขณะเดียวกัน ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ อยู่ในระดับสูงสุดในรอบเจ็ดเดือนช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน โดยเฉพาะในกลุ่มที่สนับสนุนพรรครีพับลิกัน ขณะที่ชุดคำแถลงจากเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐฯ รวมถึงประธานเจอโรม พาวเวล ในวันพฤหัสบดี จะให้ข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ ข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดีจะถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด หากตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานสูงกว่าคาดที่ 0.3% ก็อาจลดความเป็นไปได้ของการลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม ซึ่งจะสนับสนุนมูลค่าของดอลลาร์ในระยะยาว จึงอาจส่งผลให้เงินดอลลาร์แคนาดามีแนวโน้มปรับตัวขึ้นลงในกรอบปัจจุบันไปจนถึงกรอบบนได้อีกเล็กน้อย โดยคาดว่าจะยังคงแนวโน้มอ่อนค่ากว่าดอลลาร์สหรัฐฯ ได้อย่างต่อเนื่องในช่วงนี้
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD USD/CAD
แนวต้านสำคัญ : 1.3920, 1.3922, 1.3926
แนวรับสำคัญ : 1.3914, 1.3912, 1.3908
1H Outlook
ที่มา: TradingView
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.3908 - 1.3914 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.3914 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3922 และ SL ที่ประมาณ 1.3905 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3920 - 1.3926 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3932 และ SL ที่ประมาณ 1.3911 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3920 - 1.3926 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 1.3920 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3913 และ SL ที่ประมาณ 1.3929 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.3908 - 1.3914 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3900 และ SL ที่ประมาณ 1.3923 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Nov 11, 2024 10:02AM GMT+7
Name
|
S3
|
S2
|
S1
|
Pivot Points
|
R1
|
R2
|
R3
|
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 1.3905 | 1.3908 | 1.3913 | 1.3917 | 1.3922 | 1.3926 | 1.3931 |
Fibonacci | 1.3908 | 1.3912 | 1.3914 | 1.3917 | 1.392 | 1.3922 | 1.3926 |
Camarilla | 1.3915 | 1.3916 | 1.3917 | 1.3917 | 1.3918 | 1.3919 | 1.392 |
Woodie's | 1.3905 | 1.3908 | 1.3913 | 1.3917 | 1.3922 | 1.3926 | 1.3931 |
DeMark's | - | - | 1.3914 | 1.3918 | 1.3923 | - | - |
ที่มา: Investing 1, Investing 2
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิ