บทวิเคราะห์ GBP/USD วันที่ 15 พฤศจิกายน 2567

Create at 6 days ago (Nov 15, 2024 10:13)

เงินปอนด์ร่วงเร็ว หลังดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่า คาดเฟดลดดอกเบี้ยอย่างระมัดระวัง

สเตอร์ลิงอ่อนตัวลงอีกในสัปดาห์นี้ โดยปรับลดรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี 2023 อันเนื่องมาจากดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้นหลังจากชัยชนะในการเลือกตั้งของโดนัลด์ ทรัมป์ ความอ่อนแอของค่าเงินสะท้อนถึงความกังวลของนักลงทุนในขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่งมากกว่าแนวโน้มของสหราชอาณาจักร แม้นักลงทุนจะยังคงติดตามข่าวการเงินของสหราชอาณาจักร เช่น คำปราศรัยของรัฐมนตรีคลัง ราเชล รีฟส์ ที่แมนชั่นเฮาส์ ซึ่งส่งเสริมโครงการ “เมกะฟันด์” มูลค่า 80 พันล้านปอนด์เพื่อฟื้นฟูกองทุนบำนาญของสหราชอาณาจักร แต่ความสนใจยังคงมุ่งเน้นไปที่ตลาดสหรัฐฯ

ทางด้าน แคทเธอรีน แมนน์ แห่งธนาคารกลางอังกฤษเตือนว่าอัตราเงินเฟ้อของสหราชอาณาจักรยังคงอยู่ในระดับสูงและอาจพุ่งสูงขึ้นจากปัจจัยต่างๆ เช่น ค่าแรง ราคาพลังงาน และต้นทุนบริการ โดยธนาคารกลางอังกฤษได้ปรับประมาณการล่าสุดโดยคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะสูงสุดที่ 2.5% ภายในสิ้นปีนี้และคงอยู่เหนือเป้าหมาย 2% จนถึงปี 2027 ซึ่งสะท้อนถึงแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปในระยะยาว

อย่างไรก็ดี การเติบโตของค่าแรงในสหราชอาณาจักรแสดงให้เห็นถึงการชะลอตัว โดยค่าแรงเฉลี่ยไม่รวมโบนัสเพิ่มขึ้น 4.8% ในไตรมาสที่สาม ลดลงจากเดือนก่อนหน้าแต่ยังสอดคล้องกับที่ธนาคารกลางคาดการณ์ไว้ การชะลอตัวนี้เมื่อรวมกับอัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้น (ปัจจุบันอยู่ที่ 4.3%) และตำแหน่งงานว่างที่ลดลง บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานเริ่มผ่อนคลาย อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายงบประมาณเพิ่มเติมผ่านการปรับขึ้นประกันสังคมและมาตรการทางการคลังอื่นๆ จะยังคงส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ทำให้ธนาคารกลางอังกฤษต้องเผชิญกับความท้าทายในการควบคุมแรงกดดันทางด้านราคาควบคู่ไปกับการเติบโตของเศรษฐกิจ

ทางด้านแนวโน้มการใช้จ่ายของผู้บริโภคสะท้อนให้เห็นว่าผู้ซื้อยังคงระมัดระวังในช่วงก่อนแบล็กฟรายเดย์และคริสต์มาส เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อในสินค้าอุปโภคบริโภคส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อ ขณะที่การคาดการณ์ค่าจ้างในภาครัฐขณะนี้สูงกว่าในภาคเอกชนเนื่องจากการอนุมัติขึ้นค่าจ้างโดยรัฐบาลที่มาจากการขึ้นภาษีธุรกิจ ซึ่งอาจส่งผลต่อแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อในช่วงนี้

