เงินปอนด์ร่วงเร็ว หลังดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่า คาดเฟดลดดอกเบี้ยอย่างระมัดระวัง
สเตอร์ลิงอ่อนตัวลงอีกในสัปดาห์นี้ โดยปรับลดรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี 2023 อันเนื่องมาจากดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้นหลังจากชัยชนะในการเลือกตั้งของโดนัลด์ ทรัมป์ ความอ่อนแอของค่าเงินสะท้อนถึงความกังวลของนักลงทุนในขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่งมากกว่าแนวโน้มของสหราชอาณาจักร แม้นักลงทุนจะยังคงติดตามข่าวการเงินของสหราชอาณาจักร เช่น คำปราศรัยของรัฐมนตรีคลัง ราเชล รีฟส์ ที่แมนชั่นเฮาส์ ซึ่งส่งเสริมโครงการ “เมกะฟันด์” มูลค่า 80 พันล้านปอนด์เพื่อฟื้นฟูกองทุนบำนาญของสหราชอาณาจักร แต่ความสนใจยังคงมุ่งเน้นไปที่ตลาดสหรัฐฯ
ทางด้าน แคทเธอรีน แมนน์ แห่งธนาคารกลางอังกฤษเตือนว่าอัตราเงินเฟ้อของสหราชอาณาจักรยังคงอยู่ในระดับสูงและอาจพุ่งสูงขึ้นจากปัจจัยต่างๆ เช่น ค่าแรง ราคาพลังงาน และต้นทุนบริการ โดยธนาคารกลางอังกฤษได้ปรับประมาณการล่าสุดโดยคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะสูงสุดที่ 2.5% ภายในสิ้นปีนี้และคงอยู่เหนือเป้าหมาย 2% จนถึงปี 2027 ซึ่งสะท้อนถึงแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปในระยะยาว
อย่างไรก็ดี การเติบโตของค่าแรงในสหราชอาณาจักรแสดงให้เห็นถึงการชะลอตัว โดยค่าแรงเฉลี่ยไม่รวมโบนัสเพิ่มขึ้น 4.8% ในไตรมาสที่สาม ลดลงจากเดือนก่อนหน้าแต่ยังสอดคล้องกับที่ธนาคารกลางคาดการณ์ไว้ การชะลอตัวนี้เมื่อรวมกับอัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้น (ปัจจุบันอยู่ที่ 4.3%) และตำแหน่งงานว่างที่ลดลง บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานเริ่มผ่อนคลาย อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายงบประมาณเพิ่มเติมผ่านการปรับขึ้นประกันสังคมและมาตรการทางการคลังอื่นๆ จะยังคงส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ทำให้ธนาคารกลางอังกฤษต้องเผชิญกับความท้าทายในการควบคุมแรงกดดันทางด้านราคาควบคู่ไปกับการเติบโตของเศรษฐกิจ
ทางด้านแนวโน้มการใช้จ่ายของผู้บริโภคสะท้อนให้เห็นว่าผู้ซื้อยังคงระมัดระวังในช่วงก่อนแบล็กฟรายเดย์และคริสต์มาส เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อในสินค้าอุปโภคบริโภคส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อ ขณะที่การคาดการณ์ค่าจ้างในภาครัฐขณะนี้สูงกว่าในภาคเอกชนเนื่องจากการอนุมัติขึ้นค่าจ้างโดยรัฐบาลที่มาจากการขึ้นภาษีธุรกิจ ซึ่งอาจส่งผลต่อแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อในช่วงนี้
ในขณะเดียวกัน ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสหราชอาณาจักรมีการเติบโตที่ชะลอตัวลง โดยราคาบ้านอยู่ในระดับสูงเป็นประวัติการณ์แต่ปรับเพิ่มอย่างค่อยเป็นค่อยไปมากขึ้น ซึ่งอัตราดอกเบี้ยที่สูงและภาษีซื้อที่อยู่อาศัยที่เพิ่งประกาศส่งผลให้ความต้องการชะลอตัว และอาจส่งผลให้ตลาดชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง โดยรายงานของ Halifax ระบุว่าราคาบ้านยังคงทรงตัวตั้งแต่กลางปี 2022 แต่การลดอัตราดอกเบี้ยที่ช้าลงอาจส่งผลต่อความสามารถและการกระตุ้นกิจกรรมในการซื้อบ้าน โดยเฉพาะในช่วงที่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังคงเปราะบางท่ามกลางต้นทุนที่เพิ่มขึ้นและสภาพแวดล้อมทางการเงินที่ท้าทาย
ทางด้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำผลงานรายสัปดาห์ที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบกว่าหนึ่งเดือน หนุนโดยการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่น้อยลง ประกอบกับการคาดการณ์เกี่ยวกับนโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ โดยเฉพาะภาษีการค้าและการลดจำนวนผู้อพยพ ที่อาจทำให้เกิดแรงกดดันต่อเงินเฟ้อเมื่อเข้ารับตำแหน่ง
ทั้งนี้ ข้อมูลเงินเฟ้อในเดือนตุลาคมแสดงให้เห็นการเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้น 2.6% เมื่อเทียบปีต่อปี อันเนื่องมาจากราคาผู้ผลิตที่สูงขึ้นและตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง โดยจำนวนผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานที่ลดลงในสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานและสนับสนุนแนวทางที่ระมัดระวังมากขึ้นของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการกำหนดนโยบายการเงิน และเมื่อรวมกับผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นที่สูงขึ้น ปัจจัยดังกล่าวจึงอาจบ่งชี้ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2025 น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้
อย่างไรก็ดี ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ เจอโรม พาวเวลล์ กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะใช้แนวทางระมัดระวังในการลดอัตราดอกเบี้ย โดยเน้นย้ำถึงพื้นฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ตลาดแรงงานที่ดี และอัตราเงินเฟ้อที่สูงกว่าเป้าหมาย และระบุว่าธนาคารกลางจำต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างรอบคอบเพื่อหลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวที่เร็วหรือช้าเกินไป ซึ่งอาจส่งผลต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (30Min) CFD GBP/USD
แนวต้านสำคัญ : 1.2677, 1.2678, 1.2681
แนวรับสำคัญ : 1.2671, 1.2670, 1.2667
30Min Outlook
ที่มา: TradingView
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.2665 - 1.2671 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.2671 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2678 และ SL ที่ประมาณ 1.2662 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.2677 - 1.2683 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2692 และ SL ที่ประมาณ 1.2668 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.2677 - 1.2683 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้าน 1.2677 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2671 และ SL ที่ประมาณ 1.2686 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.2665 - 1.2671 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2658 และ SL ที่ประมาณ 1.2680 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Nov 15, 2024 09:54AM GMT+7
Name
|
S3
|
S2
|
S1
|
Pivot Points
|
R1
|
R2
|
R3
|
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 1.2664 | 1.2667 | 1.2671 | 1.2674 | 1.2678 | 1.2681 | 1.2685 |
Fibonacci | 1.2667 | 1.267 | 1.2671 | 1.2674 | 1.2677 | 1.2678 | 1.2681 |
Camarilla | 1.2673 | 1.2674 | 1.2674 | 1.2674 | 1.2676 | 1.2676 | 1.2677 |
Woodie's | 1.2664 | 1.2667 | 1.2671 | 1.2674 | 1.2678 | 1.2681 | 1.2685 |
DeMark's | - | - | 1.2673 | 1.2675 | 1.268 | - | - |
ที่มา: Investing 1, Investing 2
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิ