บทวิเคราะห์ AUD/USD วันที่ 13 พฤศจิกายน 2567

Create at 1 month ago (Nov 13, 2024 10:28)

ดอลลาร์ออสเตรเลียเผชิญแรงกดดันจากจีนชะลอตัว การเติบโตของค่าจ้างที่ลดลง และการคงอัตราดอกเบี้ยของ RBA

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียกำลังเผชิญกับแรงกดดันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนถึงความกังวลที่กว้างขึ้นเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวและผลกระทบต่อออสเตรเลียเนื่องจากการค้าขายที่ใกล้ชิดระหว่างสองประเทศ ท่ามกลางการเติบโตของค่าแรงในออสเตรเลียที่ชะลอตัวในไตรมาสที่สามเนื่องจากแรงงานใหม่เข้าสู่ตลาดและเงินเฟ้อที่ลดลง ซึ่งอาจชี้ถึงความเป็นไปได้ในการผ่อนคลายนโยบายการเงินมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 4.35% ในเดือนพฤศจิกายน บ่งชี้ว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่ยังไม่แน่นอนเนื่องจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังคงอยู่แม้จะลดลงในช่วงหลัง

โดยแม้ว่าดัชนีเงินเฟ้อทั่วไปจะกลับมาอยู่ในกรอบเป้าหมายของ RBA ที่ 2-3% อยู่ที่ 2.8% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากมาตรการช่วยเหลือชั่วคราวของรัฐบาล แต่เงินเฟ้อพื้นฐานยังคงสูงที่ 3.5% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังคงฝังลึก โดย RBA คาดการณ์ว่าอาจต้องใช้เวลาจนถึงปี 2026 กว่าที่ระดับเงินเฟ้อเป้าหมายจะคงที่ ซึ่งบ่งบอกถึงความท้าทายในการควบคุมเงินเฟ้อในระยะยาว

แม้ว่าการเติบโตของ GDP ในออสเตรเลียจะอ่อนตัวลงและการใช้จ่ายของผู้บริโภคลดลง แต่ตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่งอย่างมาก โดยมีการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นมากกว่าประเทศพัฒนาอื่นๆ ส่งผลให้ธนาคารกลางใช้ความระมัดระวังในการผ่อนคลายนโยบายก่อนเวลา เพราะอาจกระตุ้นเงินเฟ้อพื้นฐานให้กลับมาสูงขึ้นจากแรงกดดันด้านการจ้างงานและต้นทุนที่อยู่อาศัย

ทั้งนี้ นโยบายที่ระมัดระวังของออสเตรเลียแตกต่างอย่างชัดเจนกับแนวทางการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางอื่นๆ โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาและยุโรป ซึ่งเงินเฟ้อกำลังลดลง โดยการรักษาอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงของ RBA จนกว่าเงินเฟ้อจะเสถียรสะท้อนถึงความสำคัญที่ RBA ให้กับเสถียรภาพด้านราคาในระยะยาว แม้ว่าจะต้องยอมสละการเติบโตในระยะสั้นก็ตาม

ในส่วนของผู้บริโภคและภาคธุรกิจ ความเชื่อมั่นเริ่มแสดงสัญญาณของความยืดหยุ่น โดยความเชื่อมั่นทางธุรกิจสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบสองปีในเดือนตุลาคม ซึ่งได้รับแรงหนุนจากยอดขายที่คงที่และแรงกดดันด้านต้นทุนที่ลดลง ส่วนความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับเพิ่มขึ้นในเดือนพฤศจิกายนจากความเชื่อที่ว่าอัตราดอกเบี้ยอาจถึงจุดสูงสุดแล้ว อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นยังคงเปราะบางต่อปัจจัยภายนอก เช่น ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ล่าสุด ซึ่งเพิ่มความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายการค้าทั่วโลกที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดส่งออกหลักของออสเตรเลีย โดยเฉพาะจีน ท่ามกลางแนวโน้มการค้าของออสเตรเลียที่ยังคงหลากหลาย โดยในเดือนกันยายน พบเกินดุลการค้าของออสเตรเลียลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบสี่ปี เนื่องจากการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์หลัก เช่น โลหะและแร่ธาตุลดลงจากความต้องการที่อ่อนแอของจีน

ทางด้านค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงแข็งค่าใกล้ระดับสูงสุดล่าสุด โดยได้แรงหนุนจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนในนโยบายเศรษฐกิจที่คาดว่าจะเกิดขึ้นภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยตลาดกำลังคาดการณ์ถึงการลดภาษีและการเรียกเก็บภาษีศุลกากร ซึ่งคาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและก่อให้เกิดเงินเฟ้อ

ทั้งนี้ แนวโน้มดังกล่าวส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับสูงขึ้น ท่ามกลางการคาดการณ์ของนักลงทุนที่คาดว่าเฟดอาจจะลดความรุนแรงในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม ขณะที่พรรครีพับลิกันที่คาดว่าจะควบคุมสภาคองเกรสได้ ทรัมป์อาจดำเนินนโยบายกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจและลดภาษีได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้คาดการณ์ถึงเงินเฟ้อที่สูงขึ้นเพิ่มขึ้น ส่งผลให้รายงาน CPI ในวันนี้มีความสำคัญ ซึ่งหากเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น อาจส่งผลให้เฟดใช้แนวทางที่ระมัดระวังมากขึ้นในการลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม

ขณะเดียวกัน ผู้บริโภคชาวอเมริกันแสดงความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น ตามการสำรวจของเฟดสาขานิวยอร์ก โดยคาดว่าเงินเฟ้อในระยะใกล้จะลดลง โดยคาดการณ์เงินเฟ้อในหนึ่งปีลดลงเหลือ 2.9% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบสี่ปี ขณะที่การคาดการณ์เงินเฟ้อในระยะสามและห้าปีพบว่าลดลงเช่นกัน แสดงถึงความเชื่อมั่นในเสถียรภาพของราคาระยะยาว

นอกจากนี้ การสำรวจยังแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นในตลาดแรงงาน โดยผู้บริโภคคาดว่าอัตราการว่างงานจะลดน้อยลง และความเสี่ยงต่อการสูญเสียงานอยู่ในระดับต่ำสุดตั้งแต่ต้นปี 2022 ซึ่งความมั่นคงในงานที่ปรับตัวดีขึ้นยังสะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ที่ลดลงเล็กน้อย เนื่องจากครัวเรือนมีความมั่นใจมากขึ้นในการจัดการหนี้สินและการเข้าถึงเครดิต

อย่างไรก็ดี แนวโน้มดังกล่าวสะท้อนถึงภาพเศรษฐกิจที่หลากหลาย ท่ามกลางเงินเฟ้อที่ค่อยๆ ลดลง การจ้างงานที่ยังคงแข็งแกร่ง และเงื่อนไขสินเชื่อที่เริ่มมีเสถียรภาพ อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายทางการคลังที่อาจกระตุ้นเงินเฟ้อภายใต้การบริหารของทรัมป์ยังคงเป็นความไม่แน่นอนใหม่ ซึ่งอาจทำให้เฟดต้องพิจารณาถึงแนวทางการปรับอัตราดอกเบี้ยอย่างรอบคอบ จึงอาจส่งผลให้คู่สกุล AUD/USD มีแนวโน้มซื้อขายขึ้นลงในกรอบปัจจุบันไปจนถึงกรอบล่างได้อีกเล็กน้อยในช่วงนี้

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD AUD/USD

แนวต้านสำคัญ : 0.6540, 0.6542, 0.6545

แนวรับสำคัญ : 0.6534, 0.6532, 0.6529          

1H Outlook  

วิเคราะห์ AUD/USD ที่มา: TradingView          

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 0.6526 - 0.6534 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 0.6534 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 0.6542 และ SL ที่ประมาณ 0.6522 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 0.6540 - 0.6548 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 0.6557 และ SL ที่ประมาณ 0.6530 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 0.6540 - 0.6548 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 0.6540 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 0.6534 และ SL ที่ประมาณ 0.6552 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 0.6526 - 0.6534 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 0.6515 และ SL ที่ประมาณ 0.6544 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Nov 13, 2024 10:08AM GMT+7

Name
S3
S2
S1
Pivot Points
R1
R2
R3
Classic 0.6526 0.6529 0.6534 0.6537 0.6542 0.6545 0.6551
Fibonacci 0.6529 0.6532 0.6534 0.6537 0.654 0.6542 0.6545
Camarilla 0.6536 0.6537 0.6538 0.6537 0.6539 0.654 0.6541
Woodie's 0.6526 0.6529 0.6534 0.6537 0.6542 0.6545 0.6551
DeMark's - - 0.6535 0.6538 0.6543 - -

ที่มา: Investing 1Investing 2

______________________________
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิกที่นี่
รู้เท่าทันสถานการณ์โลกและบทวิเคราะห์เทคนิคขั้นสูง: คลิกที่นี่
Tags:

TECHNICAL ANALYSIS

ARTICLES