รัสเซียยังคงถูกกดดันจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

ต้นแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นมา รูเบิลรัสเซียอ่อนค่าลงมาเหลือน้อยกว่า 100 รูเบิลต่อดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรกในรอบปี เนื่องจากดอลลาร์แข็งค่าหลังการเลือกตั้งของโดนัลด์ ทรัมป์ และแรงกดดันจากการคว่ำบาตรที่กระทบต่อบริษัทส่งออกของรัสเซียโดยตรง ส่งผลให้รัฐบาลจำเป็นต้องผ่อนปรนนโยบายด้านการแปลงเงินตราต่างประเทศของรายได้จาก 80% ให้เหลือเพียง 25% เท่านั้น โดยเฉพาะธุรกิจส่งออกรายใหญ่ ทำให้ความต้องการรูเบิลลดลงอย่างมาก นอกจากนี้ การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนทำให้ความต้องการสินค้าจากรัสเซียลดลงและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ CBR เป็น 21% ยิ่งส่งผลให้รูเบิลเผชิญแรงกดดันมากขึ้น ในขณะที่มีการคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

PMI ภาคการผลิตของรัสเซีย เพิ่มขึ้นเป็น 50.6 จาก 49.5 ในเดือนตุลาคม สะท้อนถึงการฟื้นตัวของกิจกรรมโรงงานเล็กน้อยหลังจากหดตัวลงเมื่อเดือนก่อน โดยส่วนใหญ่ได้รับแรงหนุนมาจากคำสั่งซื้อส่งออกเพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2008 แม้ว่าคำสั่งซื้อใหม่โดยรวมยังคงลดลงก็ตาม ในขณะที่การจ้างงานปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ในด้านต้นทุนการผลิตพบว่ามีการเพิ่มขึ้นอยางรวดเร็วจากอัตราแลกเปลี่ยนที่อ่อนค่าและค่าขนส่งที่สูงขึ้น ส่งผลให้ผู่ผลิตจำเป็นต้องส่งต่อต้นทุนที่สูงขึ้นไปยังลูกค้า

PMI ภาคบริการของรัสเซียเพิ่มขึ้นเป็น 51.6 จาก 50.5 ในเดือนตุลาคม สะท้อนให้เห็นถึงการขยายตัวของผลผลิตที่สามารถทำได้และคำสั่งซื้อใหม่ที่เติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน แม้ว่าจะเริ่มมีสัญญาณแสดงให้เห็นว่าอัตราการเติบโตจะชะลอตัวลงเล็กน้อยก็ตาม ส่งผลให้การจ้างงานขยายตัวเร็วขึ้น สำหรับต้นทุนการผลิตพบว่าอัตราเงินเฟ้อสำหรับต้นทุนการผลิตกลับมาเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้งในรอบหลายเดือนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่อ่อนและการแข่งขันทางด้านราคาที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น

ธนาคารกลางรัสเซียปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 200 bps เป็น 21% ในการประชุมเดือนตุลาคม ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะขึ้น 100 bps และส่งสัญญาณว่าธนาคารกลางรัสเซียมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในการประชุมเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ การตัดสินใจดังกล่าวทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มขึ้นแตะจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพื่อตอบสนองต่อค่าเงินรูเบิลอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วหลังจากที่รัสเซียบุกยูเครนในปี 2022 โดยธนาคารกลางรัสเซียระบุว่าอัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าที่คาดในไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องจากอุปสงค์ในประเทศสูงเกินกว่าศักยภาพของเศรษฐกิจรัสเซีย นอกจากนี้การคว่ำบาตรของชาติตะวันตกและวิกฤตแรงงานที่เกิดขึ้นยังเป็นตัวกระตุ้นให้อัตราเงินเฟ้อยังทวีความรุนแรงขึ้น

อัตราการว่างงานของรัสเซียยังคงอยู่ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2.4% ในเดือนกันยายน นับว่าเป็นการทรงตัวของอัตราการว่างงานที่ต่ำที่สุด 4 เดือนติดต่อกัน ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด เน้นย้ำถึงปัญหาการขาดแคลนแรงงานอย่างต่อเนื่องของประเทศ ซึ่งยังคงถูกกดดันจากการอพยพของวัยทำงานหลังมีการระดมกำลังพลเพื่อใช้เป็นกองกำลังเสริมในความขัดแย้งที่เกิดขึ้นกับอยู่เขต โดยจำนวนผู้ว่างงานทรงตัวอยู่ที่ 1.8 ล้านคน ในเดือนกันยายน