ในขณะเดียวกัน ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสหราชอาณาจักรมีการเติบโตที่ชะลอตัวลง โดยราคาบ้านอยู่ในระดับสูงเป็นประวัติการณ์แต่ปรับเพิ่มอย่างค่อยเป็นค่อยไปมากขึ้น ซึ่งอัตราดอกเบี้ยที่สูงและภาษีซื้อที่อยู่อาศัยที่เพิ่งประกาศส่งผลให้ความต้องการชะลอตัว และอาจส่งผลให้ตลาดชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง โดยรายงานของ Halifax ระบุว่าราคาบ้านยังคงทรงตัวตั้งแต่กลางปี 2022 แต่การลดอัตราดอกเบี้ยที่ช้าลงอาจส่งผลต่อความสามารถและการกระตุ้นกิจกรรมในการซื้อบ้าน โดยเฉพาะในช่วงที่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังคงเปราะบางท่ามกลางต้นทุนที่เพิ่มขึ้นและสภาพแวดล้อมทางการเงินที่ท้าทาย

ทางด้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำผลงานรายสัปดาห์ที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบกว่าหนึ่งเดือน หนุนโดยการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่น้อยลง ประกอบกับการคาดการณ์เกี่ยวกับนโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ โดยเฉพาะภาษีการค้าและการลดจำนวนผู้อพยพ ที่อาจทำให้เกิดแรงกดดันต่อเงินเฟ้อเมื่อเข้ารับตำแหน่ง

ทั้งนี้ ข้อมูลเงินเฟ้อในเดือนตุลาคมแสดงให้เห็นการเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้น 2.6% เมื่อเทียบปีต่อปี อันเนื่องมาจากราคาผู้ผลิตที่สูงขึ้นและตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง โดยจำนวนผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานที่ลดลงในสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานและสนับสนุนแนวทางที่ระมัดระวังมากขึ้นของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการกำหนดนโยบายการเงิน และเมื่อรวมกับผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นที่สูงขึ้น ปัจจัยดังกล่าวจึงอาจบ่งชี้ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2025 น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้

อย่างไรก็ดี ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ เจอโรม พาวเวลล์ กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะใช้แนวทางระมัดระวังในการลดอัตราดอกเบี้ย โดยเน้นย้ำถึงพื้นฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ตลาดแรงงานที่ดี และอัตราเงินเฟ้อที่สูงกว่าเป้าหมาย และระบุว่าธนาคารกลางจำต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างรอบคอบเพื่อหลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวที่เร็วหรือช้าเกินไป ซึ่งอาจส่งผลต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (30Min) CFD GBP/USD

แนวต้านสำคัญ : 1.2677, 1.2678, 1.2681

แนวรับสำคัญ : 1.2671, 1.2670, 1.2667              

30Min Outlook

วิเคราะห์ GBP/USD ที่มา: TradingView                                              

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.2665 - 1.2671 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.2671 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2678 และ SL ที่ประมาณ 1.2662 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.2677 - 1.2683 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2692 และ SL ที่ประมาณ 1.2668 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.2677 - 1.2683 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้าน 1.2677 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2671 และ SL ที่ประมาณ 1.2686 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.2665 - 1.2671 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2658 และ SL ที่ประมาณ 1.2680 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Nov 15, 2024 09:54AM GMT+7

Name
S3
S2
S1
Pivot Points
R1
R2
R3
Classic 1.2664 1.2667 1.2671 1.2674 1.2678 1.2681 1.2685
Fibonacci 1.2667 1.267 1.2671 1.2674 1.2677 1.2678 1.2681
Camarilla 1.2673 1.2674 1.2674 1.2674 1.2676 1.2676 1.2677
Woodie's 1.2664 1.2667 1.2671 1.2674 1.2678 1.2681 1.2685
DeMark's - - 1.2673 1.2675 1.268 - -

ที่มา: Investing 1Investing 2

______________________________
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิกที่นี่
รู้เท่าทันสถานการณ์โลกและบทวิเคราะห์เทคนิคขั้นสูง: คลิกที่นี่
Tags:

TECHNICAL ANALYSIS

ARTICLES